การการเป็นพยานส่วนตัว
ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์
คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2010



การเป็นพยานส่วนตัว มี 2 แนว
(1) แนะนำให้มีความเชื่อในพระเจ้า พระผู้สร้าง
(2) เล่าประสบการณ์ส่วนตัว ว่าพระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตเราอย่างไร
วันนี้ให้เราพิจารณา การเล่าประสบการณ์ส่วนตัว โดยพิจารณา
จากคนตาบอดที่พระเยซูทรงรักษา
ขอเล่าเรื่องก่อน
ครั้งหนึ่งพระเยซูเสด็จดำเนินไป ทรงเห็นชายคนหนึ่งตาบอดแต่กำเนิด
สาวกของพระองค์ทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า
ใครได้ทำความผิดบาป ชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขา เขาจึง
เกิดมาตาบอด” พระเยซูตรัสตอบว่า “มิใช่ชายคนนี้หรือบิดามารดา
ของเขาได้ทำบาป แต่เขาเกิดมาเพื่อพระราชกิจของพระเจ้าปรากฎ
ในตัวเขา” (1-3) ผมเองไม่เชื่อเรื่อง คนเรามีบาปติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ปกติคนเราชอบค้นหาว่า ใครเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราเจ็บป่วย พิการ
หรือทนทุกข์เวทนา พระเยซูไม่ทรงประสงค์ให้เราสนใจค้นหาความผิด
ในอดีต และให้มองทุกข์ในปัจจุบันด้วยสายตาใหม่ คือ มองว่า
“เป็นโอกาสที่พระเจ้าจะทำการอัศจรรย์ในชีวิตของเรา
“ปัญหาเล็ก การอัศจรรย์ก็เล็ก ปัญหาใหญ่ การอัศจรรย์ก็ใหญ่”
ดังนั้นอย่าให้เรามองดูปัญหาในภาพลบ แต่ให้มองว่าเป็นโอกาสที่
พระเจ้าจะได้ทำพระราชกิจพิเศษให้ปรากฎในชีวิตของเรา
เมื่อตรัสแล้วพระองค์ก็ทรงบ้วนพระเขฬะลที่ดิน ทำเป็นโคลนป้ายตา
ที่ตาของคนตาบอด แล้วสั่งเขาว่า “จงไป ล้างโคลนออกเสียใน
สระสิโลอัมเถิด” เขาไปล้างแล้วกลับมามองเห็นได้” ( 6-7)

Visitor 37

 อ่านบทความย้อนหลัง