วันที่ 30 พฤศจิกายน 2008

ช่วยกันสร้าง “พลเมืองดีมีน้ำใจ”

สวัสดีค่ะพี่น้องทุก ๆ ท่าน

คุยกันคราวก่อนได้ ทิ้งท้ายไว้ว่า ช่วยกันสร้าง “พลเมืองสัตย์ซื่อ” ฉันคิดว่าสัตย์ซื่อ หรือซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นพลเมืองดีด้วย เพราะขึ้นชื่อว่า ดี แล้ว จำแนกแยกแยะได้นับไม่ถ้วน ในเรื่องความดี บวกกับความมีน้ำใจเข้าไปอีก รับรองประเทศไทยสุขสงบเป็นสยามเมืองยิ้ม สมกับฉายาที่ได้รับจริง ๆ และถ้ามนุษยฺทุกคนเป็นคนดีมีน้ำใจ โลกใบนี้จะกลายเป็นโลกในฝัน โลกอุดมคติที่ทุกคนอยากให้เป็นจริง ๆ

ากนะคะที่จะเป็นอย่างที่หวัง

แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง พระเยซู พระองค์กำลังจะเสด็จลงมาจัดการกับโลกใบนี้ ให้เป็นโลกอย่างที่คุณต้องการ โลกที่อุดมด้วยคนดีมีน้ำใจ มีความรักเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน อบอวล ด้วยกิล่นอายความสุขสงบ ชื่นมื่น เปรมปรีดิ์ในดวงจิตของทุก ๆ คน อดทนรอนะคะ
สำหรับพี่น้องที่ยังไม่รู้จักว่า พระเยซูคือใคร โทรศัพท์ไปขอทำความรู้จักกับพระเยซู ได้ที่คริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ โทร.02-331-0861 ต่อ 101 หรือคุณจะเดินทางไปที่คริสตจักร หาไม่ยากค่ะ คริสตจักรตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 24 จากปากซอยเข้าไปแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว คริสตจักรเปิดทุกวันอังคาร-พุธ-พฤหัสบดี-ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ปิดวันจันทร์วันเดียว เชิญค่ะ พระเยซู พระองค์รอคอยทำความรู้จักกับคุณทุกคนตลอดเวลาค่ะ
ลับมาประเด็นช่วยกันสร้าง “พลเมืองดีมีน้ำใจ” ต้องเริ่มจากภายในครอบครัวของเรา ซึ่งถือว่เป็นหน่วยเล็กที่สุดในสังคม แต่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อความเป็นไปของประเทศของโลกกลม ๆ ใบนี้ เพราะคนในครอบครัวนี่เอง ที่ออกไปคุมทิศทางของชาติ และของโลก

  • หยุด! ถ้าคุณคิดว่าฉันคนเดียวจะเปลี่ยนประเทศ เปลี่ยนโลกได้อย่างไร
  • หยุด! ถ้าคุณคิดว่า ทำไปก็เท่านั้น ไม่เห็นผลอะไร
  • หยุด! ความคิดเห็นแก่ตัวอย่างนี้ (ขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ อีกครั้ง)
    เพราะ คุณไม่ได้ทำคนเดียว พวกเรา จะช่วยกันเดี๋ยวนี้สื่อสารไร้พรมแดน เรื่องที่เราคุยกันนี้ สามารถกระจายไปทั่วโลก คนอ่านภาษาไทยมีอยู่ทั่วโลก เขากำลังอ่าน กำลังอยู่ในวงสนทนากับเรา และผวกเขากำลังแปลให้คนข้าง ๆ ที่ไม่เข้าใจภาษาไทย ให้รู้ว่าพวกเรากำลังคุยเรื่องอะไรกัน ฉันเชื่อว่าพวกเขาก็กำลังเชิญชวนกันสร้าง “พลเมืองดีมีน้ำใจ” ด้วยกันกับพวกเราเหมือนกัน

    เห็นไหมคะ

    คุณไม่ได้ทำคนเดียว และพวกเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง จึงอย่าคิดว่า “ฉันต้องเห็นผลฉันจึงทำ” แต่เราทำเพื่อสังคม เพื่อประเทศของทุก ๆ คน เพื่อโลกใบนี้ด้วย ในฐานะพลเมืองของโลก ให้สมกับที่พระเจ้าสร้างพวกเรามาเพื่อจรรโลงโลกอันสวยงามใบนี้

    “ผล” อาจจะเกิดในช่วงอายุของพวกเรา หรือรุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นต่อ ๆ ไปในอนาคต พวกเราก็จะร่วมมือกัน ช่วยกันสร้าง “พลเมืองดีมีน้ำใจ” ต่อไป ใช่ไหมค่ะ!

    ล้ววันนี้คุณสอนลูกอย่างไร
    ทำให้เขาอ่อนปวกเปียกหรือเข้มแข็ง ทำให้เขารู้ความจริงของชีวิตหรือหลงละเมออยู่แต่ในโลกของความฝัน ทำให้เขากล้าหาญยอมรับผิดในผลการกระทำของตัวเอง หรือขี้ขลาดเฝ้าแต่โยนบาปโทษคนโน้นทีโทษคนนี้ที ทำให้เขาเห็นแก่ตัว หรือมีน้ำใจโอบอ้อมอารี ทำให้เขาอยู่ในโลกส่วนตัวที่แสนคับแคบ หรือมีสายตากว้างไกล มองเห็นความจริงของชีวิต เข้าใจสถานะการณ์ต่ง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเขาทุก เมื่อเชื่อวัน ทำให้เขา....
    อนลูกยังเล็ก เมื่อเขาหกล้ม “คุณทำอย่างไร” รับเข้าไปอุ้มพลางปลอบโยน “โอ้...โอ๋...ลูกเจ็บตรงไหนนี่ ๆ (ว่าแล้วก็ตีพื้นตรงนั้น หรือเหวี่ยงเก้าอี้ของเล่น ก้อนหิน ฯลฯ ที่วางเกะกะเป็นเหตุให้ลูกหกล้มกระเด็นหรือไม่) แต่ตีมันแล้ว มันทำให้ลูกหกล้ม นี่ ๆ ...แม่ตีมันเลย...” การกระทำอย่างนี้ รู้ไหมคะ คุณกำลังลงมือฉีด “ไวรัสโทษคนอื่น” ให้ลูกโดยไม่รู้ตัว เพราะเขาหกล้มเกิดจากตัวเขาเองไม่ระมัดระวัง คุณต้องบอกความจริง กับเขา สอนเขาให้รู้จักรักษาตัวเองเพื่อความปลอดภัยของเขา ห้ามคิดว่าลูกยังเล็กไม่เข้าใจ พ่อแม่จำนวนไม่น้อยชอบคิดแทนลูก แล้วทำอะไรทำนองนี้ไปเรื่อย ๆ จนลูกโต “ไอ้นิสัยชอบโทษคนอื่น” เลยสยายปีกแพร่คลุมจิตใจของเขา จนยากจะถอนออก

    รือเมื่อลูกบ่นทำการบ้านไม่ได้ โทษครูให้การบ้านยาก โดยไม่ถามว่าลูกตั้งใจเรียนในชั่วโมงหรือเปล่าว มีข้อสงสัยไม่เข้าใจถามครูหรือไม่ หรือเมื่อลูกบอกถูกเพื่อนชกปาก ด่าเพื่อนลูกทันที โดยไม่ถามว่าลูกไปทำอะไรเขาล่ะ เขาถึงชกปากลูก ฯลฯ
    ยังมีเรื่องต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ลูกต้องเจอะเจอกว่าเขาจะโต ออกไปเผชิญโลกกว้าง วิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัวแต่ละวัน จะส่งผลให้เขาออกไปทำอะไรกับสังคมกับประเทศ กับโลกใบนี้ คือคุณเองที่ทำให้เขาเป็นอย่างนั้น
    พูดถึง “ความมีน้ำใจ” ต้องยอมรับว่า กำลังหายากร่อยหรอลงไปทุกวัน ๆ ในสังคมไทย พวกเราต้องรีบเร่งสร้างลูก ๆ ของเราให้เป็นคนดี และมีน้ำใจด้วย พรุ่งนี้เวลาไปรับลูกที่โรงเรียน อย่าลืมติดขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือผลไม้หั่นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ถุงสวย ๆ ไปฝากเพื่อนของลูกด้วยนะคะ ลองชวนลูกช่วยจูงคนแก่งก ๆ เงิ่น ๆ ที่กำลังจะข้ามถนนทางเดียวกัน หรือชวนลูกทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อคนอื่น ซึ่งมีอยู่มากมายทั้งในบ้านของเราเอง ในระแวกบ้าน ในสถานที่ที่เราออกไปอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ฯลฯ
    ยดน้ำใจที่คุณเติมลงไปในชีวิตของลูกทีละหยด ๆ จะถูกดูดซับเข้าไปในจิตใจของเขาจนชุ่มฉ่ำด้วยความมีน้ำใจ พร้อมจะไหลรินไปสู่ผู้อื่น เขาจะรู้จักให้ ไม่เห็นแก่ตัว ผนวกกับความดีที่คุณเพาะชำในใจเขาซ้ำแล้วซ้ำอีเป็นปี ๆ ด้วยความอดทนและมีความหวัง ที่สุดคุณจะประสบผลสำเร็จเป็นผู้สร้าง “พลเมืองดีมีน้ำใจ” ให้กับโลกกลม ๆ ใบนี้

    งมือช่วยกันวันนี้ เดี๋ยวนี้เลยนะคะ
    ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรค่ะ

    ข้อคิดจากพระคัมภีร์

    จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะไม่พรากจากทางนั้น
    (สุภาษิต 22:6)
    ความโง่มักอยู่ในใจของเด็ก แต่ไม้เรียวที่ตีสอนก็ขับมันให้ห่างไปจากเขา
    (สุภาษิต 22:15)
    จงตีสอนบุตรชายของตนเมื่อยังมีความหวัง อย่าจงใจให้เขาถึงพินาศไป
    (สุภาษิต 19:18)
    เพราะว่าทางของคนก็อยู่ในสายพระเนตรพระเจ้า และพระองค์ทรงเฝ้าดูวิถีทั้งสิ้นของเขา
    (สุภาษิต 5:2)

    Visitor 71

  •  อ่านบทความย้อนหลัง