การจากไปอย่างกระทันหัน

ขณะผมกำลังทำงานอยู่ ก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนว่า เพื่อนคนหนึ่งของเราได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนตร์
ขณะไปโรงเรียน และ จากไปแล้วด้วยวัยยี่สิบเศษ ๆ เขากำลังศึกษาต่อปริญญาโท ที่ซาน เบอร์นาดิโน
สหรัฐอเมริกา ผมใจหาย และ เสียดายเขามาก เรารู้จักกันที่ลานเล่นสโนว์บอร์ด
ผมได้ถ่ายทำบันทึกสอนการเล่นสโนว์บอร์ดโดยให้เขาเป็นแขกรับเชิญสาธิตเป็นวิดีโอไว้ลง YouTube
เมื่อหลายเดือนก่อน เขาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ฉลาด แข็งแรง และมีบุคลิกที่ดี ขณะตัดต่อวิดีโอนั้น
พระเจ้าก็ให้ผมใส่ข้อพระคัมภีร์ลงไปด้วยในตอนจบ จาก ปัญญาจารย์ บทที่ 12 ผมไม่คิดเลยว่า
นี่จะเป็นบันทึกภาพสุดท้ายของเขา ขณะที่เขายังมีความรื่นเริงชื่นบานอยู่
"โอ เยาวชน จงเปรมปรีดิ์ในปฐมวัยของเจ้า ในปฐมวัยขของเจ้า เจ้าจงระลึกถึงพระผู้เนรมิตสร้างของเจ้า
ก่อนที่ยามทุกข์ร้อนจะมาถึง และปีเดือนใกล้เข้ามา เมื่อเจ้าจะกล่าวว่า
"ข้าไม่มีความเพลิดเพลินในปีเดือนนั้นเลย" ก่อนที่ดวงอาทิตย์ แสงสว่าง ดวงจันทร์
และดวงดาวทั้งหลายอับแสง และก่อนที่เมฆกลับมาเมื่อหมดฝนแล้ว ในกาลเมื่อคนยามเฝ้าเรือนจะตัวสั่น
และคนแข็งแรงจะคุดคู้ไป และหญิงโม่จะเลิกโม่ เพราะจำนวนลดน้อยลง และบรรดาผู้ที่เยื่ยมหน้าต่างจะมืดมัว
และประตูคู่ที่เปิดออกถนนจะปิดเสีย เมื่อเสียงโม่อ่อยลง มีเสียงนกเสียงกา เขาจะลุกขึ้น
และเสียงเพลงก็เพลาลง เออ เขาทั้งหลายกลัวที่สูง และสิ่งน่าสยดสยองก็อยู่ในหนทาง ต้นอัลมันด์มีดอก
และตั๊กแตนโมเป็นภาระ ความปรารถนาก็ประลาดไปเสีย เพราะมนุษย์กำลังไปบ้านอันถาวรของเขา
ส่วนผู้ไว้ทุกข์ก็เวียนไปมาตามถนน ก่อนที่สายเงินจะขาด หรือชามทองคำจะบรรลัย
หรือเหยือกน้ำจะแตกเสียที่น้ำพุ และผงคลีกลับไปเป็นดินอย่างเดิม
และจิตวิญญาณกลับไปสู่พระเจ้าผู้ประทานให้มานั้น"

เพื่อนของผมจากไปแล้ว และผมเสียใจที่ตอนยังมีโอกาส ผมไม่ได้คุยกับเขาเรื่องพระเจ้า ผมไม่คาดคิดว่า
ชีวิตที่ดูสดใส เข้มแข็ง มีความสามารถ มีตะลันท์และของประทานที่พระเจ้ามอบให้เขานั้น จะดับวูบลงไป
แค่พริบตาเดียว พระเจ้าพยายามเตือนบอกเราทั้งหลายว่า ชีวิตของเรานั้นเปราะบางแค่ไหน ชั่วคราวแค่ไหน และ
เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม้ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
เราไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง บางคนคิดว่า "ฉันยังเด็กอยู่ ยังวัยรุ่นอยู่ ยังหนุ่ม
ยังสาวอยู่ ฉันจะอยู่ไปอีกนาน แล้วฉันค่อยมาเชื่อพระเจ้าก็ได้
ค่อยมอบหัวใจติดตามพระเยซูตอนฉันแก่แล้วก็ได้ ยังมีเวลาอีกถมเถไป" ไม่จริงหรอกครับ
เวลาเป็นสิ่งเดียวที่คุณไม่สามารถเก็บสะสมมันไว้ได้ เวลาเป็นสิ่งเดียวที่คุณใช้แล้ว หมดแล้วหมดเลย
และเราทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด ในหนึ่งวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ประเทศไหน ฉวยโอกาสนี้
ที่ความรอดมาถึงคุณแล้ว ขณะที่คุณอ่านบรรทัดนี้อยู่ ก้มศรีษะลงและบอกพระเยซูคริสต์ว่า
"พระเยซูคริสต์เจ้า ลูกเสียใจในการกระทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมาในชีวิตของลูก
ที่ไม่ได้อยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์ ไม่ได้เอาใจใส่พระองค์ หรือ เชื่อฟังพระองค์
ลูกยอมรับว่าลูกเป็นคนบาป และลูกต้องการพระองค์ พระเยซูคริสต์เจ้า ลูกเชื่อว่าที่ไม้กางเขนนั้น
พระองค์รับโทษบาปผิดกรรมเวรทั้งหมดของลูกไป และประทานชีวิตใหม่ การยกโทษ การรื้อฟื้นคืนดีกัน
ให้กับลูกแล้ว ขอบคุณพระองค์ ขอเสด็จเข้ามาในหัวใจของลูกเวลานี้ เป็นพระเจ้า เป็นเจ้านาย
เหนือชีวิตของลูก นับต่อแต่นี้ไป ไม่ว่าลูกจะมีชีวิตอยู่ หรือ จะจากโลกนี้ ลูกก็จะได้อยู่กับพระองค์
และมีชีวิตอยู่กับพระเจ้าตลอดไป เป็นนิตย์ ขอบคุณพระองค์ ขอให้เป็นเช่นนั้น อาเมน"

แม้ว่าเพื่อนของผมจะจากไปแล้ว แต่เขาจะไม่วันถูกลืม เพราะการจากไปของเขานั้น
นำให้คนอีกหลายคนมาถึงองค์พระเยซูคริสต์เจ้า และเมื่อพระองค์เสด็จกลับมา
เราจะได้ไปอยู่ร่วมกันกับพระองค์ ตลอดไป หากคุณตัดสินใจมอบหัวใจให้กับพระเยซูวันนี้
คุณก็จะไม่ต้องกลัวความตายอีกเลย เพราะความตายเป็นแค่ประตูผ่านไปสู่ชีวิต
หากชีวิตนี้คุณรู้จักพระเยซูคริสต์ ผู้พิชิตความตาย

ชมคลิปวิดีโอ คลิกที่นี่ครับhttp://youtube.com/watch?v=8vOMnWeaa-o
แด่ตุ่น หรือ พอล

ด้วยรักในพระคริสต์
พันธกิจแห่งการคืนดีกัน
เอ็ม สุรชัย
Surachai.Org

Visitor 84

 อ่านบทความย้อนหลัง