จะพบความจุใจได้อย่างไร
วันที่ 21 – 27 กุมภาพันธ์ 2011
โดย ศจ. ดร.โรเบิร์ท เฮท ชูเลอร์
(1 เปโตร 4:11)
“ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดจะพูด ก็ให้กล่าวเหมือนหนึ่งกล่าวพระภาษิตของพระเจ้า ถ้าคนใดกระทำบริการ ก็จงให้บริการ ตามกำลังซึ่งพระเจ้าทรงโปรดประทาน เพื่อว่าพระเจ้าจะทรงได้เกียรติในการทั้งปวง โดยทางพระเยซูคริสต์”
ไม่นานมานี้ผมอ่านเรื่อง หมอวิลเลียม ฮาเวนสัน ท่านเป็นจักษุแพทย์ที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง วันหนึ่งท่านกล่าวสุนทรพจน์กับนักศึกษาแพทย์ในวันรับปริญญาบัตร ท่านกล่าวว่า “นักศึกษาที่รัก ตอนที่ผมอายุเท่าพวกคุณ ผมเคยคิดว่าไม่มีใครสนใจพระเจ้า เดี๋ยวนี้ผมรู้แล้ว ว่าพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ผมสังเกตว่าคนไข้ที่รู้ว่ามีพระเจ้า รักษาไข้ได้ง่ายกว่าคนไข้ที่ไม่รู้จักพระเจ้า ไม่ต้องสงสัยเลยมันต่างกันราวฟ้ากับดิน ดังนั้นเราผู้เป็นแพทย์จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้
ขอให้ผมได้เปรียบเทียบแพทย์กับช่างสกัดหินมาก่อสร้างโบสถ์สักหน่อย ช่างก่อสร้างมี 3 ประเภท ขึ้นกับทัศนคติของช่างที่มองดูงานที่ตัวทำ ช่างประเภทแรก รู้สึกเป็นภาระกับการ สกัดและแบกหินมาก่อสร้าง ช่างประเภทที่สอง มองภาพว่าตนคือช่างผู้สร้างอาคารอีกหลังหนึ่ง ช่างประเภทที่สาม มองว่าตนกำลังก่อสร้างพระวิหาร วิสุทธิสถานอันถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ท่าทีที่หนึ่ง ถ้าท่านทำงานเหมือนช่างแบกหิน ท่านจะ มองคนไข้ เขาคือ คนไร้ค่าขี้บ่น คนป่วยขี้อ้อน เป็นม้าเกเร หรือเป็นก้อนเนื้อที่น่ารำคาญ ท่าทีที่สองท่านมองดู งานเหมือน ช่างรับเหมามีงานที่จะต้องก่อกำแพงกันไม่หยุดไม่หย่อน ต้องคอยแก้ไข ร่างกายที่บกพร่องกันอยู่ร่ำไป
ความพยายามเช่นนี้ของท่านจะเริ่มไร้เหตุผล เพราะท่านรู้ดีว่า ในที่สุดแล้ว ร่างกายของคนเราก็มิอาจแก้ไขกันได้อีกต่อไป หากท่านมีท่าทีเช่นนี้ ท่านต้องอยากจะหลีกออกไปจากอาชีพของท่าน เพราะท่านรู้ดีว่าที่สุดแล้ว ท่านคือผู้แพ้ และท่านจะเชื้อเชิญความตายเข้ามาหาตัว
|
