เราก่อนิสัย จากการทำอะไรที่ซ้ำซาก

Habit come from repeated actions,

ศิษยาภิบาล

เยเรมีย์ 13:23

“คนเอธิโอเปียเปลี่ยนวรรณของตนเองได้หรือ หรือเสือดาวเปลี่ยนลายของมัน ถ้าได้แล้วเจ้าทั้งหลายผู้ที่เคยต่อการกระทำความชั่ว จะมากระทำความดีก็ได้”

พระคัมภีร์ข้อนี้กล่าวถึง อะไรที่มันฝังเข้ามาอยู่ในตัวเราแล้วจะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างยาก ซึ่งก็หมายถึง “นิสัย” นั่นเอง
การก่อนิสัย สามารถเป็นได้ทั้งดีและไม่ดี นิสัยเสียนี่เวลาติดตัวเราแล้วก็เล่นงานและเอาเรื่องกับตัวเรา ก่อความเสียหายทีเดียว เช่นบางคน บางคนมีนิสัยเกียจคร้าน ท้อถอยง่าย หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ผัดวันประกันพรุ่ง คนไทยเราใช้คำว่า “ขี้” เติมเข้าไปข้างหน้า อันแสดงให้เห็นว่ามันไม่มีดี เช่น ขี้เกียจ ขี้เหนียว ขี้ขลาด ขี้โม้ ขี้อาย ขี้แพ้ ขี้ลืม เป็นต้น ดูแล้วมันก็ติดตัวเรากันมาแทบทุกคน ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง แต่พระคัมภีร์ข้างต้นที่เยเรมีย์กล่าวถึงนั้น ก็มีนิสัยที่ผิดศีลธรรมมากกว่า แค่เรื่องวินัย เช่น เรื่อง ขี้เท็จ ขี้โกง ขี้ฉ้อ ขี้เมา ขี้ยา ขี้หลี ขี้ลัก นิสัยบาปดังกล่าวมานี้ มันเริ่มก่อขึ้นมาตั้งแต่เราเริ่มทำความผิดครั้งแรก เมื่อเราไม่ขจัดยับยั้งมัน แต่ทำซ้ำอีก ในที่สุดเราจะพบว่า เราทำความผิดดังกล่าวง่ายขึ้น และยิ่งง่ายขึ้นเรื่อยๆเมื่อเราทำมันซ้ำๆซากๆ จนเราตกเป็นทาสมัน ถ้าจะเรียกว่าจนเป็น “วัฒนธรรมประจำตัว” ก็น่าจะถูก คนไม่สูบบุหรี่ สูบครั้งแรกก็ยังไม่ติดหรอก แต่เมื่อสูบหลายครั้งเข้าเขาก็ติดบุหรี่ เมื่อติดแล้วก็เลิกยาก

ลองคิดซิ นิสัยต่างๆที่เราเพาะมันก็เหมือนเอาเมล็ดถั่วฝังลงไปในดิน พอมันเริ่มหยั่งรากใหม่ๆการถอนก็ยังไม่ยากนัก แต่พอรากมันลงลึก มีลำต้น มีกิ่งก้านสาขา การถอนรากถอนโคนก็ต้องออกแรงใช้กำลังมาก จึงจะถอนขึ้นมาได้ คนเรามิได้มีนิสัยไม่ได้มีมาตั้งแต่เราเกิด แต่มาจากการกระทำของเราเอง พระเยซูตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสบาป” (ยอห์น 8:34) คนที่ขโมยก็เป็นทาสการขโมย คนที่โกหกก็เป็นทาสการโกหก พระองค์มิได้ตรัสว่า ทุกคนที่เกิดมาก็เป็นทาสการขโมย ตั้งแต่ยังไม่ได้ลักอะไรของใคร เด็กเกิดมาบริสุทธิ์เหมือนผ้าขาว เพิ่งมาก่อนิสัยทีหลัง

ต้องขอบคุณพระเจ้า เมื่อเรามารู้จักพระเจ้า พระองค์ทรงไถ่โทษเราให้เรามีใจบังเกิดใหม่ เราซาบซึ้งกับความรักของพระเยซู เมื่อก่อนเราเป็นทาสบาป แต่บัดนี้เรามีใจเชื่อฟังหลักคำสอนซึ่งทรงให้ครอบครองเรา เมื่อเราพ้นจากบาปแล้ว เราก็ได้เป็นทาสของความชอบธรรม (โรม 6:17-18)
มาวันนี้ เราต้องฝึกนิสัยใหม่แล้วละครับ พฤติกรรมดีๆหลายอย่าง เราอยากให้ติดเป็นนิสัย มันก็ต้องเกิดจากการกระทำซ้ำๆเช่นเดียวกัน พระเจ้าสอนให้พ่อแม่ปั้นนิสัยดีให้ลูกยังเล็ก พอเขาโตขึ้นเขาติดนิสัยที่ดี พ่อแม่หลายคนรู้ดีว่า กว่าจะฝึกให้ลูกติดนิสัยล้างมือก่อนกินข้าวมันไม่ใช่ง่ายนัก

ผู้เชื่อใหม่ โดยพระคุณของพระเจ้า ต้องฝึกตนในทางธรรม หลายคนไม่ติดนิสัยมาโบสถ์วันอาทิตย์ ไม่มีนิสัยอ่านพระคัมภีร์ ไม่มีนิสัยตั้งเวลาไว้เข้าเฝ้า หรือคิดในด้านบวกเสมอ การทำซ้ำแม้สิ่งที่ดี ก็ต้องฝืนตนเอาชนะเนื้อหนังของตนเอง โดยพระคุณ พระเจ้าจะช่วยให้เราฝืนเอาชนะได้ แม้เราเคยติดนิสัยไม่ดี มีขี้เต็มตัว ดังกล่าวแล้ว ถ้าเราติดนิสัยขี้ฉ้อ เราก็ต้องก่อนิสัยสัตย์ซื่อ ถ้าเราติดนิสัยขี้ท้อ เราก็ต้องก่อนิสัยเข้มแข้. ไม่นานนัก เราจะพบว่า พระเจ้าทรงช่วยให้เรามีนิสัยใหม่ที่ดี แล้วรางวัลที่เราได้รับมันจะเกินคุ้มครับ เวลาท่านมีเรื่องให้ท่านต้องขาดการประชุมนมัสการ อย่าตามใจตัวเอง ท่านยอมครั้งหนึ่ง ท่านก็ฝึกครั้งต่อไปยากขึ้น ตรงกันข้าม ท่านเอาชนะได้ครั้งหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้ท่านเอาชนะครั้งต่อไปง่ายขึ้น บังคับตัวเองทำตามน้ำพระทัย ทำแล้วทำอีก แล้วท่านจะชัยชนะ พอมันติดตัวท่านท่านก็ทำได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นนิสัยเชื่อฟังนะครับ

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

Visitor 160

 อ่านบทความย้อนหลัง