คำเทศนา วันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน 2010
การรักษาโรคที่เบธซาธา


โดย ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์
 

 

การรักษาโรคที่เบธซาธา

(ยอห์น 5:1-15)

      เบธซาธาเป็นสระน้ำในกรุงเยรูซาเล็ม   รอบๆสระมีศาลาอยู่  5 หลัง มีคนป่วย คนอำมพาต คนง่อย มาอาศัยอยู่จำนวนมาก จะมีทูตสวรรค์มากระเพื่อมน้ำในสระเป็นครั้งเป็นคราว เมื่อน้ำกระเพื่อม คนป่วยที่ลงไปในสระก่อนจะเป็นคนที่ได้รับการรักษาโรคให้หาย  

1.    ทรงมีพระกรุณา

      ชื่อเบธซาธา แปลว่า บ้านแห่งพระกรุณา  เบธ แปลว่า บ้าน  ซาธา แปลว่า พระกรุณา  ความจริง

      สระน้ำแห่งนี้เปรียบเสมือนโรงพยาบาล ในโลกที่เราอยู่ พระเจ้าทรงประทานพระกรุณาให้แก่ผู้คนมากมาย แม้คนที่มิได้เชื่อถือในพระเจ้า และ อาจต่อต้านพระเจ้า พระองค์ก็ทรงกรุณาเขา เวลาที่เราเจ็บป่วย ทรงโปรดให้มีโรงพยาบาล แพทย์ ทุกวันนี้ วิชาการแพทย์ได้ก้าวหน้าไปมาก จนแพทย์ต้องศึกษาลึกซึ้งไปเฉพาะทาง เรามีแผนก หู ตา คอ จมูก อายุรกรรม สูตินรีเวช  ศัลยกรรม ทันตกรรม กระดูก และพยาธิ เป็นต้น พระเจ้าทรงประทานให้เรามียาจากสมุนไพรในธรรมชาติ และ สารสกัด เช่น ควินิน พบจากเปลือกไม้ซิงโกนา รักษามาเลเรีย และ ลดไข้ ลิโด-เคน พัฒนาจากโคเคน พืชที่พบในอเมริกาใต้ เพื่อเป็นยาชาเฉพาะที่ เรามีพวก ขิง ข่า ขมิ้น เพื่อขับลม และ อื่นๆ อีกมาก สิ่งต่างเหล่านี้เป็นพระกรุณา เหมือนการที่ พระเจ้าให้ทูตสวรรค์  มากระ-เพื่อมน้ำในสระเพื่อรักษาโรค

2.    ทรงมีพระคุณ

      เมื่อพระเยซูเสด็จมาที่สระน้ำแห่งนี้ พระองค์ทรงรักษาคนง่อยคนหนึ่ง ทำไมพระองค์ทรงรักษาโรคคนนี้คนเดียว ไม่รักษาผู้ป่วยทั้งหมดที่อยู่รอบสระ ทั้งนี้ก็เพราะ ชายคนนี้เชื่อพระเยซู พระเจ้าไม่ได้เสด็จไปรักษาโรคให้คนทั้งโรงพยาบาล แต่ทรงรักษาโรค ของหลายคน ในห้องประชุมนี้ ให้หายโรค โดยมิได้ใช้ยา พระคุณเป็นสิ่งที่พระเจ้าให้เราเปล่าๆ เป็นความโปรดปรานของพระองค์แก่คนที่มีความเชื่อ

3.    ทรงรักและสงสาร

      ชายที่เป็นง่อยคนนี้ ป่วยมานาน 38 ปี คนที่ป่วยเรื้อรังอย่างนี้ มักถูกทอดทิ้ง เวลาเราป่วยเข้าโรงพยาบาล สัปดาห์ สองสัปดาห์แรก จะมีคนมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเยอะ มีดอกไม้ ของเยี่ยมมากมายรอบเตียงไข้ แต่หนึ่ง หรือ 2 เดือน ผ่านไป   คนมาเยี่ยมเริ่มลดลง หนึ่ง หรือสองปีผ่านไปคนที่มาเยี่ยมก็หดหายไปหมด

      38 ปี นี้ ไม่มีใครเหลือเลยแม้แต่ญาติ ในที่สุดเขาเอาชายคนนี้มาวางไว้ที่เบธซาธาให้ช่วยตัวเอง แล้วเขาก็ช่วยตัวเองไม่ได้ ท่านเจ้าข้า เมื่อน้ำกำลังกระเพื่อมนั้น ไม่มีผู้ใดที่จะเอาข้าพเจ้าลงไปในสระ และ เมื่อข้าพเจ้ากำลังไป คนอื่นก็ลงไปก่อนแล้ว(7) แต่พระเยซูรักเขา สงสารเขา  วันนี้ คนอาจลืมเรา แต่พระเจ้าไม่เคยลืมท่าน พระองค์ทรงพร้อมช่วยเหลือท่าน

4.    ทรงทดสอบ ความปรารถนา

      พระเยซูตรัสถามคนง่อยคนนี้ว่า เจ้าปรารถนาจะหายโรคหรือ ว่ากันตามเหตุผล พระองค์ไม่      น่าถามคำถามนี้ แต่พระเจ้าต้องการทดสอบความต้องการของเราเสมอ เราอยากได้จริงหรือ เมื่อเราอธิษฐาน เราแสวงหาคำตอบจริงหรือ เมื่อเราอยากได้พระวิญญาณ พระเยซู ตรัสว่า เราต้องขอ  หา และ เคาะ คนง่อยคนนี้อาจอยู่กับโรคมานานจนคุ้นเคย อาจชื่นชอบที่มีคนเห็นใจ และนี้เป็นเหตุผลที่หลายคนอาจไม่ปรารถนาการเปลี่ยนแปลง 

5.   ทรงทดสอบ ความเชื่อ

      พระเยซู ตรัสสั่งเขาว่า จงลุกขึ้นยกแคร่ของเจ้าไปเถิด แล้วพระองค์ก็หายไป พระองค์มิได้มาค่อยๆพยุงเขาขึ้น   ทำไมพระองค์กับเขาตรัสเพียงแค่นั้น แล้วจากเขาไป ก็เพื่อทดสอบความเชื่อ ว่าเขาจะทำตามที่พระองค์ตรัสหรือไม่ วันนี้ พระเจ้ามีพระสัญญาตรัสกับเราเยอะแยะในพระคัมภีร์ เรามีพระสัญญาเหล่านี้แล้ว เราจะเชื่อ เชื่อฟัง และ ทำตามหรือไม่ ไม่มีใคร รับพระพรใดๆ หากเขาขาดความเชื่อ   ชายคนนี้เชื่อพระองค์ เขาลุกขึ้นและหายง่อย

6.    ทรงทดสอบ  ความรอด

      ภายหลังพระองค์พบชายคนนี้ในพระวิหารอีก พระองค์ตรัสกับเขาว่า นี่แน่ะ เจ้าหายโรคแล้ว อย่าทำบาปอีก มิฉะนั้นเหตุร้ายกว่านั้นจะเกิดกับเจ้า (14) โรคที่เกิดกับคนเรามาจากหลายสาเหตุ อาจเกิดเพราะบาปของสังคม ส่งผล ถึงเรา ผู้หญิงบางคนติดโรคเอดส์ เพราะ สามี เป็นเอดส์ หวัด  อาจเกิดจากมลพิษในอากาศ แต่ก็มีโรคที่เกิดจากตัวเราเองทำผิด เหมือนชายคนนี้ก็ได้ โกโนเรีย-โรคผู้หญิง เกิดจากการที่ผู้ชายบางคน ใช้ชีวิตสำส่อน การรักษาโรค เป็นเรื่อง    ชั่วคราว  แต่เรื่องที่สำคัญกว่า และ เป็นต้นเหตุ คือ ความบาป  จะต้องถูกขจัดออกไป  ความรอดเป็นเรื่องถาวร ไม่ใช่ เฉพาะในโลกนี้เท่านั้น แต่ในโลกหน้าด้วย และ เรารอดได้โดยการกลับใจ จากความผิดบาป วางใจ ในการไถ่โทษ เพื่อชำระหนี้ความผิด โดยไม้กางเขน ของพระเยซู  และ การก้าวเดินต่อไป  พระองค์ทรงสอบความรอดของชายคนนี้ด้วย ว่าใจเขาเปลี่ยนหรือไม่

7.    ทรงทดสอบ ความรัก

      พบกับชายคนนี้แค่นั้น แล้วพระองค์ก็จากไป หลังจากนั้น ชายคนนี้ออกไปบอกพวกยิวว่า ท่านที่ได้รักษาเขาให้หายโรคนั้น คือ พระเยซู (15) พระองค์มิได้สั่งให้เขาออกไปเป็นพยาน   เขาทำเอง เขาออกไปบอกพวกยิว แม้กระทั่ง คนที่อยากจับผิดเขา เพราะ เขาซาบซึ้ง และ รักพระเยซู เป็นความรู้สึกกตัญญู เหมือนคนโรคเรื้อนชาวสะมาเรียคนเดียว ที่กลับมาขอบคุณพระองค์ วันนี้ พระเจ้าทรงรักษาโรคของท่าน ช่วยท่านให้รอดบาป เราได้เป็นพยานเรื่องพระเยซูให้คนอื่นฟังหรือเปล่า  พระเจ้ากำลังทดสอบความรักที่ท่านมีกับพระองค์  

 

     


 

-------------------------------------------  

 




 

 



 




 




 



 

 


 




 




 




 




 

 



 




 




 




 




 




 

 



 




 




 




 





Visitor 572

 อ่านบทความย้อนหลัง