ทรงเป็นพระบิดาของลูกกำพร้า
"เพื่อประทานความยุติธรรมแก่คนกำพร้าพ่อ และคนถูกบีบบังคับ"
( สดุดี 10:18 )

“ธัมมะที่บริสุทธิ์ไร้มลทินต่อพระพักตร์พระเจ้าและพระบิดานั้น คือการเยี่ยมเยียนเด็กกำพร้าและหญิงม่ายที่มีความทุกข์ร้อน และรักษาตัวให้พ้นจากราคีของโลก”
( ยากอบ 1:27 )

พระเจ้าฝากชาวยิวให้ชายตาดูแลคน 3 ประเภท คือ (1) คนต่างด้าว (2) แม่ม่าย และ (3) ลูกกำพร้า จะต้องให้ความยุติธรรมและไม่เอารัดเอาเปรียบเขา ( เฉลยธรรมบัญญัติ 24:17)
วันนี้ ขอพูดเรื่องเด็กกำพร้า
“เด็ก” ต้องการความรักความอบอุ่น พระเจ้าทรงออก แบบการเกิดมาของเด็ก ให้ต้องพึ่งพาอาศัยพ่อแม่ ผมเคยเห็นวัวออกลูก ไม่น่าเชื่อนะครับ ในเวลาไม่นานนักหลังคลอดมันก็ลุกขึ้นมายืนสี่ขา พิงแม่ของมันได้ แล้วไม่นานมันก็ดูดนมจากแม่มันได้ด้วย แต่คนไม่เป็นอย่างนั้น ถ้าไม่มีแม่ให้นม อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม อุ้มให้ความรักการช่วยเหลือ เด็กจะ มีชีวิตรอดไม่ได้ แล้วก็ไม่ใช่แค่วันสองวันนะครับ ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ก่อนลูกจะคลอดก็ต้องอุ้มท้องนานร่วม 9 เดือน คลอดแล้วช่วงให้นมก็เป็นปีเหมือนกันฟันน้ำนมจึงจะงอก เมื่อฟันงอกแล้วเด็กจึงจะกินกล้วยน้ำว้าหรือข้าวบดได้ คริสตจักรของเราเคยไปเลี้ยงอาหารที่บ้านเด็กกำพร้าที่พญาไท ปรากฏว่าสิ่งที่เด็กต้องการมากกว่าสิ่งใด คือ อยากให้มีคนอุ้มเขา พี่เลี้ยงที่บ้านเด็กกำพร้าบอกเราว่า อาหารนั้นหลายหน่วย งานฝากมาให้มากมายแล้ว แต่สิ่งต้องการคือ“อยากได้คนมาช่วยอุ้มเด็ก”

เด็กยังต้องการ การดูแลก่อนวัยเรียน การเข้าเรียนในชั้นอนุบาล การมีพ่อแม่เป็นแบบอย่าง อบรมบ่มนิสัย การปั้น การตีสอนเวลาทำผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เด็กที่ทำผิด ไม่ถูกดุด่าว่ากล่าว ไม่ถูกตีสอน ก็จะรู้สึกไม่มั่นคง ว้าเหว่ ไม่ปลอดภัย และไม่อบอุ่น เขาจะเติบโตขึ้นเหมือน แก้วที่มีน้ำครึ่งแก้ว เหมือนคนที่ไม่มีความมั่นใจ ขาดอะไรไปก็ไม่รู้ สุขภาพจิตไม่สมบูรณ์ เด็กที่มีทั้งพ่อทั้งแม่อยู่ครบ จึงเป็นเด็กที่ค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องนี้ ไม่แปลกที่พระเจ้าทรงเป็นห่วงในเรื่องนี้และฝากการดูแลเด็กที่กำพร้าพ่อแม่ ไว้ให้คริสตจักรช่วยดูแลเป็นพิเศษ มันมิใช่แต่เรื่องช่วยเหลือในกองทุนเท่านั้น แต่เป็นเรืองของการเติมส่วนที่ขาดอยู่ด้วย ภาวะกำพร้าพ่อแม่ มิใช่เป็นสิ่งที่ใครจะเลือกได้เอง แต่เมื่อมีเด็กเช่นนี้ เราต้องช่วยเหลือเขา พระคัมภีร์บอกเราว่าพระเจ้าทรงเป็นพ่อของลูกกำพร้า

นอกจากนั้น สิ่งที่ผมพบ
เด็กบางคนอาจมีพ่อหรือแม่อยู่ครบ แต่พ่อหรือแม่มิได้ทำหน้าที่หรือบทบาทให้สมกับการเป็นพ่อแม่ ปล่อยปละละเลย ทอดทิ้ง ยุ่งขิงอยู่กับงาน หรือเดินทางออกไปทำงานต่างถิ่น ทอดทิ้งลูก หรือหย่าร้าง พ่อไปทางหนึ่งแม่ไปอีกทางหนึ่ง ผมเคยสอนว่าพระเจ้าทรงเป็นดั่ง”พ่อ”ของท่าน บางคนสั่นหัว บอกว่า ถ้าพระเจ้าเป็นเหมือนพ่อ จะไม่ขอเชื่อพระเจ้าดีกว่า เพราะนึกถึงภาพพ่อของเขาที่กลับมาบ้านด้วยการเมาเหล้า เอะอะโวยวาย ด่าทอและทุบตีแม่ น่าเศร้านะครับ ที่เขามีประสบการณ์เรื่องพ่อจนทำให้เขาเข็ดขยาด “พ่อ”ขนาดนั้น

แต่วันนี้ผมมีข่าวดีบอกท่านทุกคน
ไม่ว่าท่านจะเป็นลูกกำพร้า หรือมีพ่อแม่ที่บกพร่องจนทำให้จิตใจของท่านขาดความรัก ความอบอุ่น พระเจ้าสามารถเติมเต็มส่วนที่ขาดไปนี้ให้แก่ท่าน พระเจ้ารักท่าน พระองค์สัญญารับท่านเป็นลูกที่รักของพระ องค์ เมื่อท่านเข้ามาสู่คริสตจักร เปิดใจของท่านให้พระองค์ พระวิญญาณ บริสุทธิ์สามารถประทานความรักเกินความเข้าใจมาให้ท่าน หากท่านทำผิด มีการเตือนสติสอนท่าน จงเปิดหูออกรับฟัง อย่าดื้อดึง การยอมฟังเป็นหนทางของการสร้างสรรค์ความรักอบอุ่นแก่ท่าน ( ฮีบรู 12:7-8 )
อย่าลืมนะครับ พระเจ้ารักท่าน และทรงเป็นพ่อที่ห่วงใยท่านมากที่สุด

ขอพระเจ้าอวยพระพร
สุขสันต์วันพ่อครับ

Visitor 258

 อ่านบทความย้อนหลัง