ทั้ง Dip ทั้งSpread เพิ่ม Tip ให้อีกนิด!!


สวัสดีค่ะพี่น้องทุกๆ ท่าน
“วันนี้มาเป็นชุดเลยนะ อะไรกันนักหนา ทำไมไม่ใช้ภาษาไทย เรากำลังรณรงค์การใช้สื่อภาษาไทยกันอยู่นะอรัญญา” เสียงต่อว่าของคุณแผดก้องกระทบใจฉันดังเปรี้ยง “ค่ะ... ค่ะ ทราบแล้ว” แต่ครั้งนี้ขออนุญาตสักหนไม่ว่ากันนะคะ ขอพูดให้คุณ (ซึ่งเป็นผู้ฟัง) รู้สึกว่าฉัน (ซึ่งเป็นผู้พูด) ทันสมัยเก๋โก้พารากอน ที่สามารถใช้ภาษาประกิตคำไทยคำได้เหมาะดีเหมือนกันนะเนี่ย จากที่ได้คุยกับผู้คนมากมาย ฉันจับความรู้สึกของคนที่ขอบพูดไทยคำอังกฤษคำ โดยไม่คำนึงว่า “กำลังพูดกับใคร” ยายสาตาสีหรือคนมีพื้นฐานฟังรู้ และคำ ๆ นั้นมี คำแปลภาษาไทยที่เข้าใจได้ดี หรือไม่ เพราะหลงคิดว่า คนฟัง เขาจะชื่นชอบตัวเอง แต่รู้ไหมคะบางคนเขาหมั่นไส้ ยิ่งปัจจุบันอาจจะคิดเลยเถิดไปถึงไหนไม่รู้ว่า คนที่ชอบพูดแบบนี้ เป็นวัวลืมตีน ลืมกระทั่งภาษาพ่อแม่ตัว ฉันหนึ่งล่ะที่ไม่นิยมใช้ภาษาต่างด้าวผสมปนเปภาษาไทย ฉันรักภาษาไทย ภาษาไทยเป็นภาษาที่รุ่มรวย มีคำหลากหลายให้ใช้ได้อย่างเหมาะสม กระทัดรัด หรือยากเยิ่นเย้อก็มีให้เลือกหยิบมาใช้ตามต้องการตามอารมณ์จะพาไป
แต่ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะพูดทับศัพท์ภาษาอังกฤษ (หรือภาษาเดิม) ถ้าคำ ๆ นั้นจะให้ความเข้าใจได้ลึกซึ้งและกระชับกว่า การแปลออกมาเป็นภาษาไทย เช่น คำว่า คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นคำศัพท์ในเชิงวิชาการ เชิงช่าง เป็นต้น แต่กับคำง่าย ๆ เช่น O.K. ฉันไม่เคยใช้เลย (นอกจากเวลาพูดเล่นตลก ๆ เท่านั้น) ใช้ภาษาไทยดีกว่า มีคำให้เลือกเยอะอย่างเช่น ค่ะ ตกลง ใช่แล้ว ถูกต้องใช่เลย แจ๋ว แม่นแล้ว เห็นด้วย ไปไหนไปกัน เข้าใจแล้ว พร้อมแล้ว เป็นต้น ยังมีอีกหลากหลายคำ ขึ้นกับสถานะการณ์เรื่องที่กำลังพูดกัน จะO.K. กันอย่างไร เห็นหรือยังคะ คำภาษาไทยมีเป็นตับ แล้วจะ O.K..ให้เสียความรู้สึกคนไทยใจดีทำไมกัน ใช่ไหมค่ะ หรือคุณคิดอย่างไร เรื่องนี้แบ่งปันความคิดกันได้ค่ะ “บ้านดีมีสุข” ของพวกเรา เปิดรับทุกความคิดเห็นอยู่แล้ว ด้วยความเต็มใจและยินดี และขอบคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ


กลับมาที่เรื่องของเราอีกครั้ง ทำไมต้อง Dip Spread แถมTip ให้ด้วย คือ เพื่อนของลูกอยากได้สูตร spread อร่อย ๆ ไว้ทำแซนวิช ฉันจึงปิ๊ง คิดถึงคุณทุกคนใน “บ้านดีมีสุข” หลายคนคงอยากทำแซนวิชกินเองบ้าง จะได้ไม่เปลืองตังค์ แต่ทำ Spread อย่างเดียวไม่พอค่ะ เลยเพิ่ม dip ให้ด้วย เพราะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ด้วยกันได้ และแถมtip ให้เป็นพิเศษ สนใจแล้วใช่ไหมค่ะ เริ่มกันเลย
Dip คือ เครื่องจิ้ม มีหลากหลายชนิด เป็นของฝรั่งเขากินกัน ใช้จิ้มผักสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ ขนมปัง ปิซซ่าก็ยังไหว คืออยากใช้อาหารอะไรจิ้มเชิญเลย ไม่มีใครขัดข้อง เปรียบเหมือน น้ำจิ้ม หรือ น้ำพริก สาระพัดครกของไทย ๆ นั่นเอง เราจะทำ dip แนวไทย ๆ สไตล์ฉันเอง แบบฝรั่งมังค่ามันเลี่ยนค่ะ แบบไทย ๆ ดีกว่า รับรองถูกใจ

1. Dip มะเขือเทศ
ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก พริกไทยดำคั่วไฟอ่อนจนหอมโขลกหยาบ ๆ ( ชอบพริกไทยป่นได้เลย ) นมข้นหวาน เกลือ ส่วนผสมทุกอย่างกะเอาเอง คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ให้ออกรสชาติ เปรี้ยวจากซอสมะเชือเทศเผ็ดจากซอสพริก หวานหน่อย ๆ จากนมข้นหวาน เค็มนิด ๆ จากเกลือ หอมแบบฉุนๆ จากพริกไทย อาจเพิ่มความจี๊ดจ๊าดด้วยการบีบน้ำมะนาวลงไปอีกหน่อยไม่มีใครว่า ขอให้ปรุงแต่งรสชาติถูกใจคนในบ้าน ก็ใช่เลย เมื่อคนส่วนผสมจนเนียนดีแล้ว เก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็น เวลารับประทาน ตักใส่ถ้วยแบ่งโรยงาคัวสักนิด (ไม่มีไม่ชอบไม่ต้องใส่งาก็ได้ )

2.Dip โยเกิร์ต
โยเกิร์ตไขมันต่ำรสธรรมชาติ ( หรือรสอะไรก็ได้ ) เกลือ น้ำมะนาว น้ำตาลทรายสีรำนำมาบดจนละเอียดยิบ อย่าใช้ไอซิ่ง ส่วนของน้ำตาลอาจใส่หรือไม่ใส่ตามใจคุณ แครอทหั่น เล็กจิ๋ว ๆ น้ำมันพืช ( มะกอก ถั่วเหลือ ข้าวโพด เม็ดทานตะวัน คาโนล่า รำข้าว เลือกน้ำมันชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่อย่าใช้น้ำมันปาล์ม เพราะน้ำมันปาล์มใช้สำหรับทอดเท่านั้น ) ได้เครื่องปรุงแล้ว เริ่มทำกันได้เลย โดยคนโยเกิร์ตกับน้ำตาล เกลือ จนน้ำตาล-เกลือละลาย เหยาะน้ำมะนาวทีละนิดคนไปเรื่อย ๆ ชิมดูถูกใจแล้ว ใส่น้ำมันพืชทีละน้อย คนจนส่วนผสมเนียนดีดูข้นขึ้นด้วย (โยเกิร์ต 1 ถ้วยใช้น้ำมันประมาณ 2 ชต. ถ้าไม่อยากกินน้ำมันตัดออกเลย หรือลดลงก็ได้ ) ใส่แครอทลงไป ผสมให้เข้ากันดี เก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็นใช้เมื่อไรตักแบ่งออกมา
3.Dip เสาวรส
เสาวรสใช้ทั้งเนื้อ – น้ำ – เมล็ด น้ำเต้าหู้เคี่ยวไฟอ่อนๆ จนเข้มข้นใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำนิดหนึ่ง กวนจนแป้งสุกน้ำเต้าหู้ข้นนิด ๆ พักไว้จนเย็น (อาจใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติแทนได้) นมข้นหวาน เกลือ พริกไทย (อาจเปลี่ยนเป็นพริกขี้หนูสวนซอยละเอียดแทน ถ้าอยากให้ออกรสเผ็ด) เริ่มทำdip เสาวรส โดยใส่นมข้นหวาน เกลือลงในน้ำเต้าหู้คนให้เข้ากันใส่เสาวรสทีละน้อยคนผสมไปเรื่อย ๆ จนหมดเสาวรส เติมพริกไทย คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติถูกปากแล้วใส่ขวดเก็บเข้าตู้เย็น
เครื่องเคียงคู่ dip อาจเป็นผักสดนา ๆ ชนิด แครอท ฟักแม้ว เซลเลอรี่ (คึ่นชายฝรั่ง) หอมใหญ่ชุบแป้งทอด ต้นหอมผักชี, ผักอะไรก็ได้ที่จิ้มน้ำพริก จิ้มdip ได้อร่อยเหมือนกัน แปลกดีด้วย แต่ทำได้ หรือเป็นผลไม้ ฝรั่ง แอปเปิ้ล มะม่วงดิบ สับปะรดชุบแป้งทอด มันฝรั่งทอด กล้วยหอมก็ยังไหว เนื้อสัตว์นา ๆ ชนิด ชุบแป้งทอดจิ้ม dipได้เช่นกัน ขนมปังกรอบ ขนมปังแซนวิช ขนมปังอะไรที่อยากนำมาจิ้มเชิญได้ รวมถึงปิซซ่า ขนมปังหน้าหมู หน้าไก่-กุ้งจิ้มได้ทั้งนั้น สนใจdip ชนิดไหนลองทำดูนะค่ะ
Spread เป็นซอส หรือ ครีมข้น ๆ ทาหน้าขนมปัง เพื่อทำแซนวิช หรือใช้ทาหน้าปิซซ่าก่อนอบได้เหมือนกัน มีหลากหลายตามแต่ใครจะคิดสูตรออกมา ฉันเสนอให้ 4 ชนิด
1.มายองเนส spread
มายองเนส เกลือ น้ำมะนาว นมข้นหวาน พริกไทยป่น งาคั่ว (งาขาวงาดำตามใจ) ทุกอย่างผสมกันคนจนเนียน ชิมให้ออกรสหวานนิด เค็มหน่อย เปรี้ยวปะแล่มๆ เผ็ดพริกไทยน้อย ๆ เก็บใส่ขวดเข้าตู้เย็น

2.โยเกิร์ต spread
โยเกิร์ตไขมันต่ำรสธรรมชาติ น้ำมันพืชนิดหน่อย หอมแดงสับละเอียด แตงกวาดองสับละเอียด นมข้นหวาน เกลือ พริกไทย เริ่มจากคนโยเกิร์ตกับน้ำมันจนเนียนเติมนมข้นหวาน เกลือ พริกไทย คนให้เข้ากันใส่หอมแดง แตงกวาดอง ผสมจนทั่วชิมรสให้ถูกใจ เก็บเข้าตู้เย็น

3.ฟักทอง spread
ฟักทองนึ่งบดละเอียด นมสดอุ่นพอเดือดปุด ๆ ยกลงพักจนเย็น เม็ดฟักทองอบตำพอแหลก เนยสดละลายนิดหน่อย เกลือ น้ำตาลทรายสีรำ พริกไทย คนนมสดกับฟักทองจนเนียนข้น ๆ (อย่าใส่นมสด มากจนเหลว) ใส่เนยละลายคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่พริกไทย เกลือ น้ำตาล คนพอทั่วชิมดูให้รู้สึกว่าเกลือ น้ำตาลยังเป็นเม็ด ๆ ก็ต้องการให้เป็นอย่างนั้น แล้วเติมเม็ดฟักทองคนผสมอีกครั้งเป็น spread ที่น่าสนใจ หรือคุณคิดไงค่ะ
4. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ spread
เม็ดมะม่วงอบบดละเอียด ต้นหอมส่วนใบเขียว ๆ หั่นฝอย น้ำมันพืช น้ำตาลทรายสีรำ เห็ดโคนหลวง ( อยากกินเห็ดอะไรก็ใช้เห็ดชนิดนั้น ) นึ่งสุกหั่นละเอียด พริกไทย (หรือพริกขี้หนูสวนสับละเอียดหากชอบเผ็ดแบบไทย ๆ ) คนเม็ดมะม่วงบดละเอียดกับน้ำมันพืชให้ข้น ๆ ใส่เกลือ พริกไทย น้ำตาลทราย คนจนเนียน ใส่เห็ดผสมพอเข้ากัน ชิมรสชาติถูกใจแล้วใส่ต้นหอมคนให้เข้ากัน เก็บเข้าตู้เย็น
เป็นไงค่ะ spread ทั้ง 4 ชนิด ถ้ารู้สึกยุ่งยากไม่มีเวลาทำในวันรีบร้อน ทำspread ง่าย ๆทันที ด้วยซอสมะเขือเทศคนผสมซอสพริก เติมน้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย เท่านี้เอง มี spread ทาแซนวิชได้ทันใจแล้ว
Tip คือ เรื่องดี ๆ มีสารัตถประโยชน์ หรือเคล็ดลับบางอย่างที่ไม่มีใครอยากเปิดเผย แต่นี่นี่ที่ “บ้านดีมีสุข” ของเรา ยินดีบอกคุณด้วยความเต็มใจ สงสัย ยังไม่เข้าใจ โทร.มาถามซ้ำได้อีกที่ คจ.สามัคคีธรรมกรุงเทพ โทร 02-331-0861กด 101 ดีใจที่ได้รับใช้คุณค่ะ

Tip 1 dip ทั้ง 3 อย่างที่นำเสนอวันนี้ ทำให้เหลว ๆ หน่อย ใช้แทนน้ำสลัดได้เลย เพิ่มความอร่อยของ สลัดผักด้วยการโรยครูตอง ซึ่งเป็นขนมปังแซนวิชหั่น อบกรอบ คลุกเนยละลาย ผสมเกลือ พริกไทย แล้วเคล้ากับผงฟาเมซานชีส อื้อ...หือ ไขมันเยอะดีแต่หอมกรุ่น ถ้ากลัวคลอเรสเตอรอลขึ้นสูง ตัดส่วนนี้ออกไป แค่ขนมปังอบกรอบ ๆ ก็อร่อยจนหยุดไม่ได้แล้ว

Tip 2 ทำแซนวิช อย่าตัดขอบขนมปังออกเสียดายค่ะ ยกเว้นคุณมีแผนจะนำขอบขนมปังทำอะร เช่นปั่นละเอียดผสมหมูบด ไก่บด กุ้งบด เพื่อทำทอดมันทำสเต็ก หรือพึ่งแห้งบดหยาบใช้แทนเกร็ดขนมปัง

Tip 3 spread ทั้ง 4 ชนิด คุณใช้ทาขนมปังแล้ววางผักเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เป็นชั้นๆ ในการทำแซนวิช หรือจะฉีกเนื้อสัตว์ต้มสุกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสมลงไปเลย เคล้าให้ทั่วทาขนมปังที่ทาเนยสดเตรียมไว้แล้วจึงวางผักก็ได้ประหยัดเวลาได้พอสมควร

เอาละค่ะ พอเห็นแนวทางทำแซนวิชกินเอง ทำเครื่องจิ้มแปลก ๆ แผลงมาเป็นน้ำสลัดได้แล้ว ลองทำดูนะค่ะ ทำกินเอง รสชาติถูกใจ ประหยัดดี แล้วพบกันใหม่ Bye….Bye
ข้อคิดจากพระคัมภีร์


ท่านจงให้ด้วยความเต็มใจ และเมื่อให้เขาแล้วอย่ามีจิตคิดเสียดาย ในกรณีนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จะทรงอำนวยพระพรแก่ท่านในบรรดากิจการทั้งสิ้นของท่านไม่ว่าท่านจะกระทำสิ่งใด
(เฉลยธรรมบัญญัติ15:10)

คนที่แสดงความเมตตาคุณและให้ยืม ก็อยู่เย็นเป็นสุข คือผู้ที่ดำเนินการของเขาด้วยความยุติธรรม เพราะคนชอบธรรมจะไม่ถดถอย คนจะระลึกถึงเขาอยู่เป็นนิตย์
(สดุดี112: 5-6)

Visitor 272

 อ่านบทความย้อนหลัง