วันอาทิตย์ที 21 ธันวาคม 2008

ทำไมจึงมีการมอบของขวัญกันในวันคริสตมาส
ศิษยาภิบาล
ผมโตขึ้นมาในบ้านที่คุณแม่ท่านเปิดร้านเบเกอรี่ย่อมๆในจังหวัดนครศรีธรรมราช เทศกาลคริสตมาสและปีใหม่เป็นเทศกาลที่ขนมเค้กขายดีที่สุด เราทำกันหามรุ่งหามค่ำ เสร็จไม่ทันที่ลูกค้ามาสั่ง ใครๆก็อยากมอบของขวัญให้คนที่ตนรักหรือนับถือในเทศกาลนี้ จนการบางคนเรียกว่าเป็นเทศกาลของขวัญ

ประเพณีการมอบของขวัญวันคริสตมาสมาแต่ การตระหนักว่า
พระเยซูเจ้าของวันเกิดเป็นของขวัญล้ำค่าแก่มนุษยชาติ

พระองค์ทรงประทับในสรวงสวรรค์ สุขสบาย สูงส่งทั้งอำนาจและเกียรติ หาที่เปรียบมิได้ แต่พระองค์ยังทรงยอมถ่อมพระองค์เอง เสด็จเข้ามาสู่โลกนี้ บังเกิดในรางหญ้า ในคอกวัวที่มีกลิ่นเหม็นอับ พระเยซู
ทรงยอมอยู่ในโลกนี้ด้วยความทุกข์ยาก จนถึงการวายพระชนม์ที่ไม้กางเขนเพื่อช่วยเราให้รับความรอด ธรรมดาเรามักคิดให้ของขวัญแก่คนที่เคยทำคุณความดีให้เรา เป็นการตอบแทนบุญคุณ หรือไม่เราก็มักให้ของขวัญแก่คนที่เราคิดว่า ในอนาคตเขาอาจช่วยเหลือเราได้ ผู้ปกครองบางคนเตรียมของขวัญชิ้นโตไปให้เจ้าของโรงเรียน เพราะคาดหวังว่า เขาจะช่วยลูกของเรา จนบางคนเรียกเทศกาลปีใหม่ว่าเทศกาลแลกของขวัญ คือหมูไปไก่ก็มา บางคนยังแถมโกรธอีกต่างหากที่ตนเองไม่ได้รับ เพราคิดว่าตนได้เคยทำดีไว้กับใครบ้าง

นี่ไม่ใช่วิญญาณการให้ของวันคริสตมาส เพราะ
เมื่อพระเยซู เสด็จเข้ามาในโลก พระองค์ทรงประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา คือชีวิตของพระองค์เอง พระองค์ประทานให้ด้วยความเต็มพระทัย “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
( ยอห์น 3:16 )
พระเยซูทรงสอนเราให้รักคนอื่น และสอนให้เราให้แก่เขาโดยไม่หวังการตอบแทน พ่อที่รักลูก เห็นลูกกินได้มีความสุข พ่อก็สุขใจเท่านั้น

  • ของขวัญอันเลิศล้ำ คือพระองค์
    จากสวรรค์สรรจัดตรง สู่หล้า
    ราชาน่าพิศวง ถ่อมพระทัยนอ
    บังเกิดในรางหญ้า คอกม้าลาวัว

  • ไป่สงวนศักดิ์แล้ มิถือตัว
    ช่วยมนุษย์สุดมัวซัว สุดร้าย
    รักเธอดั่งทูนหัว ของพ่อ
    พร่ำสอนบุตรสุดท้าย มอบสิ้นชีวา

    Visitor 84

  •  อ่านบทความย้อนหลัง