ทำไมพระกิตติคุณจึงต้องมี 4 เล่ม


ศ.บ.

ชีวประวัติของพระเยซู ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ถูกเขียนขึ้นโดยการดลใจของพระวิญญาณ ทำไมพระเจ้าจึงออกแบบให้มี 4 เล่ม คือ มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น ทำไมไม่มีเพียงเล่มเดียว หรือ 2 เล่ม พระเจ้าทรงมีพระดำริอย่างไร และผมก็อยากหนุนใจให้เราอ่านทั้ง 4 เล่มเสียด้วย ผมขอตอบคำถามนี้เป็นข้อๆ ตามความคิดเห็นของผม ดังนี้

(1) เรื่องราวของพระเยซู เป็นเรื่องสำคัญ
ในพระคัมภีร์ ไม่มีชีวประวัติของใครที่จำเป็นต้องเขียนขึ้นโดยหนังสือหลายเล่ม อยากรู้ประวัติของอับราฮาม ก็อ่านจากปฐมกาล อยากรู้ชีวประวัติของโมเสส ก็อ่านจากอพยพ แม้มีเขียนในกันดารวิถี หรือพระบัญญัติ ก็เป็นเรื่องคนละช่วงชีวิต ไม่เหมือนชีวประวัติของพระเยซู ที่เล่าเรื่องช่วงชีวิตเดียวกัน ทำไม เพราะพระเยซูคือพระคริสต์ และพระคัมภีร์ทั้งเล่มมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่พระคริสต์ ชีวประวัติของพระองค์นั้นถือว่าสำคัญที่สุดในพระคริสตธรรมคัมภีร์


2. ทำให้เห็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
พระเจ้าต้องการปิดปากคนขี้สงสัย พระคัมภีร์มีหลักเช่นนี้ เรื่องอะไรก็ตาม ที่เป็นที่เชื่อถือได้ ต้องมีพยาน 2-3 ปากขึ้นไป พระกิตติคุณ 4 เล่มเป็นเหมือน พยาน 4 ปาก แต่ละคนเห็นต่างกัน แต่เป็นพยานเรื่องเดียวกัน เหมือนคน 4 คน มาเล่าเรื่องอุบัติเหตุที่ตนเห็นที่ปากซอยอ่อนนุช ก่อนถึงโบสถ์ ถ้าจะเชื่อถือได้ ต้อง เล่าอิสระไม่ใช่คัดลอกกันมา และพยานนั้นหากเพิ่มความน่าเชื่อถือ น่าจะมาจากคนที่มีความต่างกัน มัทธิว เป็นสาวกที่เดิมทีเป็นคนเก็บภาษี มาระโกมิได้เป็นสาวก 1 ใน 12 คนของพระเยซู แต่เป็นลูกศิษย์ ใกล้ชิดเปโตร สาวกเอกของพระเยซู ลูกา เป็นหมอและเป็นนักประวัติศาสตร์ที่สืบค้นหาข้อมูลเรื่องพระเยซูในสมัยนั้น ยอห์นเป็นชาว ประมงเป็นสาวกที่พระเยซูรักและได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆใกล้พระเยซูมากที่สุด

3. เห็นภาพชัดเจนขึ้น
ความเหมือนและความต่าง ของแต่ละเล่มทำให้แลเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ผมขอยกตัวอย่างเรื่องกำเกิด พระเยซู มัทธิวและลูกาเขียนในมุมที่ต่างกัน อยากรู้ใจของโยเซฟ คู่หมั้นของนางมารีย์ต้องอ่านจากมัทธิว อยากรู้ใจของมารีย์เมื่อทูตสวรรค์มาบอกว่าเธอจะตั้งครรภ์ โดยไม่มีพ่อต้องอ่านลูกา อยากเห็นภาพว่าพระเยซูเป็นมาอย่างไรก่อนประสูติ ต้องอ่านยอห์น เช่นนี้เป็นต้น เหมือนคนที่อยากรู้ข่าว เรื่องการเมืองวันนี้ หากท่านอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ฉบับเดียว ท่านมีหวังเข้าใจรัฐบาลผิด หรือในมุมกลับก็ได้ยินแต่เสียงเชียร์รัฐบาล แต่พออ่านหลายฉบับท่านก็เข้าใจถ่องแท้ มัทธิวเขียนเรื่องพระเยซูในการเป็นกษัตริย์และเป็นผู้นำของพระองค์ มาระโกเขียนเรื่องพระเยซู เน้นภาพของผู้รับใช้ ลูกาเขียนให้คนมองเห็นความเป็นมนุษย์ อย่างสามัญของพระองค์ ในขณะที่ยอห์นเน้นความเป็นพระเจ้าของพระองค์

4. ซึมเข้าไปในความทรงจำ
เวลาเราอ่านคำสอน และเรื่องราวของพระองค์ซ้ำถึง 4 ครั้ง มันซึมเข้าไปในความทรงจำ ทำให้เรารู้และเข้าใจ นี่เป็นพระประสงค์ของการเขียน พระเจ้าต้องการปั้นเราให้เปลี่ยนนิสัย มากกว่าแค่ให้เรารู้เรื่องราวความเป็นมาพระเยซูดำเนินในโลกและสอนสาวกของพระองค์ 3 ปี พระ องค์มิได้ให้เขาบันทึกตอนสอนเลย แต่การทีพระองค์ตรัสสอนเรื่อง เดียวกันหลายครั้ง เหมือนพ่อแม่สอนลูก ให้ล้างมือก่อนทานข้าว ไม่มีใครมานั่งนับว่า สอนกี่ครั้ง หรือสอนไปแล้วหรือไม่ พ่อแม่คำนึงเรื่องเดียวคือ เรื่องล้างมือก่อนกินข้าวต้องเป็นนิสัยของลูก ซึ่งก็ต้องพูดกัน หลายครั้ง จนซึมเข้าไปในใจ และลูกได้ทำจนติดนิสัย

สรุปแล้ว ท่านต้องอ่านเรื่องพระเยซู และอ่านทั้ง 4 เล่ม อ่านแล้วอ่านอีกนะครับ อ่านจนท่านรู้ว่า เวลาท่านเองจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เป็นสิ่งดีหรือไม่ดีก็ตาม ท่านตอบได้เลยว่า ถ้าเป็นพระเยซู พระองค์จะตัดสินใจอย่างไร แล้วท่านจะดำเนินชีวิตไม่ผิดพลาด ทั้งเจริญขึ้นด้วย จริงไหมครับ?


ขอพระเจ้าอวยพระพรนะครับ

Visitor 386

 อ่านบทความย้อนหลัง