พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของใคร
15 สิงหาคม 2010
ศจ.สมเกียรติ กิตติพงศ์

ลูกา 4:23-30

ผมมีคำถามว่าเวลาคนมาโบสถ์เขาได้อะไร ถ้าเขามั่งอยู่ในที่ประชุม ร่วมรายการต่างๆสัปดาห์หน้าเขาจะมาอีกไหม เขาจะมาสม่ำเสมอเพราะอะไร คริสตจักรให้อะไรเขาได้บ้าง ผมอยากบอกว่า พระเจ้ามีทุกสิ่งที่เขาต้องการ พระองค์ช่วยเขาได้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่าเราขออะไรพระเจ้าก็จะประทานสิ่งนั่นให้

พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของใคร
(1)พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของผู้ศรัทธา
ในเรื่องที่เราอ่าน พระเยซูได้ตรัสกับชาวนาซาเร็ธ ว่าพระองค์ทำอะไรที่เมืองนี้ไม่ได้มากเพราะพวกเขาไม่เชื่อ และพระองค์ได้ยกตัวอย่างสองเรื่อง เรื่องแรก คือเรื่องหญิงม่ายชาวเศราฟัท ในคราวที่เกิดภัยแล้ง ฝนไม่ตกถึง 3 ปีกับ 6 เดือน เอลียาห์ไม่ได้ถูกใช้ให้ไปหาแม่ม่ายคนใด เว้นแต่หญิงม่ายชาวเศราฟัทคนนี้ และเราทราบดูว่า โดยการอัศจรรย์พระเจ้าทรงเลี้ยงดูเธอ เพราะเธอมีความศรัทธาในพระเจ้า อีกเรื่องหนึ่ง พระเยซูตรัสว่า แม้มีคนโรคเรื้อนมากมายในอิสราเอลในสมัยของเอลีชา แต่ก็มีแต่นาอามาน ชาวซีเรียเท่านั้นที่พระเจ้ารักษาเขาให้หาย เพราะเขาเชื่อพระเจ้า คาเปอรนาอูม มีการอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย ในขณะที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นาซาเร็ธ ก็เพราะชาวนาซาเร็ธไม่ศรัทธาในพระเยซู
ฮีบรู 11:6
แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์

พระคำข้อนี้บอกเราชัดเจนว่า คนที่จะรับอะไรจากพระเจ้า ต้องเป็นผู้ที่พระเจ้าพอพระทัย และพระเจ้าพอพระทัยผู้ที่เชื่อ

(2) พระเจ้าช่วยผู้ที่ทูลขอ
พระกิตติคุณ 4 เล่มบันทึกเรื่องผู้ที่พระเยซูช่วยเหลือคนมากมาย แต่ผมก็ไม่พบว่ามีรายใดเลยที่ พระองค์ไปช่วยเขา รักษาโรคของเขาโดยที่เขามิได้ทูลขอ หรือแสดงเจตนาว่า ต้องการให้พระองค์ช่วย ขอยกตัวอย่าง ลูกา 5:12-13 คนโรคเรื้อนคนนี้มีแผลเต็มตัว เมื่อเห็นพระเยซูก็ซบหน้าลงถึงดิน อ้อนวอนทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า เพียงแต่พระองค์จะโปรดก็จะทรงบันดาลให้ข้าพระองค์ หายโรคได้” พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ถูกต้องเขาตรัสว่า “เราพอใจแล้ว จงหายเถิด” บารทิเมอัส คนตาบอดในมาระโก 10:48 ก็เหมือนกัน ร้องเสียงดังว่า “เยซูบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงเมตตาข้าพระองค์เถิด” พระเจ้าปรารถนาให้เราขอ ในลูกา 11:9 พระเยซูตรัสว่า จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้เขา ยากอบบอกว่า “ท่านไม่มีเพราะท่านไม่ได้ขอ” (ยากอบ 4:2) บางคนคิดว่า เมื่อเราเป็นผู้เชื่อแล้ว พระเจ้าจะประทานให้โดยไม่ต้องทูลขอ แต่ พระเจ้าต้องการให้เราพึ่งพระองค์ ความสัมพันธ์ เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าความสุขสบาย ทำไมพระเยซูให้เราอธิษฐานว่า “ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ ทุกๆวัน” (ลูกา 11:3) ก็เพราะต้องการให้เราพึ่งพระองค์

(3) ทรงช่วยเพราะมีผู้ขอแทน พระคัมภีร์บันทึกว่า บางครั้งผู้พบความทุกข์ไม่ได้เป็นผู้กราบทูล แต่มีผู้ศรัทธาที่รักเขาอธิษฐานกราบทูลเผื่อเขา ตัวอย่างเช่น ผู้แม่ยายของเปโตรป่วยเป็นไข้หนัก เขาทั้งหลายจึงอ้อนวอนพระองค์ใหเช่วยหญิงนั้น ( ลูกา 4:38) อีกครั้งหนึ่ง ชายสี่คนหามคนง่อย ตอนนั้นพระองค์กำลังเทศนาอยู่ในบ้าน พวกเขาเข้าไปทางประตูไม่ได้เพราะมีคนมาก พวกเขาจึงรื้อดาดฟ้าหลังคา และหย่อนคนง่อยลงมาต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ พระเยซูรักษาคนง่อยคนนี้เพราะ “ทรงเห็นความเชื่อของเขาทั้งหลาย” (ลูกา 5:20) เรืองของนายร้อยที่ขอแทนบ่าว ก็เช่นเดียวกัน (ลูกา 7:3-10)

พระเจ้าทรงประสงค์ให้ เราอธิษฐานเผื่อคนที่พบความทุกข์ หรือคนที่ต้องการความรอด ถ้าเราไม่อธิษฐานเผื่อเขา พระเจ้าก็ทำการในชีวิตเขาไมได้ บ่อยครั้ง มีคนต้องการความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครอธิษฐานเผื่อเขา และ “พระองค์ทรงเห็นว่าไม่มีใครเลย ทรงประหลาดพระทัยว่าไม่มีใครอ้อนวอนเผื่อ” (อิสยาห์ 59:16) หากพระเจ้าช่วยใครบางคนโดยไม่มีผู้อ้อนวอนเผื่อ มารก็โจมตีพระเจ้าได้ว่าพระองค์มีมีสองมาตรฐาน มันจะถามว่าทำไมพระองค์ช่วยคนนั้น แต่ไม่ช่วยคนอื่น เมื่อมีผู้อธิษฐานเผื่อ พระเจ้าทำการของพระองค์ได้อย่างมีเหตุผล

(4) ทรงช่วยเพราะทูลขอไม่หยุด พระเยซูเล่าเรื่องชายคนหนึ่งที่มีเพื่อนมาพักที่บ้านเขา ในเวลากลางคืน แต่เขาไม่มีอะไรให้เพื่อนเขากิน จึงไปร้องขอเพื่อนบ้านข้างเคียง ขออาหารมาเลี้ยงเพื่อน ครั้งแรกเขาไม่เปิดประตูและช่วยเหลือ อ้างว่า ดึกแล้วพวกลูกๆเข้านอนกันหมดแล้ว จะเปิดประตูให้ไม่ได้ ครั้นเพื่อนคนนั้นยังคงร้องขอไม่หยุด เขาจึงมาทำให้ในที่สุด ( ลูกา 11:8) เรื่องแม่ม่ายกับผู้พิพากษา ก็เช่นเดียวกัน เธอขอความยุติธรรมไม่หยุด ขอจนผู้พิพากษารำคาญ ( ลูกา 18:5) พระเยซูนำเรื่องนี่มาเล่า เพื่อผู้เชื่อทั้งหลายรู้ว่า เราควรขอโดยไม่อ่อนระอาใจ ไม่ย่อท้อ ขอจนได้รับ














Visitor 220

 อ่านบทความย้อนหลัง