เอ๋ : สวัสดีค่ะ เอ็ม
เอ็ม : สวัสดีครับ
เอ๋ : สบายดีมั้ยคะ ไม่ได้เจอกันซะนานเลย
เอ็ม : สบายดีครับ ช่วงนี้พระเจ้าให้ได้พักผ่อนสองวันเต็ม ๆ นะครับ
เอ๋ : ดีจังค่ะ หนังสือเสร็จทันวันอีสเตอร์ใช่มั้ยคะ
เอ็ม : ครับเรียบร้อยครับ กำลังเขียนคำพยานชีวิตเป็นภาษาอังกฤษ เป็นเล่มที่สี่นะครับ
เอ๋ : โห ดีจังมีเวลา ทำในสิ่งที่พระเจ้าให้ตะลันต์มาอย่างเต็มที่ พระเจ้าจะทรงเพิ่มเติมให้เอ็มอย่างมากมาย
เอ็ม : ครับ ก็ตั้งใจจะใช้สองวันนี้เขียนให้จบนะครับ ตอนนี้ได้ เกือบห้าสิบหน้าแล้ว อยากจะเขียนให้ถึง สองร้อยหน้านะครับ
เอ๋ : เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงนำเอ็ม เหมือนอย่างทุก ครั้งค่ะ
เอ็ม : ขอบคุณครับ แล้วเอ๋เป็นยังไงบ้าง ?
เอ๋ : ก้อสบายดีค่ะ มีเรื่องปรึกษาเอ็มด้วย
ตอนนี้ไม่แน่ใจ ว่าพระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยให้เรียนพระคัมภีร์หรือป่าว
เอ็ม : ยังไงครับ ?
เอ๋ : เพราะเดิมน่ะ มั่นใจ ว่าพระเจ้าไม่ได้เรียกให้เรียนพระคัมภีร์เต็มเวลา หรือรับใช้เต็มเวลา
แต่พระเจ้าให้เป็นผู้สนับสนุน และรับใช้ผู้อื่น แต่เมื่อไม่นานมานี้ ตัวเองคิดถึงเรื่องเรียน พระคัมภีร์ขึ้นมา เบื่อกับการทำงานบริษัท แล้วเมื่อไม่นานมานี้ ผู้จัดการที่แผนกก้อมาทักว่า เราน่ะน่าจะไปเรียน Bible college นะ
เอ็ม : อืม แล้วเอ๋คิดยังไงครับ
เอ๋ : บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ยังไม่แน่ใจ ค่ะ แล้วก้ออ่อนแอลงกว่าเดิมด้วย
เอ็ม : พระเยซูไม่เคยให้เราสับสนนะครับ พระองค์เป็นความสว่าง พระคำพระเจ้าสอนว่า หากเราทำสิ่งใดด้วยความไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ นั่นก็เหมือนกับว่า เรากระทำโดยปราศจากความเชื่อ และ การทำอย่างนั้นก็เป็นบาปนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าเอ๋ทำบาป ผมหมายความว่า พระเยซูสอนให้เรานั่งลงคิดราคาดูก่อนจะทำอะไรเสมอ

เอ๋ : ค่ะ เมื่อวันศุกร์ประเสริฐที่ผ่านมานำพี่น้องนมัสการอธิษฐาน มีหลายอย่างที่สัมผัส
แต่ก้อเห็นว่าพี่น้องที่คริสตจักรยังไม่กล้าที่จะนมัสการพระเจ้าหรืออธิษฐานอย่างสุด ก้อได้แต่ขอพระเจ้าทรงนำ รู้ว่าพระเจ้าทรงใช้ในเรื่องการนมัสการ แค่นั้นเอง
เอ็ม : ครับ เป็นหน้าที่ของเราที่จะหนุนใจพี่น้องให้มีความกล้าหาญ ท้าทายเขาให้กล้าทำ และไว้วางใจพระเจ้ามากขึ้นในการนมัสการ และ อธิษฐาน
เอ๋ : อาจารย์ท่านก้อสัมผัสได้เหมือนกัน ท่านบอกว่ามีวิญญาณชั่วที่พยายามจะชักจูงพี่น้องให้ไม่เข้าใจ เรื่องการนมัสการ มีหลายคนที่กำลังโดนหลอก
เอ็ม : เอ๋ เคยคิดที่จะทำงานบริษัทต่อไป และ เรียนพระคัมภีร์ไปด้วย พร้อมกันหรือเปล่าครับ ?
เอ๋ : เคยค่ะ จริง แล้ว อยากเรียนเจาะจงเกี่ยวกับด้านนมัสการ มีสถาบันที่เปิดสอนเรื่องการนมัสการอยู่ไม่กี่แห่ง แต่ทุกแห่งก้อต้องเรียนเต็มเวลาทั้งนั้นเลย
เอ็ม : มีหลักสูตรการเรียนมากมายทางไปรษณีย์ ของหลายโรงเรียนพระคริสตธรรม นะครับ
เอ๋จำเป็นต้องได้ประกาศนียบัตร หรือ ปริญญาหรือเปล่าครับ หรือ เพื่อที่จะนำความรู้มาพัฒนาของประทานและงานรับใช้ที่พระเจ้าได้ทรงเรียกเอ๋
เอ๋ : ไม่จำเป็นค่ะ โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ยึดติดกับเรื่องปริญญาบัตรอะไรพวกนี้เลย
เอ็ม : งั้นผมขอแนะนำให้เรียนออนไลน์กับhttp://aibi.gospelcom.net/thai/สถาบันวาระแห่งการเก็บเกี่ยว มีคำสอนที่ตั้งอยู่บนพระคำพระเจ้า และมีภาควิชาที่เฉพาะเจาะจงกับพันธกิจของสตรี และ การนมัสการด้วย โดยเฉพาะในหมวดที่สอง "ชีวิตในอาณาจักรพระเจ้า" ผมอ่านแล้ว ขอบคุณพระเจ้ามากเลยครับ
เอ๋ : อ่อค่ะ เคยเข้าไป อยู่ มีบทเรียนเยอะเลย เคยเอาไปแบ่งปันในกลุ่มอนุชนด้วย
เอ็ม : เอ๋ คิดว่าไงครับ ?
เอ๋ : จริงแล้วก้อเคยเรียนบทเรียนพระคัมภีร์ออนไลน์ภาษาอังกฤษอยู่ที่หนึ่งนะคะ แต่ช่วงหลัง ไม่เห็นส่งเมลกลับมา Harvest Time เป็นองค์กรที่ดีนะคะ พระคัมภีร์ที่สอนก้อเข้า ง่าย และมองเห็นภาพได้ชัดเจนดี เคยเอาไปแบ่งปันในกลุ่มอนุชน แต่ว่าน้อง ๆ ไม่ค่อย ทำบทเรียนแบบนี้กัน เค้าบอกว่ามันยาว ก้อเลย สลับเปลี่ยน เพราะว่าอนุชนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องราวของพระเจ้านัก มีคนที่ไม่ใช่คริสเตียนมาร่วมกลุ่มด้วยอีก ก้อเลยแบ่งปันยาก เพราะความแตกต่างค่อนข้างมาก ที่รู้เยอะ ก้อมี ที่รู้น้อย ก้อมาก ที่ไม่รู้ นั้นก้อมีด้วย

เอ็ม : สำหรับผม โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้มาเสมอเลยว่าต้องเรียนพระคัมภีร์ แต่ว่าผมก็ติดงานที่จะต้องมีทำ เพราะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องจัดการ แต่เมื่อพระเจ้าได้เรียกผม ผมก็ได้ตัดสินใจละทิ้งทุกสิ่งเพื่อไปทำงานกับ คณะอนุชนนานาชาติ วายแวม เมื่อปี 1998-2000 และต่อมาก็กลับมาทำงานบริษัท อยู่ 2 ปี หลังจากนั้น 4 ปีต่อมาพระเจ้าเรียกให้กลับไปเรียนพระคัมภีร์อีก คราวนี้ผมก็เสาะหาบทเรียนออนไลน์ไว้เยอะมากเลยครับ แต่ก็ยังคงทำงานบริษัทต่อไปด้วย
เอ๋ : แล้วทำยังงัยถึงได้ไปเรียนที่นั่นล่ะคะ
เอ็ม : ผมเขียนจดหมายไปหาโรงเรียนที่สนใจ เขาก็ส่งแพ็คเกจมาให้อ่าน และอธิษฐาน มีให้หาคนที่รู้จักเราฝ่ายวิญญาณ 3 คน รวมศิษยาภิบาลด้วย เขียนใบรับรองให้เรา แล้วส่งกลับไปให้เขาอธิษฐานเผื่อ หากพระเจ้าอนุญาต เขาก็จะตอบรับมาเป็น เอกสารที่สามารถไปขอวีซ่าได้ ซึ่งก็จะถูกสัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงจะได้วีซ่า แล้วก็จ่ายแค่เรียน ค่าเครื่องบิน และต้องมีผู้สนับสนุนเราด้วยนะครับ เพราะว่าค่ากินค่าอยู่ก็ต้องจ่ายเอง ไม่ได้รวมอยู่ในค่าเรียน
เอ๋ : แสดงว่าเอ็มก้อต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียวใช่มั้ยคะ
เอ็ม : จริง ๆ แล้ว ผมได้เกรด 1 เกือบตกวิชาภาษาอังกฤษ และ เกลียดวิชาภาษาอังกฤษมาโดยตลอดครับ แต่ว่าผมเขียนคำพยานว่าพระเจ้าดาวน์โหลดความสามารถ ความรู้ ตอนผมอยู่มัธยมศึกษาปีที่ห้า ไว้ในหนังสือ "อนาคตใหม่ อยู่ในมือใคร?" แล้ว ซึ่งต่อมาทำให้ผมจบคุรุศาสตร์ เอก อังกฤษที่ วิทยาลัยครูจันทรเกษมนะครับ ทั้งหมดเป็นเพราะพระเจ้าครับ หากพระองค์ทรงเรียก พระองค์จะสนับสนุน เอ๋ก็เหมือนกันนะครับ
เอ๋ : อาเมน ตอนนี้หัวใจ น่ะอยากจะรับใช้พระเจ้าหลายสิ่งหลายอย่าง แต่เวลาที่มีอยู่ก้อถูกจำกัดด้วยการงาน ทำให้บางทีก้ออ่อนล้าไป (เป็นข้ออ้างของตัวเอง)

เอ็ม : ก็เลยคิดอยากให้น้อง ๆ อนุชน และ คนในคริสตจักรต่าง ๆ รับรู้ว่าหากพระเจ้าสามารถใช้คนธรรมดา ๆ อย่างผมได้ พระเจ้าก็สามารถใช้พวกเขาได้เหมือนกัน หนังสือทั้งสามเล่ม เต็มไปด้วยคำพยาน สิ่งที่พระเจ้าทำในชีวิตของผม และ ที่สำคัญทุกบท ทุกตอนเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีรู้เรื่องพระเจ้าเลย และ คนที่รู้แล้วได้เข้าใจมากขึ้นด้วยนะครับ
เอ๋ : ค่ะ เวลาเห็นใคร มีโอกาสได้รับใช้พระเจ้า ก้อชื่นชมยินดีค่ะ

เอ็ม : ผมอยากหนุนใจเอ๋ ว่า สิ่งที่เอ๋ ทำอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานที่บริษัท หรือ ที่คริสตจักร พระบิดาทรงยิ้มให้ และบอกว่า "เราพอใจแล้ว" กับเอ๋นะครับ

เอ๋ : อาเมน เชื่อเช่นกันค่ะ งานบริษัทที่ทำอยู่นี่เจ้าของก้อเป็นพี่น้องคริสเตียน มีการประกาศทุก วันพุธก่อนเลิกงานชั่วโมงนึง เชิญชวนให้พนักงานลงไปฟัง โดยไม่ถือว่าเสียเวลางาน
เอ็ม : ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเจ้านายที่ได้เชื่อฟังพระเจ้าและทำทุกสิ่งเพื่อให้คนมารู้จักพระเจ้ามากยิ่งขึ้นนะครับ ผมชื่นชมยินดีด้วยครับ
เอ๋ : พระเจ้าทรงนำให้มาอยู่ที่นี่ ด้วยน้ำพระทัยจริง ค่ะ แต่พนักงานไม่ค่อยสน กันนัก เหตุเพราะวิธีการประกาศและการสอนของพี่น้องคจ.จีนที่มาแบ่งปัน ค่อนข้างจะร้อนแรง พนักงานส่วนใหญ่ก้อเลยรับไม่ได้ และปิดกั้นตัวเอง
เอ็ม : ร้อนแรงเกินไป เหรอครับ ? 555
เอ๋ : ใช่ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไหร่คุณจะเชื่อพระเจ้าซะทีล่ะ ฟังมาก้อนานแล้วนะ ถ้าเกิดพระเจ้ากลับมาคุณก็ไม่รอด ตกนรกนะ เจตนาดีค่ะ แต่วิธีการอาจจะตรงเกินไปสำหรับคนที่นี่
เอ็ม : 555 อันนี้เรียกว่าประกาศอย่างยอห์น บัพติสโต ไงครับ
เอ๋ : เค้าเลยรู้สึกว่าเป็นเหมือนการขายตรงที่ต้องการปิดการขายให้ได้ เค้าเลยไม่เปิดประตู ต้อนรับเลย เสียดายแทนค่ะ
เอ็ม : ใช่ ผมก็คิดว่า สำหรับคนไทย ต้องใช้หลายวิธีครับ จะใช้วิธีอย่างยอห์น บัพติสโต ก็ได้ แต่ไม่ใช่ทุกครั้งนะครับ
เอ๋ : ที่นี่เค้าทำมาประมาณสามปีได้แล้วมั้งคะ มีคนรับเชื่อสองคนได้มั้งคะ แต่หลังจากนั้นเรากับเจ้านายก้อพยายามแทรกเรื่องราวให้มัน soft ลง เป็น soft sale ซะ
เอ็ม : สำคัญที่การอธิษฐานก่อนและหลังการประกาศครับ เพราะว่าโดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น ที่นำให้คนกลับใจ เห็นความบาปของเขา และ ความจำเป็นที่เขาต้องมีพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด ไม่ใช่ที่คำพูดอันชาญฉลาดของเรา
เอ๋ : ค่ะ
เอ็ม : พระเยซูไม่เคยสนใจเรื่องปริมาณ เท่ากับคุณภาพนะครับ สองคน จาก พันคน พระเยซูคริสต์ ก็ยินดีตายที่ไม้กางเขน เพื่อสองคนนั้นได้รับความรอด
เอ๋ : อาเมน พระเจ้ายิ่งใหญ่เสมอค่ะ
เอ็ม : และเราคงต้องประกาศต่อไปครับ ไม่หยุด ยิ่งรดน้ำ พรวนดิน ยิ่งหว่านเข้าไป สักวัน การเก็บเกี่ยวก็ต้องมา

เอ๋ : ใช่ค่ะ สำหรับเราเป็นผู้หว่านค่ะ พระเจ้าจะทรงนำผู้เก็บเกี่ยวมา เมื่อถึงเวลาของพระองค์
เอ็ม : ใครจะรู้ว่า พนักงานเหล่านั้นที่ได้ยินเรื่องพระเจ้าอาทิตย์ละครั้งมาเป็นเวลาสามปี หากวันหนึ่งปัญหาประดังเข้ามาในชีวิตเขา และ เขาระลึกขึ้นได้ว่า ยังมีพระเจ้าผู้หนึ่ง ที่พร้อมจะช่วยเขาได้ วันนั้นแหละครับ เขาจะวิ่งเป็นคนแรกไปรับเชื่อในชั่วโมงประกาศนั้น
เอ๋ : อาเมน รอคอยที่จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าค่ะ

เอ็ม : ผู้ที่รอคอยพระเจ้า ก็เป็นสุข ครับ

เอ๋ :
เอ็ม : ทีนี้ เอ๋ สุขใจขึ้นหรือยังครับ ?
เอ๋ : อาเมน ค่ะ สุข ทุกครั้งที่รู้ว่าพระเจ้าทรง เรา และอยู่ด้วยกับเราเสมอ

เอ็ม : นั่นแหละครับ ที่สำคัญที่สุดกว่า ปริญญา ความสำเร็จ เงินทอง แม้แต่งานรับใช้
คือ การที่เราได้ไว้วางใจ และ สงบอยู่ในพระพักตร์ของพระองค์

เอ๋ : ขอบคุณพระเจ้าค่ะ สำหรับทูตสวรรค์ที่พระองค์ส่งมาหนุนใจ เวลาอ่อนล้า
เอ็ม : ขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตเอ๋ เช่นกันนะครับ ที่ได้หนุนใจชีวิตผมเหมือนกัน
เอ๋ : ต่างฝ่ายต่างหนุนใจกัน ร่วมก่อกันขึ้นในองค์พระคริสต์เจ้า
เอ็ม : เหล็กลับเหล็กได้ เพื่อนก็ลับเพื่อนของตนได้ สุภาษิตกล่าวไว้ครับ
เอ๋ : ค่ะ จำได้

แล้วทั้งสองก็เดินยิ้มจากกันไป เพราะรู้แล้วว่า พระเจ้าทรงใช้เขาทั้งสองมาทำอะไร
คุณล่ะ ?
ตาคุณแล้ว

รักในพระคริสต์
พันธกิจแห่งการคืนดีกัน
เอ็ม สุรชัย
Surachai.Org

Visitor 93

 อ่านบทความย้อนหลัง