เจ้าสาวสู่เรือนหอ คำเทศนาวันอาทิตย์ 20 กันยายน 2009 ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์

ปฐมกาล 24:52, 55, 67; ปฐมกาล 25:19 กว่าจะมาเป็นเจ้าสาวพระเยซู พระเจ้าเปรียบผู้เชื่อทั้งหลายว่าเป็นเจ้าสาวของพระเยซู เหมือนนางเรบาคาห์ เป็นเจ้าสาวของอิสอัค ขอเล่าเรื่องของอิสอัคสักหน่อย อับราฮัมมีลูกชายคนเดียว เป็นลูกแห่งพระสัญญา ท่านมีอิสอัคตอนท่านอายุได้ 100 ปี ส่วนนางซารายมีอายุ 90 ปี แน่นนอนท่านหวงแหนบุตรคนนี้มาก ตอนนี้อับราฮัมมีอายุมากแล้ว ท่านใคร่จะให้อิสอัคบุตรชายของท่านแต่งงานมีครอบครัว ท่านจึงใช้คนใช้อาวุโสของท่านไปเฟ้นหาเจ้าสาวที่เมืองฮาราน ในแคว้นเมโสโปเตเมีย ที่เมืองนี้ท่านมีวงศาคณาญาติ เพราะพี่ชายของท่านคือนาโฮร์อาศัยอยู่ที่นั่น ท่านไม่ปรารถนาให้ลูกของท่านหาเจ้าสาวในแคว้นคานาอัน ซึ่งเป็นที่ท่านอาศัยอยู่ เพราะที่นั่นมีแต่คนไม่รู้จักพระเจ้า เป็นบทเรียนกับคนหนุ่มคนสาวทั้งหลาย เมื่อท่านเลือกคู่ครองท่านควรเลือกคนที่มีความเชื่อในพระเจ้า วันนี้พระบิดายังทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไปหาเจ้าสาวให้พระเยซูคริสต์

เรบาคาห์ ซึ่งเปรียบเทียบกับผู้เชื่อ มีคุณลักษณะ 3 ประการ
(1) เป็นคนสวย พระคัมภีร์บรรยายว่า เรบาคาห์ เป็นคนสวย เจ้าสาวของพระเยซูเป็นคนสวย งดงามทั้งกริยามารยาท ชีวิตความประพฤติ ชีวิตนอบน้อมถ่อมตน
(2) เป็นคนไม่เห็นแก่ตัว เรบาคาห์เป็นคนมีน้ำใจ ใจกว้างขวาง คนใช้ทดสอบว่าใครคือเจ้าสาวโดยการไปที่บ่อน้ำนอกเมือง ที่นั่นมีพวกผู้หญิงสาวๆ มากมาย พากันมาตักน้ำ ท่านทูลพระเจ้าว่า คนที่จะเป็นเจ้าสาวของนาย ต้องมีน้ำใจ ท่านจะขอน้ำจากเขา และเขาจะบอกว่า เขาจะตักน้ำให้อูฐของท่านดื่มด้วย เมื่อเรบาคาห์เดินมาตักน้ำ ท่านก็ขอน้ำจากเธอ และเธอก็เต็มใจให้น้ำแก่อูฐของเขาด้วย เขามีอูฐตั้ง 10 ตัว แต่ละตัวคงจะดื่มน้ำไม่น้อย แต่เรบาคาห์ ก็ตักน้ำให้อูฐดื่มทุกตัว เจ้าสาวของพระเยซูต้องไม่เห็นแก่ตัว แต่เดิมเรามีชีวิตอยู่เพื่อตนเอง แต่เมื่อเราเป็นเจ้าสาวของพระเยซู กฎประจำชีวิตของเรา คือ “รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ สิ้นสุดกำลังความคิด รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
(3) เป็นคนกล้าตัดสินใจ เมื่อสู่ขอเธอ มารดาและลุงของเธอได้ตอบรับแล้ว คนใช้อาวุโสประสงค์จะกลับไปหานายทันที แต่มารดาและลุงอยากจะหน่วงเหนี่ยวเธอไว้สัก 10 วัน ลาบันจึงบอกว่าให้ไปถามนางเรบาคาห์ ว่าเธอจะไปทันทีหรือไม่ เมื่อถามเธอ เธอก็บอกทันที ว่า “ฉันจะไป” เวลาผู้เชื่อตัดสินจะเชื่อพระเยซู เขาจะต้องไม่ลังเล

วันหมั้น
(ปฐมกาล 24:53)
1) สินสอด แก้วแหวนเงินทองเสื้อผ้า ที่คนใช้มอบให้เจ้าสาว มารดา
และพี่ชาย เป็นเหมือนเงินมัดจำ อิสอัคเป็นมหาเศรษฐี วันหนึ่งเธอจะเป็นเจ้าของสมบัติเหล่านั้นด้วย เวลาพระเจ้าหมั้นหมายเรา พระองค์ประทานพระวิญญาณและของประทานให้แก่เรา (โรม 12:6) การที่พระเจ้าให้เราเป็นครู ผู้เลี้ยง ผู้ปรนนิบัติ ผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ ผู้เผยพระวจนะ ฯลฯ ก็เป็นเหมือนมัดจำว่า วันหนึ่ง พระเจ้าจะทรงประทานทั้งหมดให้แก่เรา
2) คำอวยพร ทั้งเป็นคำมั่นสัญญา
“น้องเอ๋ย ขอให้เจ้าเป็นมารดาคนนับแสน นับล้าน และขอให้เชื้อสายของเจ้า ได้ประตูเมืองของคนที่เกลียดชังเจ้า” (ปฐมกาล 24:60) นี่คือคำอวยพระพรของแม่และลุง เวลาเราเข้าเป็นผู้เชื่อ
มีผู้อวยพระพรเรา เป็นดั่งพระสัญญา ว่า วันหนึ่ง เราจะมีลูก มีหลาน เหลน โหลน ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง เราจะสร้างสาวก เราจะนำคนมาเชื่อพระเจ้ามากมาย


วันแต่ง
( ปฐมกาล 24:67)
ขบวนของคนใช้พาเรบาคาห์ ไปสู่อ้อมกอดของอิสอัค เป็นภาพของการร่วมหอลงโรง เป็นภาพความรักอันหวานชื่น เหมือนเลิร์ฟ ซีนของภาพยนตร์ เป็นภาพของความสัมพันธ์และความรัก ระหว่างเจ้าบ่าวคือพระเยซู กับเจ้าสาว
อิสอัคก็พาเธอเข้ามา ในเต็นท์ของซาราห์มารดาของท่านและรับเรเบคาห์ไว้ เธอก็เป็นภรรยาของท่าน และท่านก็รักเธอ อิสอัคก็ได้รับความเล้าโลม ภายหลังที่มารดาของท่านสิ้นชีวิตแล้ว (24:67)

อิสอัคทูลพระเจ้า เมตตา
“โปรดช่วยเรบาคาห์ สักครั้ง
สัมผัสครรภ์ภรรยา มีบุตร
ทุ่มถวายกายใจทั้ง หมดสิ้นอธิษฐาน

ให้เรากราบทูลพระเจ้า ขอให้เราสามารถสร้างสาวกเพื่อพระเยซู จนกว่าพระเจ้าจะประทานผู้เชื่อให้เรา ก่อนที่ศิโยนจะคลอดบุตร เธอก็เจ็บครรภ์ ก่อนที่เราจะนำใครมาหาพระเจ้า เราย่อมต้อง อธิษฐานคร่ำครวญ ผลที่สุดเรบาคาห์ได้บุตร แฝดสองเชียว เมื่อเราตั้งใจนำวิญญาณเริ่มด้วยการอธิษฐาน พระเจ้าจะโปรดให้เรามีลูกมากครับ

Click ที่นี่เพื่อฟังคำเทศนา

Follow @bfcbkk	Tweet to @bfcbkk Visitor 133