สุภาษิต
Proverbs
ผู้เขียน กษัตริย์ซาโลมอน
ช่วงเวลา ก.ค.ศ. 1000,700 และ 1015
วัตถุประสงค์ เป็นการประมวลพระปัญญาของพระเจ้าที่นำมาเป็นบทเรียนให้แก่คนของพระเจ้าในสถานการณ์ต่าง ๆ
เนื้อหา เล่มนี้เป็นการรวบรวมคำแนะนำอันชาญฉลาดสำหรับนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ขึ้นต้นด้วย คำเตือนว่า “ความยำเกรงพระเจ้า เป็นบ่อเกิดของความรู้” (สุภาษิต 1:7) ส่วนใหญ่เป็นของกษัตริย์ซาโลมอน บทอื่น ๆ รวบรวมไว้โดยคนของเฮเซคียาห์ และผู้เขียนสองบท สุดท้ายคืออาคูร์กับเลมูเอล
โครงเรื่อง
การยกย่องปัญญา 1-9
ถ้อยคำของปราชญ์ 10-24
ประมวลข้อเขียนที่กษัตริย์เฮเซคียาห์บันทึก 25-29
ถ้อยคำของอาคูร์ และกษัตริย์เลมูเอล 30-31


ข้อควรคิด
สมบัติล้ำค่า
“ปัญญาประเสริฐกว่าทับทิม และบรรดาสิ่งที่เจ้าปรารถนาจะเปรียบกับปัญญาไม่ได้”
(สุภาษิต 3:15)

ผมจำภาษิต “มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม” ได้มาตั้งแต่เป็นเด็ก ต่อมาก็ได้ยินคำกล่าวที่ว่า “มีความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด” ก็ทำให้ผมพอสรุปได้ว่า ปัญญานั้น ดีกว่าทั้งทรัพย์และความรู้ เพราะคนที่มีปัญญารู้จักทั้งใช้ทรัพย์และความรู้ให้เกิดประโยชน์ เมื่อพระเจ้าตรัสกับกษัตริย์ซาโลมอน ให้ทูลขออะไรก็ได้จากพระเจ้า ซาโลมอนได้ทูลขอปัญญา ให้พระองค์รู้และเข้าใจวิธีปกครองประเทศ ซึ่งพระเจ้าทรงพอพระทัย ที่ซาโลมอนมิได้ทูลขอความมั่งคั่ง ร่ำรวย เพื่อความสุขของตนเอง แต่พระราชาปรารถนาที่จะช่วยผู้อื่น แสดงว่าซาโลมอนอ่านออกว่า สติปัญญา เป็นสิ่งมีค่าสูงสุด

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่า คนเรายังเข้าใจคำว่าปัญญาผิดอยู่มาก บางคนคนเข้าใจว่า

“รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง” รู้วิธี “เอาตัวรอด” หรือหาวิธีซิกแซกในการทำมาหากิน หลอกคนโน่นคนนี่ ให้ตัวเองได้เปรียบอย่างศรีธนนชัย นั้นเป็นถือเป็นปัญญา ซึ่งต้องนับว่าเป็นความเข้าใจผิด เพราะปัญญาตามหลักของพระคัมภีร์ ผู้มีปัญญาต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อพระเจ้า พระธรรมยากอบ 3:17 กล่าวว่า “ปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข สุภาพ ว่าง่าย เปี่ยมด้วยเมตตาและผลที่ดี ไม่ลำเอียง ไม่หน้าซื่อใจคด” พระธรรมสุภาษิต ซึ่งกษัตริย์ซาโลมอนเขียนได้บรรยายลักษณะปัญญาเช่นที่ว่านี้ไว้มาก

ปัญญานอกจากจะเป็นการอยู่ทางแห่งศีลธรรมแล้ว ปัญญาคือการเลือกเป้าหมายที่ฉลาด รวมทั้งเลือกวิธีที่ฉลาดไปสู่เป้าหมายนั้น ดังนั้นผู้มีปัญญาคือคนที่สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับ สถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม แน่นอนในที่สุดปัญญาก็จะก่อให้เกิดความมั่งคั่งตามมาได้ แต่หากเรามีทรัพย์ แต่ใช้ไม่เป็น ไม่ช้าไม่นานมันก็หมดไป ปัญญาจึงถือว่าประเสริฐที่สุด ประเสริฐกว่าเพชรนิลจินดา ทับทิม มรกต หรือแก้วแหวนเงินทอง

Visitor 411

 อ่านบทความย้อนหลัง