ช่วยด้วยผมไม่อยากติดเกมส์


สวัสดีค่ะพี่น้องทุก ๆ ท่าน


มีใครได้ยินเสียงร้องวิงวอนอย่างท้อแท้หมดหวังนี้ไหมคะ? ช่วยด้วย! ผมไม่อยากติดเกมส์ ฉันได้ยินค่ะ แต่แผ่วเบาเหลือเกิน จนไม่อาจแน่ใจว่า คนที่กำลังคร่ำครวญอยู่ตั้งใจ ที่จะเลิกติดเกมส์ และยอมรับแล้วว่าเกมส์ กำลังทำลายอนาคตของเขา

ใช่!เกมส์กำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับสังคมมนุษย์โลก
  • ใช่!เกมส์กำลังทำลายเยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติ
  • ใช่!เกมส์กำลังบั่นทอนสติปัญญา และสุขภาพจิตของผู้เล่นอย่างลุ่มหลง มากขึ้นทุกวัน ๆ ๆ
  • ใช่!เกมส์กำลังทำลายสายใยความผูกพันธ์ของคนในครอบครัว
  • ใช่!เกมส์กำลังทำลายความมั่นคงทางการเงินของบางครอบครัว
  • ใช่!เกมส์กำลังเพาะอาชญากร ออกไปทำร้ายสังคม
  • ใช่!เกมส์กำลังดึงจิตสำนึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน

    ออกจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ให้ตกลงไปในหนทางบาปทุกรูปแบบ เพื่อทำลายความรู้สึกรับผิดชอบในหน้าที่ของตน และทำลายคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม อันดีงามที่พระเจ้าฝังไว้ในจิตใจของมนุษย์ทุกคนไม่เว้นแม้สักคนเดียว ให้พังพินาศย่อยยับลงไปมากขึ้น เข้มข้นขึ้นทุกวัน ๆ ๆ


  • นอกจากเกมส์ยังมีอินเตอร์เน็ต ห้องแชตตั้งกระทู้โต้ตอบ รวมไปถึงเรื่องราวบางประเภทจากที.วี.ล้วนกำลังสร้างปัญหาเลวร้ายให้กับเรา ๆ ท่าน ๆ และลูกหลานของเรา ที่ลุ่มหลงจนตกเป็นเหยื่อของมัน

    ฉันยอมรับค่ะ เกมส์ เน็ต ที.วี. มีคุณประโยชน์มากมายมหาศาลถ้าใช้มันเป็นแต่คุณคงเห็นด้วยว่า มันยังแฝงโทษภัยมหันต์อยู่ด้วย ประกอบกับพื้นฐานจิตใจของมนุษย์มักถูกชักจูงลงสู่ที่ต่ำได้ง่าย เครื่องใช้เหล่านี้จึงกลับกลายมาเป็นภัยตัวฉกาจของมนุษย์ และเป็นภัยที่เรายอมเอามันเข้ามาไว้ในบ้าน ปล่อยให้มันแพร่เชื้อร้ายทำลายความเป็นบ้านดีมีสุขของเราอย่างไม่รู้ตัว

    วันนี้คุณมองเห็นภัยนั้นแล้วหรือยัง?

    คุณลงมือแก้ไขอย่างไร? คุณป้องกันอย่างไร? หรือคุณไม่สนใจ?
    เด็กหลายคนอนาคตดับวูบ เพราะหลงติดเนื้อหาเลวร้ายของมัน ซึมซับจนแยกไม่ออกว่า อะไรคือความจริงอะไรคือจินตนาการ
    เด็กหลายคนลุ่มหลงจนไม่เป็นอันเรียนหนังสือ วัน ๆ ฝังตัวเองอยู่ในร้านเกมส์ มั่วสุ่มกับเพื่อนก่อตัวเป็นแก๊งเป็นก๊วน ออกไปก่อเหตุร้าย ๆ ที่ผู้ใหญ่ไม่คาดคิด
    เด็กหลายคนต้องสูญเสียสมาธิซึ่งสำคัญมากในการดำเนินชีวิต ทั้ง ๆ ที่ไม่มีข้อบกพร่องทางสภาพร่างกาย แต่กลายเป็นคนสมาธิสั้น ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่อง ฟังไม่เข้าใจ เพราะถูกพ่อ-แม่ ยัดเยียดเกมส์ ที.วี. ให้ฝังเข้าไปในจิตใจ อารมณ์ การรับรู้ตั้งแต่ยังเตาะแตะ
    ยังมีปัญหาอีกมากมาย จาระนัยไม่หมดในเวลาสั้น ๆ กลับมาฟังเสียงร้องวิงวอนเสียงนั้น ซึ่งแม้จะแผ่วเบา แต่ฉันจับเสียงจากใจของคุณได้ค่ะ เราจะช่วยกัน คุณ-กับฉัน แต่ก่อนอื่นใดทั้งหมด คุณต้องยอมรับว่าคุณต้องการเปลี่ยนชีวิต-อนาคตของตัวเองไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้นจริง ๆ และคุณต้องช่วยตัวเองก่อน เริ่มขั้นตอนกันเลยนะคะ คุณทำได้แน่นอนค่ะ

    ขั้นตอนแรก สำรวจตัวเอง มองใจตัวเองให้เห็นชัดเจนก่อนว่า คุณติดเกมส์ (หรือเน็ต) มากน้อยแค่ไหน ใช้เวลากับมันวันละกี่ชั่วโมง ใช้เวลาช่วงไหนของวัน จดเป็นสถิติสัก 7 วัน ดูความรู้สึกของตัวเองว่า ถ้าวันไหนเล่นน้อยลงสักชั่วโมง หรือมีเหตุทำให้เล่นไม่ได้ อกคุณจะระเบิดหรือไม่

    ขั้นตอนที่สอง คุณยอมรับแล้วใช่ไหมว่า คุณตกเป็นทาสของมัน ความคิดพฤติกรรมของคุณกำลังเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม และมันมุ่งทำลายอนาคต-ความฝันของคุณ เพราะคุณกำลังขาดเรียน ขาดการอ่านทบทวนวิชา ผลการเรียนตกต่ำ ไม่อยากไปเรียน ไม่อยากคุยกับใครแม้แต่พ่อ-แม่–พี่น้อง อยากอยู่กับมันเท่านั้น


    ขั้นตอนที่สาม ตะโกนบอกตัวเองดัง ๆ “ผม (ฉัน) ไม่ต้องการติดเกมส์ (เน็ต) ผม (ฉัน) จะเอาชนะมันไม่ตกเป็นทาสของมันอีกต่อไป ผม (ฉัน) ต้องทำได้ ขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยให้ผม (ฉัน)รู้สึกตัวก่อนที่จะสายเกินไป” ตะโกนบอกใจตัวเองให้ดังสุดชีวิต จากนั้นเริ่มวิธีการกำจัดการครอบงำของเจ้าตัวร้ายเกมส์(เน็ต) กันเลย

    ฉันไม่แนะนำวิธีการหักดิบ (คือหยุดเล่นทันที) เหมือนวิธีที่ใช้กับคนติดยา ซึ่งเป็นวิธีรุนแรงทำให้ลงแดง ถึงตายได้ แม้คนใจแข็งอาจทำได้ แต่จำนวนไม่น้อยหวนกลับมาติดอีก และรุนแรงกว่าเดิม ฉันจึงไม่ขอให้คุณหักดิบ แต่แนะนำให้ใช้วิธีถอนทีละน้อย ตามขั้นตอนต่อไปนี้

    ก.กำหนดเป้าหมาย

    1.ตั้งเป้าหมายชัดเจน จะเอาชนะมันให้อยู่หมัด จากที่เคยเล่นวันละ ? ชั่วโมง ให้เหลือเพียงวันละ 1 ชั่วโมง และไม่จำเป็นต้องเล่นทุกวัน จะเล่นเกมส์ (หรือแช๊ต) เพื่อผ่อนคลายไม่เกินครั้งละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น


    2.ซอยเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย ๆ กำหนดลงไปเลย อาทิตย์แรก จะลดเวลาเล่นลงวันละครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ที่สองลดลงอีก ครึ่งชั่วโมง และลดลงทุกอาทิตย์ (หรือจะกำหนดทุก 10 วัน,ทุก 15 วันก็ได้) โดยระยะแรกให้ลดเวลาช่วงกลางคืน เช่น เคยเล่นถึงตี 2 ให้เลิกเล่นเร็วขึ้นเป็นตี 1 ครึ่ง เกมส์จะจบหรือไม่จบถึงเวลาเป๊งปิดเครื่องเข้านอนทันที เลื่อนเวลาเร็วขึ้นจนถึง 4 ทุ่ม ทำให้คุณมีเวลานอนมากขึ้น เป็นผลดีต่อร่างกาย ตื่นเช้าอารมณ์แจ่มใส พร้อมไปเรียนสมองโปร่ง ไม่งัวเงียหงุดหงิดง่วงเหงาหาวนอนอย่างแต่ก่อน จากนั้นเริ่มลดเวลาเล่นในช่วงกลางวัน หรือเย็น ตามที่คุณเห็นสมควร


    การจะทำเป้าหมายใหญ่ให้สำเร็จคือไม่เล่นหรือเล่นได้ไม่เกินครั้งละ 1 ชั่วโมงนั้น เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณมีวินัยในการทำเป้าหมายย่อย ๆ (ทำได้ง่ายกว่า) ให้สำเร็จ ไม่ช้านานคุณจะเป็นผู้ชนะ เปรียบเหมือนการขึ้นบันได 10 ขั้น ให้คุณกระโดดจากพื้นขึ้นไปขั้นที่ 10 คงเป็นไปได้ยาก แต่ขึ้นทีละขั้นค่อย ๆ ตะกายขึ้นไป ในที่สุดคุณก็จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้ คุณอาจแพ้ในระยะแรก ๆ อย่าหมดหวัง ให้เริ่มต้นใหม่ ล้มแล้วลุกทุกครั้ง คุณชนะแน่นอน
    ข.ปรับสภาพแวดล้อมเพื่อกำจัดจุดอ่อน

    1.ย้ายคอมส์ออกจากห้องนอน มาตั้งที่ห้องโถงกลางบ้าน ซึ่งมีที.วี.อยู่ใกล้ ๆ โต๊ะอาหารอยู่แถว ๆ นั้น เพื่อขจัดความเป็นส่วนตัวออกไป ความพลุกพล่านทำให้อารมณ์อยากเล่นเกมส์(แช๊ต)ลดลง

    2.เก็บแผ่นเกมส์ให้ห่างไกลจากเครื่องคอมส์ อาจเก็บไว้บนห้องชั้นบนสุด ใส่ลิ้นชักลั่นกุญแจ ทำให้เกิดความยุ่งยากเมื่อต้องการเล่น ถ้าเป็นสมาชิกเกมส์ออนไลน์ บอกเลิกไปเลย

    3.ไม่คุยเรื่องเกมส์กับใคร ๆ แม้แต่กับเพื่อนร่วมก๊วนเดียวกัน และดีที่สุดเลิกไปร้านเกมส์เพื่อพบเพื่อน ๆ หากมีเรื่องต้องคุย ใช้มือถือโทร.คุยได้

    ค.หาสิ่งทดแทน

    เมื่อคุณไม่เล่นเกมส์ (แช๊ต) เวลาว่างของคุณจะเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณในความรู้สึก เช่น เวลาว่างจริงมีแค่ 2 ชั่วโมง แต่คุณจะรู้สึกว่านานราว 5-6 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องหาสิ่งมาเติมเต็มเวลาว่างนั้น ๆ เพื่อดึงความคิดถึงเกมส์ออกมา สิ่งที่จะมาทดแทนดีที่สุด คือ การอ่านหนังสือ อย่าเพิ่งทำหน้าเหยเก แม้คุณจะไม่ชอบอ่านหนังสือ ฝึกได้ทันทีวันนี้ ขอเพียงใจคุณต้องการ เริ่มจากคัมภีร์ไบเบิ้ล เปิดอ่านพระธรรมสุภาษิต เพราะอ่านเข้าใจง่ายไม่ทำให้คุณเบื่อ (ถ้าคุณไม่มีหนังสือพระคริสตธรรมคัมภีร์) หรือใช้หนังสืออะไรก็ได้ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือเรียน การ์ตูน ฯลฯ ต้องอ่านทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง และอ่านติดต่อกันทุกวันนาน 49 วัน โดยเพิ่มเวลาอ่านมากขึ้นทุกวัน ๆ ละ 15 นาที คุณจะเปลี่ยนเป็นคนรักการอ่าน วันไหนไม่ได้อ่านหนังสือ ชีวิตเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง แม้ผ่านช่วงเวลาการฝึกแล้ว คุณยังต้องอ่านทุกวันนะคะ เมื่อคุณเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ฉันรับรองได้ว่า คุณจะกลายเป็นคนใหม่ โลกทัศน์ของคุณจะกว้างสุดขอบฟ้า มีสมาธิดี ทักษะการฟัง การพูดพัฒนารวดเร็ว สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมสภาพแวดล้อมอย่างชาญฉลาดขึ้น มีเรื่องคุยมากมาย หลากหลายรูปแบบ คุยกับใครก็ได้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าไม่เชื่อลองดูซิคะ แต่คุณต้องอ่านหนังสือทุกประเภทนะคะ สารคดี นิยาย (ทุกแนว) เรื่องแปล หนังสือวิชาการ นิทาน ฯลฯ ทำตัวเป็นนักอ่านจริงจังสัก 3 เดือน แล้วกลับมาคุยกันอีกครั้ง ฉันต้องกลายเป็นผู้ฟังของคุณแน่นอน
    ง.ชะงักเวลาเล่นทุกครั้ง

    เป็นเทคนิคการยับยั้งชั่งใจ ไม่ให้ทำตามใจตนเองในเรื่องที่ไม่สมควร วิธีนี้นำไปใช้ได้ในทุกเรื่องซึ่งจะมีผลช่วยให้คุณเป็นคนมีเหตุมีผลมีวิจารณญาณดีขึ้น นำไปใช้นะคะคือทุกครั้งที่จะเปิดคอมส์เพื่อเล่นเกมส์ (หรือแช๊ต) ให้สั่งตัวเองว่า “หยุดรออีกครึ่งชั่วโมงค่อยเล่น” แล้วหาเรื่องไปทำอย่างอื่น เช่นออกกำลังกาย กวาดบ้าน คุยกับ พ่อ-แม่ ทำน้ำส้มคั้นดื่มเองสักแก้ว แล้วทำเพื่อคนในบ้านด้วย ถ้าเพิ่งกลับมาจากเรียนก็เล่นเกมส์ทันทีเหมือนที่เคยทำ ก็ลองเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำให้สบาย ทบทวนวิชาที่เพิ่งเรียนมา จัดเตรียมหนังสือสำหรับวันพรุ่งนี้ หรืออ่านหนังสือที่ยังอ่านค้างอยู่ แนะนำให้วางหนังสือไว้ที่โต๊ะคอมส์ เพื่อคุณจะหยิบมาอ่านได้ทันที การฝึกอย่างนี้ จะทำให้อารมณ์ของคุณไม่ผูกติดกับเกมส์ และเริ่มรู้สึกห่างจากมันได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

    จ.หาตัวช่วย
    ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่เข็มแข็งพอ ต้องหาพันธมิตรร่วมอุดมการณ์เดียวกันจาก 2 แหล่งต่อไปนี้

    1.พันธมิตรนอกบ้าน คือเพื่อนคุณนั่นแหละ ลองถามดูว่าใครกำลังมีปัญหาเหมือนคุณ แม้จะคนละรูปแบบ เช่น คุณ ติดเกมส์ เขาติดแช๊ต ติดเพื่อนในร้านเกมส์ เป็นต้น เพราะหลักการแก้ปัญหานำมาประยุกต์ใช้กันได้ จากนั้นแบ่งปันวิธีการซึ่งกันและกัน แบ่งปันบันทึกความคืบหน้าในการฝึกฝนแก้ไข ทำได้ไม่ได้อย่างไร ทำวิธีไหนได้ผลดี คุยกันเปิดเผยให้กำลังใจกัน คนหนึ่งล้มอีกคนช่วยประคับประคอง ไม้ช้านานคุณจะฟันฝ่าอุปสรรคได้สำเร็จ จากเพื่อน 1 คน เพิ่มเป็น 2...3...เป็นกลุ่ม เป็นชมรมคนเอาชนะการติดเกมส์ได้ ที่สุดประสบการณ์ของคุณจะเป็นประโยชน์กับผู้คนมากมาย เป็นอีกวิถีทางสร้างพลเมืองดีของสังคม ฉันไม่ได้พูดเว่อร์เกินไปหรอกนะ เพราะนี่คือความจริง เห็นคุณค่าของตัวคุณเองไหมคะ?
    ข้อต้องระวัง ถ้าคุณถามเพื่อนคนไหนแล้วเขามองไม่เห็นปัญหา ซ้ำยังชักชวนคุณให้เล่นเกมส์ใหม่ ๆ มัน ๆ โหด ๆ เลิกคุยเรื่องนี้กับเขาทันที ก่อนที่เขาจะโน้มน้าวคุณให้ติดเกมส์หนักยิ่งขึ้น

    2.พันธมิตรในบ้าน คุณพ่อ-คุณแม่ คุณค่ะ บอกท่านตรง ๆ เลยว่า คุณกำลังมีปัญหา ต้องการความช่วยเหลือ ฉันเชื่อว่า พ่อ-แม่ จำนวนมากเห็นปัญหานี้มานานแล้ว และกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจว่าจะทำยังไงดี ถ้าคุณเปิดประเด็นร้อนขึ้นมาเอง ท่านต้องดีใจ และเต็มใจร่วมมือกับคุณแน่นอน ท่านอาจมีวิธีการดี ๆ ที่คุณคิดไม่ถึงก็ได้ ลองคุยกับท่านซิคะ
    หรือถ้าคุณยังอึกอัก ไม่รู้จะปรึกษาใครดี คุยกับฉันซิคะ ฉันยินดีให้คำแนะนำ ให้กำลังใจคุณด้วยความเต็มใจทุกเวลา ด้วยความรักจากใจจริง เพราะพระเยซูสอนฉัน “ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง”

    ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร

    ข้อคิดจากพระคัมภีร์

    จงยึดวินัยไว้ และอย่าปล่อยไป จงระแวดะรวังเธอไว้ เพราะเธอเป็นชีวิตของเจ้า (สุภาษิต 4:13)

    จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้าน เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ (สุภาษิต 4:23)

    ถ้าเจ้าฉลาด เจ้าก็ฉลาดเพื่อตนเอง ถ้าเจ้าเยาะเย้ย เจ้าก็จะทนแต่ลำพัง (สุภาษิต 9:12)

    มือของเจ้าจับทำการงานอะไร จงกระทำการนั้นด้วยเต็มกำลังของเจ้า เพราะว่าในแดนคนตายที่เจ้าจะไปนั้นไม่มีการงานหรือแนวความคิด หรือความรู้ หรือสติปัญญา (ปัญญาจารย์ 9:10)

    Visitor 69

     อ่านบทความย้อนหลัง