การให้อภัย

เคลวิน สไตเนอร์

คำเทศน์วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2011
หากคริสเตียนไม่มีความสุข ต้องสังเกตว่ามีอะไรมาปิดกั้นชีวิตเราหรือไม่
บางครั้ง สิ่งที่เคยมีผลกับเราในสมัยที่เรายังไม่เชื่อ มักกลับมามีผลกับเราอีกเมื่อเราเข้ามาเป็นคริสเตียน

ความรักต้องยกโทษ
ขอให้เราดูเรื่องบุตรน้อยเป็นตัวอย่าง

ผมตั้งคำถามว่า ทำไมพี่ชายจึงอิจฉาบุตรน้อย เมื่อบุตรน้อยกลับใจใหม่ กลับมาบ้าน พ่อจัดงานเลี้ยง
แต่พี่ชายไม่อยากเข้าไปร่วมงานฉลองรับน้องที่พ่อจัดขึ้น ทำไมพี่จึงไม่ยอมเข้ามา ก็เพราะเขาอิจฉาน้อง
ทั้งๆที่น้องไม่ได้ทำผิดต่อพี่ชายสักนิด น้องแบ่งทรัพย์เอาส่วนของตนไปผลาญที่เมืองไกล เงินหมด
เขาทำผิดต่อคุณพ่อไม่ใช่พี่ เขาต่อว่าคุณพ่อว่า “เขาทำงานมาเหน็ดเหนื่อยทุกวัน แต่พ่อไม่ได้จัดเลี้ยง
เขาเลย เขาจะทำดีไปทำไมกัน บางทีเขาอาจคิดว่า น้องไปเสวยสุข แต่เขาต้องทำงานลำบากเหน็ดเหนื่อย
ทุกวัน เขาไม่ยอมยกโทษน้อง เขาขมขื่นน้อง

หากเราไม่ยอมยกโทษ เราจะได้รับผลพวงอย่างไร
1. เราจะขมขื่น
ตอนที่พระเจ้าจะนำคนยิวออกมาจากอียิปต์ พระเจ้าให้คนยิวกินเนื้อปิ้ง ขนมปังไร้เชื้อ และผักรสขม ( อพยพ 12:8)
ทำไมพระเจ้าจึงให้พวกเขากินผักรสขมด้วย ก็เพราะพระองค์ต้องการให้พวกเขาจดจำ เพราะถ้าเราไม่ยกโทษ
เราก็จะขมเหมือนกินฝักขม เวลาเปโตรถามพระเยซูว่า ถ้าพี่น้องทำผิด และมาขอโทษเรา เราควรยกโทษเขาสัก
กี่ครั้ง เจ็ดครั้งพอไหม พระเยซูตรัสตอบเขาว่า ให้ยกโทษ 7x70 ครั้ง ซึ่งหมายถึงการยกโทษ ไม่มีที่สิ้นสุด

2. เราจะเป็นคริสเตียนปลาสติก
คือข้างนอกดูดี สวยงาม แต่ภายในแห้งแล้ง

3. วิชาแพทย์บอกเราว่า ความขมขื่นไม่ดีต่อสุขภาพ
เราจะเป็นแผลในกะเพาะอาหาร คอพอก ความดันโลหิตสูง

4. ถ้าเราเก็บความขมขื่นไว้เป็นเวลานาน เราจะป่วยเรื้อรัง
ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์ไมนไม่สมดุลย์ ทำให้เราเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ ซึ่งมีผลต่อใบหน้าของเรา โพรงกระดูกที่
ผลิตเม็ดเลือดแดงจะทำงานผิดปกติ พระคัมภีร์กล่าวว่า “ชีวิตอยู่ในเลือด” การผลิตเลือดไม่ปกติ เลือดก็ไม่ปกติ
เราก็ขาดชีวิตชีวา สดุดี 32:3-4 “เมื่อข้าพระองค์ไม่แจ้งบาปของข้าพระองค์ ร่างกายของข้าพระองค์ก็ร่วงโรยไป
โดยการคร่ำครวญวันยังค่ำของข้าพระองค์ พระหัตถ์ของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์ ทั้งวันทั้งคืน กำลังของข้า
พระองค์ก็เหี่ยวแห้งไปอย่างความร้อนในหน้าแล้ง” กษัตริย์ดาวิด ทำผิดประเวณีกับนางบัทชีบา และพยายามปก
ปิดความผิดของตนเอง โดยการส่งสามีของนางไปรบจนถูกฆ่าตาย คนที่ทำบาปชอบปิดบังความผิด เมื่อซ่อนเร้น
บาป บาปมันก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อดาวิดทำบาป มันก็ฟ้องร้องในจิตใจ เรารู้ว่าน่าละอาย มารก็หลอกลวงเราว่า
ถ้าเราสารภาพมันจะน่าละอาย

คนเรามักไม่อยากเอ่ยชื่อบาปที่เราทำ เรามักแก้ตัวให้บาป และทำให้พระเจ้าช่วยเราไม่ได้ ถ้าเราทำผิดจริง
เราต้องกล้าพูดความจริง ผมไปเทศน์ที่คริสตจักรแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีศบ.คนใหม่ ศิษยาภิบาลคนเก่าเป็นสตรี และเธอ
ผิดประเวณีกับผู้ปกครอง สมาชิกทราบ ข่าวนี้กระพือออกไปสู่สาธารณชน และคริสตจักรอับอายมาก ผมไปที่นั่น
เขาบอกว่า เขาพูดเรื่องนี้ไม่ได้ จะแก้ไขอย่างไร ผมบอกว่าวิธีแก้ปัญหาให้สารภาพกับที่ประชุม เขาบอกว่าจะยิ่งแย่
ผมบอกว่าจะดีขึ้น วันหนึ่งผู้กครองตัดสินใจสารภาพกับที่ประชุม ขาทำได้ยากมาก แต่เมื่อเขาสารภาพทุกอย่างก็คลี่
คลาย ผู้ปกครองท่านอื่นๆยกโทษเข้ามาเล้าโลมเขา เสียงวิพากย์วิจารณ์ภายนอกก็เงียบลง
ผลพวงฝ่ายวิญญาณ

1.จะมีผลกับความรักที่เรามีต่อพระเจ้า
ถ้าเราบอกว่าเรารักพระเจ้า แต่เกลียดชังพี่น้องของตน เราก็พูดมุสา ( 1 ยอห์น 4:20) พระเจ้าสอนให้เรารักกันและกัน
แต่เรารักพี่นอ้งโดยที่เราไม่ยอมยกโทษความผิดของเขานั้น เป็นไปไม่ได้ เมื่อเราเก็บความขมขื่นไว้ในใจนานๆ

2. เราจะไม่ได้รับการยกโทษจากพระเจ้า
มัทธิว 6:12 ถ้าเราไม่ยอมยกโทษพี่น้อง พระเจ้าก็ไม่ยกโทษเราด้วย พระเยซูตรัสว่า ถ้าเรายกโทษพี่น้อง พระเจ้าก็จะทรงยก
โทษเราด้วย

3. เราจะตึงเครียด
คนที่ไม่ยกโทษ ต้องใช้พลังมากเป็นพิเศษ ความคิดของเขาจะจดจ่ออยู่กับ ความผิดของคนเหล่านั้นที่ทำผิดกับเขา

4. เราจะมีพฤติกรรมเหมือนคนที่เราไม่ยอมยกโทษเขา
เราจะมีอารมณ์เหมือนเขา ติดกับด้าน คิดเหมือนเขา เราเป็นทาสของคนนั้น เพราะพระคัมภีร์กล่าวว่า เมื่อเราไม่ยอม
ยกหนี้ให้ คนที่ยืมก็เป็นทาสคนให้ยืม ไม่มีความสุข สุภาษิต 15:17 “กินผักในที่ที่มีความรัก ก็ดีกว่ากินเนื้ออ้วนพร้อมกับความ
เกลียดชัง” คนที่ขมขื่น จะเบื่องาน เบื่อคน ไม่อาจพักผ่นอได้จริงๆ

5.ความขมขื่นขยายตัว
จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง จากคนชั่วอายุหนึ่งไปสู่อีกชั่วอายุหนึ่ง ให้โทษของบิดาตก ทอดไปถึงลูกหลานของผู้
ที่ชังเรากระทั่งสามชั่วสี่ชั่วอายุ ( เฉลยธรรมบัญญัติ 5:9) ยกตัวอย่างเช่น ลูกที่โกรธพ่อแม่ที่เข้มงวดกับเขา พอเขาโตขึ้น
เป็นพ่อแม่ เข้มงวดกับลูก ลูกก็ขมขื่นกับเขาต่อไปอีก ชั่วอายุต่อชั่วอายุ br> เมื่อเราอดทนทำให้เรามีกำลังต่อสู้

Visitor 572

 อ่านบทความย้อนหลัง