จงอธิษฐานอยู่เสมอ
จากสูจิบัตร วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2008

ศิษยาภิบาล


“จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ”
1 เธสะโลนิกา 5:17


การอธิษฐานเป็นการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า


เหมือนคนมีมือถืออยู่กับตัว พระเยซูทรงมอบเบอร์มือถือให้ท่านถึงพระองค์แล้ว ท่านบันทึกเอาไว้ในเครื่องของท่าน แล้วยังไงล่ะ ถ้าท่านไม่โทรถึงพระองค์ มีมือถือก็แค่นั้น เวลาลูกของเราออกนอกบ้านเรามักจะสั่งเอาไว้ว่า ถ้ากลับบ้านผิดเวลา อย่าลืมนะ ขอให้โทรบอก อย่าให้พ่อแม่ที่บ้านเป็นห่วง แต่มีเหมือนกันที่ลูกของเราเงียบไป ในเมื่อผมเป็นพ่อผมก็อดคิดไปต่างๆนาๆไม่ได้ ผมเคยมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ คุณพ่อคุณแม่ท่านอยู่นครฯ ท่านบอกให้ผมเขียนจดหมายถึงท่านเสมอ พอผมเงียบไปนานๆ ไม่ส่งข่าวคราว ท่านก็ต่อว่า ผมถามท่านว่า วันนี้ท่านทำให้พระเจ้าห่วงใยท่านหรือไม่ ผมพอจะค้นหาเหตุผลได้ว่าทำไมคนเราจึงไม่อธิษฐานให้สายสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระองค์เหนียวแน่น ซึ่งคนเรามักมีเหตุผลแก้ตัวกับพระเจ้าอยู่หลายประการ แต่ละประการเราต้องแก้ไขครับ

ลองคิดอย่างนี้

ลูกที่ Mem เบอร์มือถือของพ่อหรือแม่ไว้ในเครื่องแล้วแต่ไม่โทรติดต่อท่านนั้นเพราะอะไร
(1) เพราะคิดว่าทำไมต้องรายงาน
เราต้องการเป็นเอกเทศไงล่ะ คือ ทำไมต้องมาผูกติดกันอยู่ทั้งเช้าสายเที่ยงบ่ายค่ำ พระเยซูสอนเราไม่ใช่หรือว่า ขอโปรดประทานอาหารแก่ข้าพระองค์ในกาลวันนี้ ทำไมพระองค์สอนว่าวันนี้ ก็เพราะต้องการให้เราพึ่งพระองค์ทุกวัน
(2) เพราะคิดว่าไม่อยากรบกวน
บางคนคิดว่า การโทรบอกท่านเป็นระยะๆ ท่านจะรำคาญ แต่ผมอยากจะบอกท่านว่าพระเจ้าไม่เคยรำคาญ พระองค์ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะใกล้ชิดตัวของท่าน พระเยซูเคยเปรียบเรื่องแม่หม้ายกับผู้พิพากษา ว่า เธอไปเรียกร้องให้ผู้พิพากษาช่วยเธอ และหนุนใจว่าเราควรทูลพระองค์
โดยไม่อ่อนระอามิใช่หรือ
(3) เพราะเพลิดเพลินกับเรื่องอื่น
เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้ลูกไม่โทรคุยกับพ่อกับแม่ ก็เพราะพอเขาอยู่กับเพื่อนกับฝูง อยู่ในห้าง ฯลฯ ก็เพลิดเพลินไปตามเรื่องตามราว จนคิดถึงมือถือสักนิด วันนี้ ผมคิดว่ามีคริสเตียนไม่น้อยที่เพลิดเพลินไปกับสิ่งอื่น อาจเป็นงานที่ท่านทำ ครอบครัวทีท่านกินอยู่ บ้าน ที่ดิน รถ หรือความสนุกสนานก็อาจเป็นได้ ครับเพลินอยู่กับเรื่องร้อยแปด จนไม่มีเวลาอธิษฐานหรือนึกถึงพระเจ้า
(4) แบตหมด
แทบไม่น่าเชื่อน่ะ บ่อยครั้งเวลาเราถามลูกว่า เออ ทำไม ไม่โทร โทรศัพท์ก็อยู่กับมือ “แบต เตอร์รี่หมดครับ” หรือ “แบตเตอร์รี่หมดค่ะ” ลืมชาร์ทไฟ ข้ออ้างนี้คริสเตียนบางคนคงอ้างกับพระเจ้าได้หรือ คริสเตียนแบตหมด คือคริสเตียนที่ไม่ชาร์ทไฟแห่งพระวิญญาณให้ชีวิตของเรามีไฟอยู่เสมอ

ผมบอกให้น่ะ เวลาอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริงๆ คุณไม่สบาย หรือสตางค์หมดกระเป๋า บัตรเครดิตก็ไม่มี แถมหลงทาง ลูกที่มีมือถือ จะลุกลี้ลุกลน โทรถึงพ่อถึงแม่ของท่าน โทษที ถ้าแบตหมด หากมีเหรียญบาทอยู่แค่เหรียญเดียวท่านก็วิ่งหาตู้โทรศัพท์ ผมบอกให้ บางทียังหน้าด้าน กล้ายืมมือถือคนแปลกหน้าโทรก็ยังได้ จริงไหม
พี่น้องที่รัก ไม่ต้องรอให้ตกอยู่ในสภาพนั้นหรอก ท่านอธิษฐานทูลพระองค์เสมอ ทูลได้ทุกวัน การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้า ไม่ใช่ต้องรอจนตกอับ เข้าตาจน ดิ้นไม่ได้มิใช่หรือ
จงอธิษฐานเสมอ



ด้วยความรักครับ

Visitor 412

 อ่านบทความย้อนหลัง