บ้าน
เป็นที่ที่เราทุกคนใฝ่หา เป็นที่พักผ่อน หลับนอน ลี้ภัย หลบภัย
สำหรับบางคน บ้านอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นสำหรับเขา เพราะปัญหาครอบครัวที่เขาเผชิญ
หรือ สำหรับบางคน เขาไม่มีที่ไหนจะเรียกว่าบ้านได้ เขาไปเรื่อย ๆ และ ไม่มีบ้านจะอยู่
แม้ว่าเราจะไม่ได้ตกอยู่ในสภาพอย่างนั้นกันทุกคน
แต่ทว่าชีวิต จิตใจ จิตวิญญาณ ของเราทุกคนนั้น ไร้บ้านที่อยู่อาศัยเหมือนกันหมด

เราทุกคนไขว่คว้าและโหยหา ที่จะได้พักผ่อน ลี้ภัย และ พักพิงจากการงานอันแสนเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้าในโลกนี้ ปัญหาที่มันเข้ามารุมล้อม กับคนในครอบครัว กับคนที่ทำงาน ที่โรงเรียน บางครั้งเราอยากจะหนีไปให้ไกลแสนไกล ไปที่ไหนสักแห่งที่เราสามารถจะเข้าไปลี้ภัย และออกจากสถานการณ์ที่แย่ ๆ เหล่านั้น

ต่อให้คุณคิดจะทำ หรือ ได้ทำแล้ว คุณก็ไม่อาจหาที่ไหนที่จะพักสงบใจได้ เพราะปัญหามันไม่ได้อยู่ที่สถานที่ ปัญหามันอยู่ในหัวใจของเราทั้งหลายต่างหาก

มาเถิด วันนี้ บรรดาผู้ที่แบกภาระหนักและเหน็ดเหนื่อย มาลี้ภัยที่นี่ ในบ้านหลังนี้
สดุดี 62.8 บอกว่า "ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ ตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา"

"วิญญาณของข้าพระองค์ปรารถนา เออ อาลัยหา บริเวณพระนิเวศของพระเจ้า
ใจ กาย ของข้าพระองค์ ร้องเพลงด้วยความชื่นบาน ถวายพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์" สดุดี 84.2

ในภาษาฮิบรู คำว่า "อาลัยหา" นั้น ใช้คำเดียวกับคำว่า "เป็นโรคคิดถึงบ้าน" ส่วนคำว่า "ปรารถนา" นั้น ใช้คำที่มีความหมายว่า "อยากจะได้สิ่งนั้น หรือ ผู้นั้นมาก ๆ จนเศร้าเสียใจ" ฉบับ NIV ใช้คำว่า "จนจะเป็นลม" กลัวว่าจะไม่ได้เข้าไปอยู่ใกล้พระเจ้า กลัวว่าจะไม่ได้มาหาพระองค์ กลัวว่าจะไม่ได้มานมัสการพระองค์
ทั้ง จิตใจ และ ร่างกาย ในฉบับขยายความ ให้คำว่า "เปล่งเสียงร้องออกมา" ก่อนที่จะ "ร้องเพลงด้วยความชื่นบาน" แด่พระเจ้า
พระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่พระเจ้าที่ตายแล้ว หรือ ที่ช่วยไม่ได้ หรือ ที่ไม่เคลื่นไหว
พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่ไม่ได้อยู่ในสิ่งของ รูปปั้น ที่มือมนุษย์ทำขึ้นมา
ขนาดสวรรค์ยังรับพระองค์ไว้ไม่ไหว เราจะเอาพระองค์ไปเปรียบกับผู้ใด พระเจ้าผู้มีชีวิตนี้ เป็นพระเจ้าผู้ที่รักคุณ และปรารถนาจะวิ่งเข้ามาหาคุณ ทันทีที่คุณเริ่มที่จะขยับเข้าไปหาพระองค์ พระองค์พร้อมจะเข้ามาโอบอุ้ม และนำพาคุณเข้ามาสู่พระองค์เจ้าเอง พระองค์ต้องการจะสวมกอดคุณไว้แน่น และบอกว่า "เรารักเจ้า อย่าไปไหนอีก อยู่กับเรา เราจะอวยพรเจ้า เราจะเติมเจ้าให้เต็มให้ด้วยกำลังของเรา และด้วยตัวเรา เจ้าจะไม่เหงา ว้าเหว่อีกเลย เพราะเราจะอยู่กับเจ้าเสมอ และเจ้าจะอยู่กับเราเสมอ เพราะว่าเรารักเจ้า"

"แม้นกกระจอกก็หาบ้านได้แล้ว และนกนางแอ่นหารังสำหรับตัวมันได้ ที่ที่มันจะตกฟองออกลูก คือที่แท่นบูชาของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา พระราชา และ พระเจ้าของข้าพระองค์" สดุดี 84.3
พระเจ้าที่คุณวิ่งเข้าไปหานี้ ทรงเป็นพระเจ้าแห่งกองทัพสวรรค์อันมีจำนวนไม่อาจนับได้ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ปกครองอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง และ ทรงเป็นพระเจ้าส่วนบุคคลของคุณ ใช่ครับ ของคุณ ของคุณเอง เมื่อคุณได้ตระหนักถึงความเป็นพระเจ้าในทั้งสามตำแหน่งนี้ คือ นายพลทัพสวรรค์ เหนือธรรมชาติ กษัตริย์ผู้ครอบครองและควบคุมทุกอย่างอยู่ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงส่งนี้ รู้จักคุณ และ อยู่เคียงข้างคุณเสมอ คุณก็จะไม่ต้องกลัวใคร หรือ อันตรายใด ๆ เลย เพราะว่า "ความสุขเป็นของบุคคลที่อาศัยในพระนิเวศของพระองค์ เขาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์เสมอ" สดุดี 84.4 นั่นคือ อาศัยอยู่ในบ้านของพระเจ้า อยู่ต่อหน้าของพระองค์เสมอ และ เมื่อเรามาอยู่ต่อหน้าของพระองค์แล้ว สิ่งเดียวที่จะออกมาจากปากของเราก็คือ การร่ำร้องบทเพลงสรรเสริญถวายแด่พระองค์ "ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา ที่ประทับของพระองค์เป็นที่รักจริง ๆ" สดุดี 84.1
"ความสุขเป็นของบุคคลที่กำลังของเขาอยู่ในพระองค์ คือ คนที่ในใจของเขาเป็นทางหลวงไปศิโยน" สดุดี 84.5 ให้คุณเข้ามาหาพระเจ้าผู้เข้มแข็งนี้ และ ให้กำลังของคุณอยู่ในพระองค์ ให้หัวใจของคุณมุ่งตรงแต่ที่จะอยู่ต่อหน้าพระเจ้าทุกวัน
และแม้ว่าระหว่างทางนั้น คุณจำต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ความว้าเหว่ ความเหงา ความทุกข์ใจ การถูกทอดทิ้ง การถูกหย่าร้าง หรือ คู่ครองละทิ้งคุณไป หรือ คนที่คุณรักจากคุณไป คืนเหงาที่คุณต้องร้องไห้ น้ำตาหลั่งริน อกหัก สอบตก ผิดหวัง ไม่ประสบความสำเร็จ ในการงาน หรือ การเรียน ขอให้คุณรู้ไว้ว่า พระเจ้าองค์นี้ ผู้ที่รักคุณนี้ พระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อพระองค์มาหาคุณ ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป และพระองค์จะให้กำลังนี้แก่คุณด้วย "ขณะที่เขาผ่านไปตามหว่างเขาบาคา ( แห่งการร้องไห้ ) เขากระทำให้เป็นที่น้ำพุ ฝนต้นฤดูกระทำให้ได้รับพระพร" สดุดี 84.6 นั่นคือ ในหุบเขาแห่งการร้องไห้ เพราะความแห้งแล้งนี้ พระเจ้าจะส่งฝนต้นฤดูมา คือ ฝนที่ก่อนฤดูหน้าฝน เพื่อจะทำให้เกิดเป็นบ่อ เป็นแอ่ง เป็นสระน้ำ แห่งพระพร เมื่อฝนหลั่งลงมาสู่พื้นดิน และซึมลงไปในปริมาณมากจนช่องว่างใต้ดินรับไม่ไหว ก็จะเกิดแรงดันให้พุ่งออกมาเป็นน้ำพุแห่งพระพรที่ไม่อาจจะเก็บไว้คนเดียวได้ และพระพรนี้จะไม่มีวันหมดไป แต่จะยิ่งเพิ่มพูนความแรงมากยิ่งขึ้น เพราะว่าพระพรนี้มากจากเบื้องบน ไม่ใช่มาจากเบื้องล่าง หรือ จากตัวเราเอง "เขาไปด้วยมีกำลังมา เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขาจะเข้าเฝ้าพระเจ้าในศิโยน ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของยาโคบ ขอทรงเงี่ยพระกรรณ ขอทอดพระเนตร ข้าแต่พระเจ้าโล่ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทอดพระเนตรหน้าผู้รับเจิมของพระองค์" สดุดี 84.7-9
พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรและมีฤทธิ์อำนาจสูงสุดนี้ ทรงฟัง ทรงเงี่ยหู และมองดู มองดูหน้าของคุณ พระองค์ได้ยิน พระองค์ตั้งใจฟังคำร้องขอ พระองค์เห็นแล้ว และพระองค์มองที่ตาของคุณ เป็นความรักยิ่งใหญ่มหัศจรรย์แค่ไหนที่พระเจ้าองค์ผู้สูงส่ง ให้ความสนใจฟัง คำร้องเรียกของเรา พระเจ้าผู้บริสุทธิ์ ต่อ เราผู้เป็นคนบาป และเราได้รับกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กำลังแห่งชัยชนะต่ออุปสรรค และ ปัญหา กำลังที่นำไปสู่ชัยชนะ ทุกย่างก้าวที่เราเดินมุ่งไปยังพระองค์ ยิ่งใกล้พระองค์มากยิ่งขึ้น เราก็ยิ่งมีชัยชนะมากยิ่งขึ้น และทุกที่ที่เราย่างเท้าก้าวเหยียบไป ทุก ๆ ที่ที่มีความเจ็บปวดและร้องไห้ ก็กลายเป็นลำธารแห่งพระพร เพราะพระเจ้าทรงเป็นกำลังของเรา เราทุกคนจะไปยืนอยู่ต่อหน้าพระเจ้า ณ ที่ประทับของพระองค์ และแม้ในความหวาดกลัวนี้ พระเจ้าทรงเป็นโล่ล้อมรอบและป้องกันคุณจากการโจมตีทั้งปวง เพราะว่า คุณ คือ ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิม ทรงเลือก ทรงแต่งตั้งไว้ ให้เป็นของพระองค์แต่ผู้เดียว มารร้ายไม่อาจมาแตะต้องตัวคุณได้ เมื่อคุณอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ ในการนมัสการ การสรรเสริญ ต่อหน้าพระเจ้า มารทนไม่ได้ และ พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์นี้ ทรง อยู่ ใน คุณ !
"เพราะว่าพันวันในบริเวณพระนิเวศของพระองค์ ดีกว่าพันวันในที่อื่น
ข้าพเจ้าจะเป็นคนเฝ้าประตูพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพเจ้า ดีกว่าอยู่ในเต้นท์ของความอธรรม" สดุดี 84.10
มาหาพระเจ้าวันนี้ ต่อให้คุณลี้ภัย หรือ หนีไปจากปัญหา หนีออกจากบ้าน ใช้เวลานับหลายวัน หลายเดือน หลายปีไปในความบาป และการทำตามใจตัวคุณเอง แต่คุณก็ไม่พบ และไม่อาจเติมหัวใจของคุณให้อิ่ม หรือ เต็มได้ คุณก็ไม่อาจหาที่ลี้ภัยที่หัวใจคุณจะพบความสงบได้เลยสักนิดเดียว มีแต่ที่นี่ที่เดียว คือ ที่ที่อยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์ ที่ที่อยู่จำเพาะพระพักตร์ของพระองค์ อยู่ต่อหน้าพระองค์เท่านั้น ให้พระเจ้าเป็นบ้านของคุณ เป็นที่พักพิง ลี้ภัยของคุณ คุณจะไม่ต้องการสิ่งไหนอีก หรือ สิ่งใดอีก พระองค์อยู่พร้อมที่นี่แล้ว พระองค์มีทุกสิ่งที่คุณเสาะหา และ ต้องการ ทุกความปรารถนา และ ความโหยหาของคุณ คุณพบได้ที่นี่ ในพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น "เพราะพระเจ้าทรงเป็นดวงอาทิตย์ และ เป็นโล่ พระองค์ปูนความชอบธรรมและเกียรติ พระเจ้ามิได้ทรงหวงของดีอันใดไว้เลยจากบุคคลที่เดินอย่างเที่ยงธรรม" สดุดี 84.11
คุณจะดำเนินชีวิตอย่างเที่ยงธรรมได้อย่างไร ในเมื่อเราทุกคนเป็นคนบาป ?
ก็โดยการไว้วางใจในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ที่พระบิดาเจ้าส่งมา
หากคุณเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ ผู้ไม่เคยทำบาปเลย ได้ถูกนับว่าเป็นคนบาป เพราะได้ทรงรับแบกเอาบาปของคุณ ที่คุณก่อขึ้นมา ไปไว้แล้วที่บนพระองค์ และทรงรับโทษทัณฑ์ที่สาสมแก่คุณนั้น ที่ไม้กางเขน พระองค์ตายแทนที่คุณ เพื่อที่คุณจะได้มีชีวิตอยู่ และหากคุณเชื่อเช่นนี้ พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงถูกตรึงตายที่ไม้กางเขน และทรงเป็นขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อที่จะมอบชีวิตใหม่ ความชอบธรรม และ เกียรติให้กับคุณ ผู้ที่ไม่สมควรจะได้รับอะไรเลยแล้ว ความสุขก็เป็นของคุณจริง ๆ และคุณก็จะได้รู้ว่า คุณที่ไม่มีบ้านจะอยู่นั้น คุณได้พบบ้านแล้ว พระเจ้าพระบิดาทรงเป็นพ่อของคุณแล้ว โดยทรงความตายของพระบุตรของพระองค์ ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของพระเจ้า เพราะว่าพระองค์ไม่ได้ทรงหวงของดีอันใดไว้เลย ฉบับขยายความเขียนว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทาน (เทลงมา) พระคุณ และ ความโปรดปราน และ พระสิริสำหรับอนาคต เกียรติ ความสง่างาม และ ความสุขจากสวรรค์ ให้กับคุณ พระองค์จะไม่ยึดอะไรไว้เลย แต่จะเทออกให้คุณจนหมด "ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา บุคคลที่วางใจในพระองค์ก็เป็นสุข" สดุดี 84.12 คุณรู้ไหมครับว่า สดุดี บทที่ 84 นี้ ประพันธ์โดยใส่ทำนอง "กีททีธ" และก็ใช้พิณที่เป็นเครื่องดนตรีของชาวฟิลิสเตีย "กิททีธ" ก็คือ คนกัท จากเมืองกัท ( โยชูวา 13.3 และ 2 ซามูเอล 6.10 และ 15.18-19) ซึ่งเป็นศัตรู และเป็นชาวต่างชาติ แต่บทเพลงที่ลูกหลานของโคราห์นำมาแต่งโดยใช้ทำนองและเครื่องดนตรีของศัตรูและชาวต่างชาตินี้ ก็เพื่อจะบ่งบอกและร้องเรียกสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเราทั้งหลายทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา ไม่ว่าคุณจะเกิดที่ไหน ว่า พระพรของพระเจ้า มีให้ไว้สำหรับทุกคน เราเป็นมนุษย์ที่เผชิญปัญหาเหมือนกันหมด ไม่ว่าเราจะอยู่ชาติไหน สังคม วัฒนธรรมแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่า คุณเป็นมนุษย์ ผู้เผชิญปัญหาที่หนักเกินแก้ไข และ คุณ ต้อง การ พระเยซูคริสต์ในชีวิตของคุณ จะหนีก็หนีไป แต่คุณจะไม่มีวันหนีพ้น ความรักของพระเจ้าไปได้ พระองค์จะตามไล่ล่าคุณดั่งสิงห์โต ไม่ใช่เพื่อตะครุบคุณ แต่ เพื่อจะโอบกอดคุณ และ บอกคุณว่า "ลูกเอ๋ย หยุดหนีได้แล้ว พ่ออยู่ที่นี่ พ่อให้อภัยแล้ว กลับมาบ้านเถิด พ่อรักเจ้า"

กลับมาอยู่บ้านกับพระเจ้าเถิด

ด้วยรักในพระคริสต์

พันธกิจแห่งการคืนดีกัน
เอ็ม สุรชัย
Surachai.Org

Visitor 641

 อ่านบทความย้อนหลัง