ประโยชน์ของการใช้ของประทาน

ศจ.สมเกียรติ กิตติพงศ์

ความสามารถพิเศษ หรือของประทานฝ่ายพระวิญญาณ เช่น เผยพระวจนะ สั่งสอน เผยแพร่ข่าวประเสริฐ ปรนนิบัติ บริจาค หรือเตือนสติ ก็ไม่ต่างไปจาก ตะลันที่พระเจ้าประทานให้เราแต่ละคนมาตั้งแต่เกิด เราคุ้นเคยกับ ความสามารถพิเศษ หรือพรสวรรค์เช่นนี้มาตั้งแต่เราเรียนหนังสือในโรงเรียนวัยเด็ก เช่น ร้องเพลงไพเราะ พูดเก่ง เล่นบาสเกตบอลเก่ง คิดเลขเร็ว ทำอาหารอร่อย วาดการ์ตูน เป่าขลุ่ย หรือตีกลองโพนได้มันสะบัดช่อ ผมเองเคยคว้ารางวัลที่หนึ่ง วาดเขียนของจังหวัดสมัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยม 2 ปีซ้อน ตอนนั้นอาจารย์โกศล วัฒกีเจริญ ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ในช่วงนั้น ท่านภูมิใจมากที่ผมทำชื่อเสียงให้โรงเรียน เรียกผมไปยืนหน้าเสาธง แล้วชมเชยผมต่อหน้านักเรียนทั้งโรงเรียน ก็เป็นพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานให้ ผมวาดเขียนได้ง่ายกว่าเล่นกีฬา ยังจำได้ว่า ผมเคยสอบแข่งฟุตบอลเพื่อเอาคะแนน ผมอยู่ในสนามตลอด 15 นาที เป็นกองกลางวิ่งไปวิ่งมา นอกจากจะไม่ค่อยได้แตะลูกหรือครองบอลแล้ว ตอนหนึ่ง ผมลงไปช่วยกองหลังป้องกันประตู พอเท้าผมแตะบอลเท่านั้น แทนที่ลูกมันจะเด้งออกมา ลูกฟุตบอลดันกระดอนไปเข้าประตูตัวเอง เสียงโห่ลั่นกันทั้งสนาม จำไม่ได้ว่าครูเขาให้คะแนนผมอย่างไร กลับบ้านคงได้แต่คิดว่า ในบรรดานักฟุตบอลที่ล้มเหลว คงไม่มีใครเล่นได้แย่กว่านี้อีกแล้ว นอกจากยิงประตูเขาไม่ได้แล้ว ยังช่วยทำให้ทีมของตัวเองแพ้ ถึงวันนี้ วาดเขียนยังคงเป็นเรื่องง่าย และสนุกสนานสำหรับผม แต่กีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลก็ยังคงไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม ชอบดูแต่ไม่ชอบเล่น สรุปว่า พระเจ้าให้พรสวรรค์แก่เราแต่ละคนไม่เหมือนกัน

 


เมื่อเราบังเกิดใหม่ พระเจ้าทรงประทานความสามารถพิเศษฝ่ายวิญญาณให้เรา เราต้องค้นหาให้พบว่า พระเจ้าให้เราเก่งทางไหน ให้เราทำอะไร แล้วเราต้องทุ่มเทเอาดีทางนั้น นี่คือหลักการเรื่องของประทาน


ข้อดีของการรู้จักและใช้ความสามารถฝ่ายพระวิญญาณ
1. เราจะมีความสุข
พระเจ้าสร้างให้คนเรามีความสามารถแตกต่างกัน และคนเรามีความสุขใจเวลาเราใช้ของประทานนั้น มันเป็นอุบายของมารอย่างแท้จริง ที่คริสเตียนหลายคน เมื่อเชื่อพระเจ้าแล้ว ก็ไม่คิดทำอะไรเพื่อแผ่นดินของพระเจ้า คิดว่าตัวเองเชื่อพระเจ้าแล้ว รอดแล้ว สบายแล้ว โดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เอาเงินตะลันที่พระเจ้าประทานให้ไปฝังดินเสีย (มัทธิว 25:25) แต่ขณะเดียวกัน ก็ปรารถนาความสุขใจในการเป็นคริสเตียน ผมจะบอกให้ เงินตะลันที่พระเจ้าประทานให้เป็นสมบัติของนาย ไม่ใช่สมบัติส่วนตัว นายฝากไว้เพื่อให้เราเอาไปค้าขายทำกำไรให้นาย (ไม่ใช่ทำกำไรให้ตัวเอง) โปรดสังเกตว่า คนที่ใช้เงินตะลันให้เกิดประโยชน์ มีกำไร เป็นคนที่มีความสุข เพราะนายบอกเขาว่า เขาเป็นทาสที่ดีและสัตย์ซื่อจงปรีดีร่วมสุขกับนายเถิด



2. เราจะรู้สึกอิ่มใจและมีคุณค่า
โรคดูหมิ่นตัวเอง ตำหนิตัวเอง มันกัดกร่อนชีวิตของคนเป็นจำนวนมาก เรามักพบกับคนที่รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ยิ่งเห็นเขาสัมภาษณ์คนเก่งในจอโทรทัศน์ เห็นความสำเร็จของดาราหรือใครก็ตาม เขาก็มักกลับมาย้อนดูตัวเอง แล้วก็สรุปว่า“เรามันไม่เอาไหนเลย” ร้องเพลงก็ไม่เพราะ เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง เล่นกีฬาก็ไม่ได้สักอย่าง จำอะไรก็ช้า หันมาด้านคณิตศาสตร์ แค่เห็นตัวเลขก็ปวดหัวไปหมด



 

  • ฮือ ฮือ ชีวิตข้าฯ ไร้ราคาหาไหนปาน
    ไล่จับกับชาวบ้าน แพ้ทุกด้าน สงสารใจ
    หน้าตาไม่สวยสด ถูกกำหนด บทอะไร
    บ่ คล่อง ฤ ว่องไว คิดน้อยใจ ร้องไห้ ฮือ

  • คนโน้นร้องเพลงเพราะ เสียงเสนาะ เหมาะสมชื่อ
    อีกคน ซิ ฝีมือ กุ๊กเลื่องลือ สื่อโหมโรง
    เทียบอิงยิ่งหมดจิต ฤ เราผิด จิตเหวงโหวง
    ตำหนิ ติผูกโยง ราชโองการ ประทานมา

  • คิดใหม่เสียให้ถูก เราคือลูก พระราชา
    รับทรัพย์อาจแค่หนึ่ง น้อยกว่ากึ่งพระเชษฐา
    สวัสดิ์พัฒนา เงินตราซิ ทวิบาน
    หนึ่งเติมเพิ่มเป็นสอง หมั่นสอดส่องของประทาน

    หนุนใจคนที่ตำหนิตัวเอง โดยสั่งว่า “อย่าตำหนิตัวเอง จงคิดว่า ตนมีค่าๆ” เป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จยากยิ่ง เพราะวันดีคืนดีเขาก็จะกลับมา คิดถึงตัวเองอีก โดยเฉพาะเวลาเขาไปเปรียบเทียบตนเองกับคนโน้นคนนี้ วิธีของพระคัมภีร์ ก็คือ เขาต้องค้นหาให้พบว่า เขามีความสามารถอะไร เพราะพระเจ้าทรงประทานของประทานให้แก่ผู้ที่บังเกิดใหม่ทุกคน ไม่มีใครที่ไร้เงินตะลัน เขาอาจรับทรัพย์มาแค่ตะลันเดียว แต่พระเจ้าก็ต้องการให้เราพอใจ ที่จะพัฒนาเงินนั้นให้เกิดกำไร พอเราทำอะไรได้ผล เราก็ชื่นใจ อิ่มใจ และเห็นว่าตนเองก็มีคุณค่า

    นี่คือวิธีของพระคัมภีร์
    พอเลิกจากประชุมรอบแรก มีผู้หญิงคนหนึ่ง นำคนมาให้ผมอธิษฐานเผื่อ เพื่อหายโรคบ้าง รับเชื่อบ้างเป็นประจำ ต่อมาผมถึงได้ทราบว่า เธอคือคุณอำนวย แตงโม ผมไม่รู้จักคุณอำนวยเป็นส่วนตัวมาก่อน แต่ผมชม “การชวนเพื่อนมาโบสถ์” ของเขา เขาอาจพูดไม่เก่ง เล่นดนตรีไม่เป็น แต่เขาชวนเพื่อนมาโบสถ์ได้แทบทุกสัปดาห์ คนเก่งด้านอื่นๆ หรือนักเทศน์เช่นผม ก็ทำอย่างเขาไม่ได้ แล้วความสามารถของเขาเป็นรองใครหรือ ในงานฉลองโบสถ์ ผมสังเกตว่าพี่น้องบุรุษคนหนึ่งตีกลองยาวเก่งเหลือเกิน แม่นจังหวะ ผมถามชื่อ ถึงได้รู้ว่าเป็นคุณสังวร สีสังข์ เขาบอกผมว่า เขาเคยแข่งขันตีกลองยาวในจังหวัดของเขา พี่น้องหลายคนรับแขกเก่ง บริหารเก่ง พิมพ์ดีดเร็วและแม่นยำ บางคนชอบสอนเด็ก ชอบเล่นกับเด็ก หนุ่มสาวบางคนชอบคุยกับคนสูงอายุ นี่ไม่ใช่ธรรมดานะครับ เพราะใช่ว่าใครจะอยู่กับเด็กได้นาน หรือนั่งฟังคนชราเล่าความหลังเป็นชั่วโมง โดยไม่แสดงอาการเบื่อ เล่นเอาคนสูงอายุติดใจอยากรับเป็นลูกก็มี เวลาผมได้รับมอบหมายให้สอนเด็กเล็กนี่ผมนึกชมครูรวีฯ เช่นครูวันเพ็ญ ครู วรรณ ครูไก่ ครูตุ๊กตา ครูทิพย์ ครูก้อบ และอีกหลายๆคนเสมอ ผมต้อง
    ทำการบ้านเยอะ ว่าจะเต้นแร้งเต้นกาอย่างไร เป็นมนต์สะกดเด็ก ที่มีแนวโน้มว่าจะต้องจับปูใส่กระด้งให้อยู่หมัด ไม่เจี้ยวจ้าว และ ฟังผมให้รู้เรื่อง ต้องขอบคุณพระเจ้าที่เรามี ความสามารถไม่ เหมือนกัน อย่าดูถูกความสามารถที่พระเจ้าให้มา เอาใจใส่ใช้มันให้เกิดผล มีกำ
    ไร แล้วเราจะอิ่มใจ


3, ช่วยให้คริสตจักรเพิ่มพูน ( เอเฟซัส 4:16)
นอกจากเราจะมีความสุขแล้ว โบสถ์ก็มีประสิทธิภาพ และเติบโต คริสตจักรเปรียบเหมือนร่างกาย ลองนึกภาพเวลาเราวิ่ง เท้าซ้ายก้าวไปข้างหน้า เท้าขวาตามหลัง สับกันไปมาซ้ายขวา ตัวเอนไปหน้าเล็กน้อย แขนสองข้างสลับกันไปมาตามจังหวะวิ่ง ปอดต้องการออกซิเจนมากขึ้นทำให้เราหายใจเร็วและแรง ตามองไปข้างหน้า ประสานกันไปทั้งร่างกาย เปาโลเปรียบ ของประทานที่เรามีเหมือนอวัยวะที่แตกต่างกันของร่างกาย และเปรียบคริสตจักรเหมือนร่างกาย คริสตจักรจะก้าวไปได้อวัยวะทุกส่วนต้องทำงาน สิ่งที่ย่ำแย่ก็คือ เราวิ่งไปโดยอวัยวะบางส่วนไม่ทำงาน ลองคิดถึงคนวิ่งที่มือแข็งทื่อ ไม่แกว่งไปซ้ายขวาตามจังหวะวิ่งว่าเป็นอย่างไร คนนั้นวิ่งเร็วได้ยากอย่างแน่นอน หากท่านพระเจ้าให้ท่านมีความสามารถเป็นครู แต่ท่านไม่สอนใคร(เว้นแต่ลูก) หรือเผยแพร่ข่าวประเสริฐ แต่ท่านมิได้เป็นพยานประกาศ หรือเป็นผู้หนุนใจ แต่เก็บไว้หนุนใจตัวเองเท่านั้น หรือเตือนสติ แต่ไม่เตือนใคร เพราะกลัวคนเขาจะโกรธ คนที่ทำอะไรผิดๆพลาดๆในคริสตจักร จึงไม่ได้รับการแก้ไข หรือท่านมีของประทานในการเผยพระวจนะ ในประชุมนมัสการ พระเจ้าประทานถ้อยคำให้ท่าน แต่ท่านเงียบ หรือมีคนป่วยต้องการการหายโรค แต่ท่านก็ปล่อยให้คนที่ไม่มีของประทานทำไป โดยท่านเมินเฉย ลองนึกภาพเอาก็แล้วกันว่า คริสตจักรจะเพิ่มพูนได้อย่างไร พระเจ้าประทานของประทานให้เราก็เพื่อเราจะใช้ให้เกิดประโยชน์ และเมื่อเราได้ใช้ร่วมกัน คริสตจักรก็ก้าวไปได้อย่างคล่องแคล่ว และเพิ่มพูน
ของประทานที่พระเจ้าประทานให้เรานั้น นอกจากตัวเราเองจะมีความสุข อิ่มใจ เห็นว่าตัวเรามีคุณค่าแล้ว ยังทำให้คริสตจักรเพิ่มพูนด้วย

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ




Visitor 856

 อ่านบทความย้อนหลัง