ออกกำลังกายแบบสบาย ๆ


สวัสดีค่ะพี่น้องทุก ๆ ท่าน


ปัญหาสุขภาพ กำลังเป็นประเด็นที่ดูเหมือนว่า จะน่ากลัวมากขึ้นทุกวัน ๆ สมัยก่อนโน้นความอ่อนแอของร่างกายหรือโรคภัยไข้เจ็บ มักโจมตีแต่คนแก่ ๆ คนหนุ่มสาวที่ไม่บังเอิญโชคร้ายมีโรคประจำตัวมาแต่กำเนิด หรือเป็นกรรมพันธุ์ จะแลดูแข็งแรงกันทั้งนั้น

ต่ปัจจุบัน หลายโรคร้ายที่เคยเป็นแต่คนแก่ เริ่มรุกคืบเข้าไปทำลายชีวิตคนไม่เลือกวัย หรือเพศ เช่น โรคเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ มะเร็ง อัมพฤกษ์-อัมพาต ฯลฯ เราจึงได้ยินข่าวเด็กเล็ก ๆ ตายเพราะเบาหวาน ไตวาย คนหนุ่มสาวตายเพราะมะเร็งอัมพาตกิน ฯลฯ น่ากลัวจริง ๆ นะคะ และต้องยอมรับว่าอาหารเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นโรคร้ายเหล่านี้ เพราะชีวิตปัจจุบันเรากินอาหารแปรรูปมากเกินไป

าหารเหล่านี้ผ่านขบวนการจนมองดูน่ากิ๊น...น่ากิน แต่ทำจากอะไรไม่ค่อยแน่ใจ อาจผสมอะไร แล้วก็อะไรต่อมิอะไร เป็นพิษเป็นภัยต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน เรา ๆ ท่าน ๆ ซึ่งเป็นผู้ต้องซื้อมากิน ไม่รู้เลย อันตรายต่อชีวิต-สุขภาพของเราทุกคนจริง ๆ แต่วันนี้เราจะยังไม่คุยกันเรื่องนี้นะคะ

ราจะพูดกันถึงเรื่อง การออกกำลังกาย
เพราะสาเหตุสำคัญอีกอย่างที่เป็นตัวทำลายสุขภาพของทุกคน คือการขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย อันเนื่องมาจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยี สามารถผลิตเครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสดวกสบายในวิถีชีวิตประจำวัน จนเป็นเหตุให้มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ลองพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้

ปเดินเที่ยวในห้าง มีบันไดเลื่อน แค่ยืนนิ่ง ๆ ไม่ต้องเคลื่อนไหวแขนขาก็ไปถึงชั้นไหน ๆ ได้ นั่งเฉย ๆ ดูที.วี.ที่บ้าน เปลี่ยนช่อง ปรับเสียง ใช้นิ้วเดียวกดรีโมทก็ได้ตามต้องการ ทำอาหารยิ่งสบาย ซื้ออาหารเตรียมสำเร็จ แกะจากห่อเทใส่จานชาม (หรือบางชนิดใช้ได้ทั้งภาชนะบรรจุ) ยัดเข้าเตาไมโครเวฟ 2-3 นาทีได้กินทันใจ ไม่ต้องสาละวนร่างกายอะไรมากมาย

างคนทำงานวัน ๆ นั่งแต่หน้าคอม ฯ ใช้ตาดูหน้าจอใช้นิ้วจิ้มๆ คีย์บอร์ด เคลื่อนไหวร่างกายน้อยมาก

หรือบางคนโหมทำงานมาก ๆ หวังกอบโกยแต่เงิน...แล้วก็ใช้เงินจนเกิน...เกิน หาเท่าไรไม่เคยพอ เลยต้องคิดทำแต่งาน ๆ จนไม่มีเวลาออกกำลังกาย

หรืออยากออกกำลังกาย ก็เดินเข้าฟิตเนสจ่ายเงินเป็นพันเป็นหมื่น โก้เก๋หรูหราดูทันสมัยดี เข้าไปเดิน ๆ วิ่ง ๆ บนสายพาน ยกนั่นนิดยกนี่หน่อย สูดอากาศจากเครื่องปรับอากาศอันแสนเย็นฉ่ำ (แต่ไม่รู้ผสมแบคทีเรียด้วยหรือไม่) ก็คิดว่าน่าจะเพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งความจริงไม่พอสำหรับร่างกายค่ะ

ารออกกำลังกายนั้น หมายถึงการเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนในอัตรา และท่าทางที่เหมาะสมตามสภาพร่างกาย และวัยของแต่ละบุคคล ในภาวะที่จิตใจอารมณ์สบาย ๆ ฉันเคยเห็นคนในฟิตเนส เดินบนสายพานไป พูดโทรศัพท์ไป หน้าตาเคร่งเครียด บ่งบอกสภาพอารมณ์กำลังแปรปรวน อย่างนี้แม้จะเดินเป็นชั่วโมง ก็ไม่เกิดผลดีต่อร่างกาย เพราะความเครียด จะทำให้ร่างกายหลั่งสารบางอย่างออกมาทำร้ายร่างกายให้อ่อนแอลง

การออกกำลังกายที่ถูกต้อง จึงต้องทำในสภาวะที่ร่างกายจิตใจผ่อนคลาย สบาย ๆๆ ซึ่งสามารถทำได้ตลอดเวลาทั้งในบ้าน นอกบ้าน ไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนส หรือสวนสาธารณะ หรือสถานที่ ๆ คุณคิดว่า ตรงนั้นเป็นสถานที่ออกกำลังกาย และสามารถทำได้ง่าย ๆ ในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณ ขอเพียงให้คุณได้มีโอกาสเคลื่อนไหวร่างกาย ส่วนนั้นบ้าง ส่วนนี้บ้าง ก็ใช่เลย ลองพิจารณาเพิ่มเติมทางเลือกต่อไปนี้ดูนะคะ

ถ้าคุณทำงาน ต้องขึ้นรถประจำทาง ลองตื่นเช้ากว่าปกติสักครึ่งชั่วมง เผื่อมีเวลาเดินเพิ่มขึ้นเป็น 2 ป้ายรถเมล์ (เช้า ๆ อากาศดีสูดหายใจแรง ๆ รับออกซิเจนเข้าไปฟอกเลือดให้เต็มปอด) ถึงที่ทำงานใช้ลิฟท์น้อยลง ยึดหลักเดินขึ้นบันได 2 ชั้น ก่อนถึงสำนักงาน พักเที่ยงและเวลาเลิกงาน เดินลงบันได 3 ชั้น (เพราะขาลงจะรู้สึกเมื่อยน้อยกว่าขาขึ้น) ระหว่างเดินเมื่อไรก็ตาม กำมือ-แบมือ เพื่อบริหาร มือ ข้อมือ นิ้วมือ ไปในตัว ถ้าโอกาสเอื้อ บริหารคอโดยหันซ้ายหันขวา ก้ม-เงย ทำแบบนี้ทุกวัน ตามความเหมาะสมของช่วงเวลา เท่ากับว่าคุณได้ออกกำลังกายโดยไม่เสียเวลาทำงานเลย แม้ขณะนั่งทำงาน ลองเหยียดเท้าออกไปตรง ๆ จิกปลายเท้าลง ยกปลายเท้าขึ้น (ไม่มีใครเห็นเพราะอยู่ใต้โต๊ะ) คุณก็ได้บริหารข้อเท้า นิ้วเท้า ขา อย่าง สบาย ๆ แล้ว
ากคุณเป็นแม่บ้าน จ่ายตลาดทุกวัน ลองหาเรื่องเดินมากขึ้น โดยเดินไปทั่ว ๆ ตลาด สำรวจดูผัก ผลโม้ ฯลฯ ก่อนตัดสินใจซื้อ อย่ามุ่งไปที่ร้านขาประจำ รีบ ๆ ซื้อ แล้วกลับบ้าน เพราะร่างกายคุณจะเคลื่อนไหวน้อย ถ้าคุณมักคุ้นกับแม่ค้าแม่ขาย ลองเดินส่งยิ้มทักคนนั้นนิด ทักคนนี้หน่อย หรือทักลูกค้าที่มาจ่ายตลาดเหมือนคุณ “วันนี้ทำอะไรทานค่ะ” “ผักนี่เอาทำอะไร ขอสูตรไปทำกินบ้างได้ไหม”....สร้างสัมพันธ์กับผู้คนที่คุณเจอะเจอจนคุ้นหน้าคุ้นตา คุณจะได้เพื่อนเพิ่มขึ้น จิตใจเบิกบานดี
ระหว่างทำงานบ้าน เก็บกวาดเช็ดถู จัดเตรียมเครื่องปรุงอาหาร ฯลฯ ล้วนต้องเคลื่อนไหวร่างกายทั้งสิ้น ลองเพิ่มการขยับร่างกายให้มากขึ้น โดยไม่ถือจานชามคราวละมาก ๆ เพื่อจัดโต๊ะอาหาร เปลี่ยนมาหยิบครั้งละใบ-2 ใบไปวางบนโต๊ะ เพื่อจะได้เดินมากขึ้น เป็นต้น เวลาดูที.วี. อย่าใช้รีโมท ลุกขึ้นไปเปลี่ยนช่อง ปรับเสียงที่ตัวเครื่อง ร่างกายคุณได้ขยับเขยื้อนเพิ่มขึ้น และช่วงพักโฆษณาก็เหยียดขา-แขน ก้ม ๆ เงย ๆ บิดตัวซ้ายทีขวาที บิดคอทางโน้นทีทางนี้ที ก้มหน้า-แหงนหน้า ถือว่าได้ออกกำลังกายเช่นกัน
ย่าลืมบริหารดวงตา ด้วยการมองออกไปไกล ๆ ถ้ามีต้นไม้ให้มองไปที่พุ่มไม้เขียว ๆ (สีเขียวดีต่อสายตา) แล้วขยับสายตามองเข้ามาใกล้ ๆ สลับไปมา กรอกดวงตาเป็นวงกลม คือ มองขวา มองบน มองซ้าย มองล่าง ทำอย่างนี้ทุกวัน กี่ครั้งก็ได้ เมื่อไรก็ได้ตามเวลาที่เหมาะสมของคุณ แม้จะอยู่ที่ทำงานก็ทำได้เหมือนกัน
บหน้าเป็นอีกส่วนหนึ่งของร่างกาย ที่ต้องบริหารเพื่อกระชับผิวหน้า ชะลอริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์ให้เกิดช้าลง ทำง่าย ๆ ค่ะ คือ ทำปากจู๋ แบะปาก อ้าปากกว้าง ๆ หุบปาก ทำปากป่อง ๆ อมลมไว้ที่กระพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้าง ทำปากสั่น ๆ ปิดปากแล้วบิดไปทางซ้ายที ขวาที เลิกกคิ้วขึ้น – ลง เท่านี้ก็เพียงพอที่จะช่วยกระชับผิวหน้า ไม่ต้องเข้าร้านเสริมสวยให้เปลืองสตุ้งสตางค์ แต่เวลาบริหารใบหน้า อย่าให้ใครเห็นนะคะ เดี๋ยวเขาจะตกใจคิดว่าคุณเป็นโรคชักกระตุก
ริหารร่างกายแบบสบาย ๆ ไปแล้ว ต้องออกกำลังกายที่อารมณ์จิตใจความคิด ควบคู่ไปด้วย จึงจะครบถ้วนกระบวนความ ด้วยการมองแต่สิ่งดี ๆ รอบ ๆ ตัวเรารวมทั้งตัวเราเอง สิ่งที่เรามี อะไร ๆ ก็สวยงาม ขอบคุณพระเจ้าจริง ๆ การมองเห็นแต่เรื่องดี ๆ งดงามทำให้เรามีความสุข จิตใจชุ่มชื่น เข้มแข็ง อาจจะทำยากสักหน่อย สำหรับบางคน แต่ไม่เกินกำลังความตั้งใจของคุณแน่นอน ฝึกทำดู แล้วความสำเร็จจะเป็นของคุณ
พิ่มอารมณ์เบิกบาน ด้วยการฮัมเพลงเบา ๆ ระหว่างทำงาน พนักงานบริษัทอาจทำยากสักนิด แต่ทำได้ถ้ามองหาจังหวะงานให้ดี ส่วนพนักงานสายการผลิตทำได้เลย สำหรับแม่บ้านทำได้อย่างสบาย ๆ กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ เดินไปตลาด ฮัมเพลงเบา ๆ ได้ทุกเมื่อ ท่วงทำนอง เสียงเพลง บทเพลง ช่วยจรรโลงจิตใจได้ดีจริง ๆ
แต่ต้องร้องเพลงดี ๆ นะคะ ไม่ใช่ประเภท “...ผัวเขาฉันก็จะเอา เป็นเมียน้อยเขาฉันก็ยอม...” หรือเพลง “ร้อยชู้หรือจะสู้เนื้อเมียตน เมียร้อยคนหรือจะสู้น้องเมียได้...” เพลงแบบนี้ห้ามร้องและห้ามฟัง เพราะมันกำลังชักนำคนร้องคนฟังให้ทำผิดศีลธรรม ขืนร้องบ่อย ๆ ฟังประจำ มโนสำนึกผิดชอบชั่วดีจะบิดเบี้ยวไป จนเห็นเรื่องเลวร้ายนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่แปลกอะไรใคร ๆ เขาก็ทำกัน ถ้าใครคิดอย่างนี้ ฉันรับรองได้ว่า คนนั้นจะรู้จักนรกตั้งแต่ยังไม่ตาย

ร้องเพลงนี้ซิคะ

“โอ้พระเยซูผู้เป็นหนทาง หากท่านได้เดินติดตาม ท่านไม่ต้องกลัวสิ่งใด
หากมีทุกข์ หรืออันตราย จะพบความมีชัย เมื่อได้พบพระเยซู
โอ้พระเยซูผู้เป็นความจริง ถ้าท่านละทิ้งทุกสิ่ง พึ่งพิงองค์พระเยซู
พระทรงรัก และทรงเอ็นดู อีกทั้งทรงเป็นผู้นำพาท่านสู่สวรรค์...”

หรือเพลงนี้

  • “ไม่มีใครเหมือนพระองค์ ไม่มีใครสัมผัสใจฉันเหมือนพระองค์”
    แม้ฉันแสวงหา ชั่วนิจนิรันดร์ก็ตาม ไม่มีใครเหมือนพระองค์....”

    สนใจเนื้อร้องเต็ม ๆ และท่วงทำนอง ขอได้ที่โบสถ์ โทร. 02-331-0861
    ต่อ 101 ค่ะ


    วิธีออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แถมด้วยการบริหารจิตใจไปด้วย ฉันเชื่อว่าทุกคนทำได้อย่ามัวแต่เงื้อง่าราคาแพง ลงมือทำกันเลยนะคะ ฉันเชื่อว่า สุขภาพกาย- สุขภาพจิตของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีก ต่อไป เพราะจะดีขึ้นทุกวัน ๆ จนประหลาดใจ

    ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร

    ข้อคิดจากพระคัมภีร์
    พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวง ที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ทรงเห็นว่าดีนัก มีเวลาเย็น และเวลาเช้าเป็นวันที่หก
    (ปฐมกาล 1:31)
    มีกำไรอยู่ในงานทุกอย่าง การเพียงแต่พูดนั้นโน้มไปทางความขาดแคลน
    (สุภาษิต 14:23)
    ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี แต่จิตใจที่หมดมานะทำให้กระดูกแห้ง
    (สุภาษิต 17:22)

    Visitor 92

  •  อ่านบทความย้อนหลัง