ทำไมดิฉันจึงเชื่อพระเยซู


สวัสดีค่ะพี่น้องทุก ๆ ท่าน

ากเราพิจารณาชีวิตของทุกคนที่เกิดมา และสามารถมีชีวิตอยู่รอดไม่ว่าจะนานหรือสั้นแค่ไหน ล้วนดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อทั้งสิ้น ทั้งความเชื่อที่มองเห็น ความเชื่อที่มองไม่เห็น ความเชื่อที่เข้าใจ ความเชื่อที่ไม่เข้าใจ ความเชื่อที่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ความเชื่อที่เกิดจากการคิดค้นหาเหตุผลมารองรับความเชื่อในเรื่องนั้น ๆ รวมถึงความเชื่อที่อยู่ในจิตใต้สำนึก จิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ที่พระเจ้าประทานให้มนุษย์ทุกชีวิตไม่เว้นแม้สักคนเดียว
ต่ความหยิ่งยะโส ซึ่งเป็นความบาป อันร้ายกาจที่สุดในความคิดของมนุษย์ ได้บดบังความจริงเรื่องนี้ จนคนจำนวนมากหลงคิดไปเองว่า “ตัวเองไม่เชื่ออะไรเลย” เชื่อแต่สติปัญญา ความเฉลียวฉลาดของตน ในการหาเหตุผลมารองรับเรื่องใดเรื่องหนึ่งว่าสมควรเชื่อหรือไม่เชื่อ และถ้าใครเชื่อในสิ่งที่ตนเห็นว่าเหตุผลเป็นตัวเป็นตน จับต้องได้ให้เห็นเป็นหลักฐาน ก็จะคิดเหมารวมว่า คนเหล่านั้น โง่งมงายไร้สาระ ทั้ง ๆ ที่ในโลกของความเชื่อ ทุกคนล้วนเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นทั้งสิ้น แม้แต่คนที่คิดว่า ตัวเองไม่เชื่ออะไรเลย ที่ไม่อาจเห็นได้

ตัวอย่างใกล้ตัวที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้
ทำไมเราเชื่อว่าคนนี้เป็น พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย ฯลฯ เราเห็นการก่อกำเนิดของพวกท่านหรือ เราเห็นตัวเองก่อหวอดเป็นชีวิตอยู่ในมดลูกของผู้หญิงคนนี้ รับน้ำเลี้ยงจากท่าน ค่อย ๆ เติบโต จนคลอดออกมาเป็นตัวเราได้รับการเลี้ยงดูจนเริ่มจำความได้ รู้ว่าคนนี้คือพ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ญาติโกโหติกาของเรา คุณเห็นขบวนการทั้งหมดนี้หรือ
เปล่าเลย! คุณไม่เห็นแต่คุณเชื่อ เพราะคุณได้รับคำบอกเล่าเรื่องความจริงของชีวิต ที่ไม่อาจหาข้อโต้แย้งมาคัดง้างได้เลย คุณจึงซึมซับความเชื่อนี้ตั้งแต่เริ่มรู้จักความเรื่อยไป จนกว่าชีวิตจะดับสิ้น

เป็นความเชื่อที่มองไม่เห็นตัวเหตุผล แต่ทุกคนเชื่อหมดหัวใจ ใช่ไหมคะ?

ขอเรื่องยาก ๆ อีกสักเรื่อง นักวิทยาศาสตร์หลายคน (รวมทั้งอีกหลาย ๆ คนที่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์) ไม่เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลก ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่าไม่เคยเห็นพระเจ้า ไม่เคยเห็นเวลาที่พระองค์กำลังเนรมิตสร้าง แต่เชื่อในสมมุติฐานที่กำหนดขึ้นมาจากความคิดของเหล่านักวิทยาศาตร์ว่า โลกเกิดจากขบวนการต่อไปนี้

ณ จุด ซิงคูลาริตี (ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน) ได้เกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า บิ๊กแบง คือ การชนกันอย่างรุนแรงของอนุภาคบางอย่าง(ไม่รู้ว่าอนุภาคนี้มีได้อย่างไร) แล้วเกิดเป็นอะไรต่อมิอะไรนับไม่ถ้วนที่สุดกลายเป็นจักรวาลเกิดเป็นดาวอะไรเยอะแยะไปหมด แล้วเกิดเป็นโลกนี่คือความเชื่อที่ถูกสร้างขึ้นมาในความคิด จริงเท็จอย่างไร ใครกล้ายืนยัน
ถ้าคุณยอมรับว่าจริง คุณจะตอบคำถามต่อไปนี้อย่างไร
จุดซิงคูลาริตีใครทำขึ้นมา อนุภาคนั้นใครทำ กลุ่มแก๊ส อากาศ น้ำ ใครทำ ไก่ (หรือสัตว์ทุกชนิดที่เกิดจากไข่) กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ถ้าคนวิวัฒนาการมาจากลิง ทำไมบันทึกประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่นับเป็นหลาย ๆ พันปีของโลก ไม่เคยปรากฎว่า มีลิงกลายเป็นคน มีเรื่องนับไม่ถ้วนที่วิทยาศาสตร์ตอบไม่ได้ เหมือนเพลงร้องเล่นกันสมัยฉันเป็นเด็ก ๆ ว่า “ฝนเอยทำไมจึงตก ฝนตกเพราะกบมันร้อง กบเอยทำไมจึงร้อง กบร้องเพราะท้องมันปวด ท้องเอยทำไมจึงปวด ท้องปวดเพราะข้าวมันดิบ ข้าวเอยทำไมจึงดิบ ข้าวดิบเพราะฟืนมันยเปียก ฟืนเอยทำไมจึงเปียก ฟืนเปียกเพราะฝนมันตก ฝนเอยทำไมจึงตก ฝนตกเพราะ...” ร้องวนไปวนมาไม่มีข้อสรุป แล้วจะมีมนุษย์คนไหนเก่งกาจจนหาคำตอบสุดท้ายได้แค่ชีวิตของตัวเองจะตายวันไหนยังไม่อาจรู้หรือบังคับ หรือบงการร่างกายของตนให้เป็นไปตามจิตปรารถนาของตนได้เลย
ฉันเคยสงสัยความจริงของชีวิต พยายามค้นหามาตั้งแต่เด็ก ฉันไม่เชื่อว่าสรรพสิ่งในโลกในจักรวาลเกิดขึ้นเอง ชั่วชีวิตของฉันยังไม่เคยเห็นสิ่งใด ๆ เกิดขึ้นมาเองในความว่างเปล่าเลย คุณด้วยใช่ไหมคะ ฉันเชื่อว่าต้องมีสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่ง และสร้างอย่างมีวัตถุประสงค์ และมนุษย์ไม่สามารถเข้าใจหรือรู้ได้เลย ถ้าพระเจ้าไม่เปิดเผยให้รู้ ฉันตามหาพระเจ้าองค์นี้ มานานมาก
ก่อนที่ฉันจะพบพระองค์ ฉันเคยหลงไหลในมนต์ดำไสยศาสตร์ อยากเป็นผู้ทรงคุณอันวิเศษ หูทิพย์ตาทิพย์ จนมีครอบครัว เจอะเจอปัญหาชีวิตสาหัสสากรรจ์ จึงเบนเข็มมาค้นหาความจริงของชีวิต ถูกสอนว่าทุกอย่างเกิดจากกรรม ชาติก่อนทำร้ายเขา ชาตินี้ต้องชดใช้ถูกเขาทำร้ายกลับคืน อยากพ้นทุกข์ต้องหลุดพ้น ฉันรีบเร่งทำความเพียรทุกอย่าง ทำบุญ-ทำทาน ฝึกจิตภาวนา อะไรว่าเป็นบุญกุศลฉันเพียรทำเพียรสร้าง มุ่งมั่นเด็ดขาดไม่ขอกลับมาเกิดเป็นอะไรทั้งสิ้นบนโลกใบนี้อีก
แต่ในเวลาเดียวกัน ฉันอดคิดลึก ๆ ไม่ได้ว่า มนุษย์ทำอย่างนั้นได้จริงหรือ กฎกติกาที่มนุษย์กำหนดว่า ทำอย่างนี้จึงหลุดพ้น มีสิทธิเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ชั่วนิรันดร์ เราไม่ต้องชดใช้บาปกรรมที่ได้ทำไว้กับคนอื่น ๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย หรือในชาติก่อน ๆ เพียงแต่เราสามารถ ทำอย่างนี้ได้จึงถือว่าหลุดพ้น ถ้าเป็นอย่งนี้จริง ๆ ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน สมมุติว่าฉันเคยแอบขะโมยเงินเพื่อน ไม่มีใครจับได้ ไม่มีพยาน แต่ฉันสามารถฝึกจิตจนหลุดพ้นตายไปได้ขึ้นสวรรค์นิรันดร์ ไม่ต้องกลับชาติมาเกิด ชดใช้กรรม ให้เพื่อนกลับชาติมาเกิดขะโมยเงินฉันบ้าง ฉันจะเป็นสุขอยู่บนสวรรค์ได้จริงหรือ ถ้าเพื่อนฉันเข้าไปในสวรรค์ชี้หน้าด่าฉัน “ไอ้ขี้ขะโมย” ยังไม่ได้ชดใช้ให้ข้าเลย มาลอยหน้าอยู่บนนี้ได้อย่างไร ฉันจะตอบเพื่อนคนนี้ได้อย่างไร ถ้าคุณคิดว่าฉันไม่เข้าใจขบวนการฝึกจิตให้หลุดพ้นละก้อ มาคุยกับฉันซิ แล้วคุณจะรู้ว่าฉันรู้มากกว่าที่คุณคิด และที่สุดก็รู้แจ้งเห็นจริงว่า สิ่งที่ฉันหลงคิดว่ารู้นั้นไม่เป็นความจริง ยังมีความจริงที่อยู่เหนือความจริงนี้และผู้ที่บอกความจริงที่อยู่เหนือความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับความเชื่อบนโลกนี้คือ พระเยซู
ความจริงแล้ว ฉันรู้จักพระเยซูตั้งแต่ฉันเป็นเด็กเรียนประถม แต่เวลานั้นฉันไม่สนใจพระองค์เลย ฉันเพลิดเพลินไปกับโลก ย่ำอยู่กับการชดใช้กรรม ที่ฉันเฝ้ารอว่าเมื่อไรจะหมดเสียที เมื่อไรฉันจะบรรลุหลดพ้นบ่วงกรรม จนฉันอายุประมาณ 54 ปี พระเยซูทรงเปิดตาฉันให้ฉันได้รู้จักพระองค์อีกครั้ง
ฉันไม่ได้เชื่อพระองค์ทันทีหรอกนะ ฉันคุยกับพระเยซู คัดง้างกับพระองค์ ท้าทายพระองค์ต่อรองกับพระองค์ “ถ้าพระเยซูคือพระเจ้า พระองค์ต้องทำอย่างนี้ ๆ ให้ฉัน” ฉันทำอย่างนี้ประมาณ 1 ปี คุณคงสงสัยว่าฉันคุยกับพระเยซูได้อย่างไร ก็ฉันไปโบสถ์ (คริสตจักร) ไงคะ ไปวันอาทิตย์ เพื่อเรียนรู้การนมัสการของคริสเตียน ไปวันธรรมดา เพื่อถามข้อสงสัยต่าง ๆ กับผู้รับใช้ที่ทำงานในโบสถ์ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ และคุยกับพระเยซูเป็นการส่วนตัวทุกวันด้วยการอ่านหนังสือพระคริสตธรรมคัมภีร์ ซึ่งเป็นหนังสือแห่งชีวิตที่ดีที่สุด และเป็นความจริงที่สุดในโลกนี้
ฉันอธิษฐานทุกวัน ขอพระเยซูบอกฉันถึงความจริงที่ฉันสงสัย ฉันโต้เถียง กับพระองค์ เพราะคิดว่า ตัวฉันเก่ง เป็นคนฉลาด หลงตัวเองอยู่ 1 ปี จึงยอมแพ้พระเยซู ยอมแพ้พระเจ้าไม่มีอะไรมาคัดง้างพระองค์ได้อีกต่อไป ฉันเป็นเพียงฝุ่นผงธุลีที่พระองค์เมตตาปั้นขึ้นมาด้วยความรักของพระองค์ เพื่อให้ฉันได้มีความสัมพันธ์กับพระองค์ เป็นลูกของพระองค์ เป็นสมาชิกในครอบครัวของพระองค์ ที่พระองค์รอคอยอยู่อย่างใจจดใจจ่อ และเฝ้ามองดูอยู่ตลอดเวลาด้วยความห่วงใย

ทันทีที่จิตของฉันตระหนักรู้ถึงความจริงของชีวิต รู้ว่ามนุษย์ทุกคนรวมถึงตัวฉันด้วยเป็นคนมีความผิดบาปมากมาย ต่อให้ปฏิบัติธรรมเคร่งครัดเอกอุแค่ไหน ก็ไม่มีสิทธิชำระความผิดบาปของตัวเองได้เลย มนุษย์จะตั้งกฎเกณฑ์การมีสิทธิเข้าไปอยู่ในแผ่นดินสวรรค์เป็นนิรันดร์ได้อย่างไร ในเมื่อมนุษย์มิใช่เจ้าของแผ่นดินสวรรค์นั้น และยิ่งมิใช่เจ้าของชีวิตของตัวเองด้วยเช่นกัน
ความเชื่อใดที่บอกว่า มนุษย์สามารถทำตัวเองให้บรรลุรู้แจ้งแทงตลอด ยกระดับจิตวิญญาณของตนเมื่อหมดลมหายใจตายจากโลกนี้ เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ได้นั้น ไม่เป็นความจริง
ฉันจึงสำนึกยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบาปหนา และสารภาพบาปกับพระเยซูวิงวอนขอพระองค์ยกโทษความผิดบาปทั้งหมดที่เคยทำมาทั้งที่จำได้ และจำไม่ได้ ฉันยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระผู้ไถ่ และเป็นพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวของฉัน ฉันขอบคุณพระเยซูพระองค์ยอมทนทุกข์ทรมาน สละเลือดเนื้อชีวิตจนตาย เพื่อรับโทษแทนความผิดบาปของฉัน พระองค์เปลี่ยนสถานการณ์ของฉันจากชีวิตที่สมควรอยู่ในนรก กลายเป็นพลเมืองสวรรค์ เมื่อจากโลกนี้ไป ฉันแน่ใจว่าฉันได้ไปอยู่กับพระเจ้าในแผ่นดินของพระองค์เป็นนิรันดร์
ไม่มีใครสามารถตามไปฟ้องร้องกล่าวโทษฉันได้อีก เพราะ...
ถ้ามีใครสักคนชี้หน้าว่าฉันเคยขะโมยของเขา เคยแกล้งเขา เคยด่าว่าเขา พระเยซูพระองค์ทรงรับแทนฉันว่า “เราได้ให้ชีวิตของเราชดใช้แทนแล้ว” หรือถ้ามีใคร ตามไปทวงหนี้ว่าฉันเคยโกงเขา ทวงชีวิต ว่าฉันเคยฆ่าเขา กล่าวหาว่าฉันได้เคยกระทำกับเขา ต่าง ๆ นา ๆ เมื่อครั้งยังมีชีวิตบนโลกนี้ พระเยซู พระองค์จะทรงรับแทนฉันทุกเรื่องว่า “เราได้ให้ชีวิตของเราชดใช้แทนแล้ว”
ไม่มีความผิดใด ๆ หรือความบาปใด ๆ ที่หนักเกินกว่า พระเยซูจะชดใช้แทนไม่ได้
เมื่อฉันเชื่อพระเยซู ชีวิตฉันเปลี่ยนแปลงดีขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงคนในครอบครัวของฉันด้วยทุกคน พระเยซูพระองค์สถิตอยู่ในชีวิต อยู่ในความคิด อยู่ในจิตวิญญาณ คอยให้คำแนะนำ ตักเตือน สั่งสอน พวกเราทุกคน ถึงวิถีทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ฉันยอมรับว่าครอบครัวของฉันไม่ดี 100% ทำผิดบ้าง ทำถูกบ้าง ดื้อรั้นต่อคำสอนของพระองค์บ้าง เชื่อฟังโดยดีบ้าง แต่ฉัน-สามี –ลูก 3 คน เรามีความสุขตามอัตภาพ ทุกข์บ้าง สุขบ้าง ไม่ทำให้เรากระวนกระวายจนเกิดเหตุ เมื่อมีปัญหาร้ายแรง เราเรียนรู้ ที่จะวางใจพระเยซู ประสบการณ์ที่ฉันได้รับจากพระองค์มีมากมายเกินกว่าที่จะคุยให้ฟังได้ทางนี้ ถ้าคุณอยากฟัง และอยากรู้จักพระเยซู เชิญมาที่โบสถ์ซิคะ ฉันจะเล่าให้คุณฟัง ฉันไม่เคยเบื่อเลยที่จะเล่าเรื่องพระเยซูให้คุณฟังหรือให้ใคร ๆ ฟัง เพราะเรื่องของพระเยซู เป็นเรื่องจริง เป็นชีวิตจริง และเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในโลกที่บ้านคุณซึ่งหมายถึงสมาชิกทุกคนในบ้านของคุณควรได้รู้และเมื่อรู้แล้วยอมรับพระเยซู เชื่อในพระเยซู บ้านของคุณจะเป็น “บ้านดีมีสุข” ที่แท้จริง จริง ๆ

ปีใหม่นี้เชิญคุณมาทำความรู้จักกับพระเยซู ที่คริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ อยู่ในซอยอ่อนนุช 24 กทม. หรือโทร.สอบถามเส้นทางได้ที่ 02-331-0861
พี่น้องสามัคคีธรรมทุกคน ยินดีต้อนรับ และกำลังคอยทำความรู้จักกับคุณ เพราะเรารู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว มนุษย์ทุกคนเป็นพี่น้อง มาจากแหล่งกำเนิดเดียวกันคือ พระเจ้าพระบิดา
และพระเยซูพระองค์รอคอยที่จะบอกความจริงเรื่องนี้ให้คุณรู้เพื่อนำคุณกลับสู่แผ่นดินของพระเจ้าพระบิดา เชิญมาคุยกับพระองค์ซิคะ
ขอพระเจ้าทรงอวยพะรพรค่ะ
ข้อคิดจากพระคัมภีร์
เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์
( ยอห์น 3:16 )

พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต (ปฐมกาล 2:7)

พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชาย และหญิง ( ปฐมกาล 1:27 )

Visitor 162

 อ่านบทความย้อนหลัง