เตรียมพร้อม
คำเทศนา วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2011
โดย ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์

มัทธิว 24:3-13;36-46

ข่าวเรื่องน้ำท่วม กทม. หรือไม่นั้น มีมานานพอสมควร ทำให้เราเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในคราวนี้ ผมก็เหมือนชาวกรุงทั้งหลาย เฝ้าดูการรายงานข่าวมาเป็นระยะๆ มาถึงวันนี้ ดูเหมือนอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นกับคนกรุงทั้งชั้นนอกชั้นในนั้นจะเลี่ยงให้พ้นไปได้ยากเสียแล้ว สิ่งที่ผมเฝ้าดูอีกประการก็คือ ถ้ามันเลวร้ายที่สุดนั้น มันท่วมกันสักแค่ไหน คำตอบก็คือ ประมาณ 2 – 3 เมตร ขึ้นอยู่กับบ้านของเรานั้นอยู่ในที่สูงหรือที่ต่ำ เราจะแช่อยู่ในน้ำนานแค่ไหน และเราควรจะเตรียมตัวอย่างไร ให้รอดพ้นภัยพิบัติคราวนี้น้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม จะขอนำเรื่องนี้มาเที่ยบเคียงกับ การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ วันสิ้นยุค หรือวันที่พระคริสต์จะเสด็จกลับมาครั้งที่สอง เนื่องจากพระคัมภีร์พยากรณ์ถึงวันนั้นเอาไว้มาก
ว่าการตามจริง อุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเราชาวไทยคราวนี้ก็สาหัสสากรรณ์ เอาการ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับวันนั้น เพราะวันนั้นคือวันที่โอกาสแห่งความรอดจะปิดลง พระเยซูเปรียบให้ฟังว่าวันนั้น จะเหมือนกับวันที่ประตูนาวาปิด โนอาห์ประกาศให้คนกลับใจเสียใหม่มานานหลายปี ไม่มีใครเชื่อ วันหนึ่งพระเจ้าให้ประตูนาวาปิด วันนั้น ฝนตกจากฟ้า ตาน้ำพลุ่งขึ้นจากดิน ทุกแห่งจนท่วมบ้านท่วมเมือง กวาดทุกสิ่งทุกอย่างหมด ( มัทธิว 24:37-39) ผู้เชื่อที่เข้ามาในนาวารอด ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็พินาศ พระเยซูนำเรื่องนี้มาเปรียบเทียบให้เป็นบทเรียนกับเราว่า “ด้วยว่าสมัยโนอาห์ ได้เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมา ก็จะเป็นอย่างนั้น” (37)
เราเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง
พระเยซูนำเรื่องน้ำท่วมโลกมาเล่าให้เราฟัง ไม่ใช่เพื่อขู่เรา แต่เพื่อเตือนให้เราเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอต่างหาก เรื่องการเตรียมตัวนั้นผมอยากแบ่งคนออกเป็น 4 ประเภท

(1) ไม่เตรียม และไม่พร้อม ในการเตรียมตัว ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตักเตือนประชาชนคราวนี้ เขามีศัพท์ บางคำที่ใช้กันมากช่วงนี้ เช่น พื้นที่สุ่มเสียง พื้นที่เฝ้าระวัง พื้นที่อพยพ มีคนแซวว่าทั้ง 3 พื้นที่อย่างที่เรียกนี้ แปลได้อย่างเดียว คือแปลว่า เป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมแน่ ๆ วันก่อนผมขับรถวนไปตามซอกเล็กซอยน้อยในหมู่บ้าน และดูว่าเขาเตรียมอะไรกันบ้าง ผมพบว่า ส่วนใหญ่ไม่เตรียมอะไรเลย มีน้อยบ้านมากที่เตรียมกระสอบทราย ก่ออิฐบล้อก รถยนต์ส่วนมากก็ยังจอดไว้ในบ้านตามปกติ ทุกคนออกไปทำงานตามปกติทุกวัน ถ้าจะถามผมว่า ทำไม่เขาไม่เตรียมอะไรเลย คำตอบที่ถูกต้องที่สุด ก็คือ เชื่อว่า รัฐ “เอาอยู่” และน้ำจะไม่ท่วม อาจท่วมที่อื่น แต่บ้านฉันไม่ท่วม
พระเยซูตรัสว่า วันสุดท้าย จะเป็นอย่างนั้น “เพราะว่าเมื่อก่อนวันน้ำท่วมนั้น คนทั้งหลายได้กินและดื่มกัน ทำการสมรสกัน ยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าในนาวา และน้ำก็มากวาดเอาเขาไปสิ้น”( 38) พวกนี้เป็นพวกที่ไม่เชื่อเรื่องวันสิ้นยุค ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ไม่เชื่อเรื่องการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระคริสต์ ไม่เชื่อเรื่องวันสิ้นยุค จึงใช้ชีวิตไปตามปกติทุกอย่าง เมื่อวันนั้นมาถึง เขาจึงพินาศแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

(2) เตรียม แต่ไม่พร้อม
มีนักข่าวทีวีช่องหนึ่งเขา เขาล่องเรือเข้าไปตามซอกซอยต่างๆ ในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว ว่าเขาอยู่กันอย่างไรบ้าง เขาพบว่า มีบ้านจำนวนไม่น้อยที่ยกข้าวของขึ้นที่สูง แต่แกยกมันขึ้นไปสูงแค่ 1 เมตร ย้ายจากพื้นขึ้นไปวางบนโต๊ะ น้ำท่วม 1-2 เมตร ข้าวของแกจึงยังแช่อยู่ในน้ำทั้งหมด บางบ้านก่ออิฐบล้อก สูง 2 ฟุต พอน้ำมา ก็ล้นอิฐบล้อกเข้าไป บ้านจึงมีน้ำเต็ม บางบ้านก่อคันกระสอบทรายสูงอย่างดี พอน้ำมามันก็เข้ามาตามท่อ ซึมเข้ามาในดิน นี่ก็เรียบร้อยไปเหมือนกัน เตรียมแทบแย่ แต่พอน้ำมาก็จมน้ำเหมือนกัน นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งที่จมน้ำก็เข้าข่ายนี้ มีพนังกั้นน้ำ ที่ทำด้วยคันดิน พอดินแช่น้ำนานๆก็ล่วนพนังกั้นน้ำก็พัง น้ำก็ทะลักเข้าไป ถามว่าทำไมถึงป็นอย่างนี้ พวกนี้เป็นพวกที่ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง คิดว่าน้ำจะท่วมแค่ก็คงท่วมแค่ตาตุ่ม ท่วมแค่เข่าเท่านั้น หรือไม่ก็คิดว่ายังอีกนานน้ำถึงจะมาถึง
พวกที่เตรียมตัวแต่ไม่พร้อมนี่ ได้แก่คริสเตียนขาดปัญญา มีหลายคนที่มาโบสถ์ ฟังเทศน์รู้เรื่องวันสิ้นยุคอย่างดี แต่ละครั้งที่ฟังได้รับแรงกระตุ้นทีหนึ่ง ก็เตรียมตัวเสียทีหนึ่ง เตรียมตัวเข้าเฝ้า ระมัดระวังในการใช้ชีวิตบ้างพอเป็นพิธี ในใจคิดว่าถ้าพระเยซูเสด็จมา ก็คงเตรียมทัน พวกนี้เหมือนหญิงพรหมจารีย์โง่ 5 คนที่มีน้ำมันแค่ในตะเกียงของตน แต่ไม่มีน้ำมันสำรอง อุตส่าห์เตรียมตัวเสียดิบดี แต่ไม่พร้อมสำหรับการเสด็จมาของเจ้าบ่าว (มัทธิว 25:1-13) เพราะมีพระวิญญาณเฉพาะกาลเท่านั้น

(3) เตรียม และพร้อม
พวกนี้เชื่อว่าน้ำจะท่วมจริง ก็เตรียมตัวจริงๆ แต่เดิมพวกเขาไม่มีความพร้อมรับน้ำท่วมเอาเลย แต่หลังจากได้รับคำเตือนก็รีบปรับปรุงตัวเอง เก็บขนย้ายของสำคัญไปอยู่ในที่ปลอดภัย ยกข้าวของที่มีค่าขึ้นที่สูง ชั้นสอง ชั้นสาม หรือในระดับที่พ้นน้ำ ก่อกิฐบล้อกรอบบ้านตรวจตราแข็งแรงว่าไม่มีรอยรั่วซึม เตรียมอาหารการกิน หากไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา ก็มั่นใจว่าตนอยู่ได้ หรือไม่ก็ล้อคบ้านแข็งแรงป้องกันโจรกรรม หากตนต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น โดยมั่นใจว่าบ้านปลอดภัย พวกที่เตรียมอย่างนี้ มักถูกพวกที่ไม่เตรียมหัวเราะเยาะ เพราะเขาไม่อาจเตรียมพร้อมได้ง่ายๆในเวลาอันสั้น เขาต้องก่ออิฐ ต้องยกข้าวของขึ้นที่สูง ต้องเอารถไปฝากที่จอดที่ปลอดภัยแต่เนิ่นๆ
พระเยซูสอนให้เราเป็นคนที่เตรียมตัว พร้อมรับวันที่พระองค์เสด็จมา เหมือนหญิงพรหมจารีย์ ฉลาด 5 คน เหมือนโนอาห์ต่อนาวา คนเห็นก็หัวเราะเยาะ พระเจ้าตักเตือนเรา หากเราเชื่อ เราฟัง เราก็เปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตของตนเอง แต่ก่อนเราใช้ชีวิตอย่างปล่อยปละละเลย แต่เมื่อเราเรียนรู้เรื่องนี้เราก็เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต ไม่ปล่อยตัวทำบาป ห่างเหินพระเจ้า ให้ตะเกียงแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์หรีลง หรือดับไป ฟื้นฟูจิตวิญญาณใหม่

(4) ไม่เตรียม แต่พร้อม
พวกนี้เตรียมตัวรับน้ำท่วมมา ตั้งแต่เริ่มสร้างบ้าน หรือหาที่อยู่อาศัย ผมอยู่หมู่บ้านมิตรภาพ ซอย 6 มีบ้านขนาบผม 3 หลังแรก ทางซ้ายมือ เขาเตรียมบ้านเหมือนบ้านเรา คือยกข้าวของขึ้นที่สูง และพร้อมรับ “น้องน้ำ” เข้าบ้านเต็มที่ บ้านหลังที่สอง อยู่ตรงข้ามบ้านเรา เขาก่อทั้งกระสอบทราย และก่ออิฐบล้อกสูง เอารถไปจอดที่อื่นมาไม่ต่ำกว่า 3 สัปดาห์แล้ว ผมคิดว่าเขาเตรียมดีมาก ส่วนบ้านหลังที่สาม เป็นบ้านที่อยู่ขวามือบ้านของผม น่าอิจฉาหลังนี้มาก เป็นบ้านเพิ่งสร้างใหม่ แกสร้างบ้านไว้โดยชั้นล่างสูงจากพื้นถนนที่จอดรถที่สูงอยู่แล้วเป็นเมตร ผมสังเกตว่า แกมิได้เตรียมอะไรมาก อีกคนหนึ่ง พักที่คอนโดชั้นดี ในช่วงน้ำท่วม ที่จอดรถก็สูงที่พักก็สูงลอยฟ้า มีระบบน้ำสะอาดให้ใช้ มีเครื่องปั่นไฟของตนเอง ที่หมู่บ้าน บ้าเดี่ยวเขาอาจตัดไฟ แต่คอนโดจะไม่มีการตัดไฟ สิ่งที่เตรียมก็คงเป็นแต่อาหารการกินเล็กน้อยๆ เท่านั้น
ความจริงพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้เราเป็นคนที่พร้อมเสมอ เพราะเราไม่รู้ว่าพระเยซูจะเสด็จมาเมื่อใด เวลาไหน เราต้องเฝ้าระวัง และตื่นตัวอยู่ ( มัทธิว 25:13) คนต้นเรือน ต้องเป็นคนที่พร้อมให้นายมาตรวจสอบตนได้ทุกเมื่อทุกเวลา ไม่ใช่ กระวีกระวาดเป็นพักๆ แต่เป็นคนพร้อมรับเสด็จเสมอ เขาพูดว่า “วันนั้นมาถึง เมื่อใดก็ได้” เขาพร้อมทุกวันเวลา ชีวิตของเขาอยู่ในทางของพระเจ้า เขาเชื่อฟังพระองค์เป็นชีวิตจิตใจ พระเยซูเปรียบเทียบคนที่ฟังและทำตาม ว่าเขาเปรียบเหมือนคนที่มีปัญญาสร้างบ้านของตนไว้บนศิลา พายุพัด น้ำไหลเชี่ยวกระหน่ำ ก็พังชีวิตเขาไม่ได้

น้ำท่วม กทม. วันนี้ เราเตรียมเรื่องข้าวของ เสียส่วนใหญ่ แต่เมื่อพระเยซูเสด็จมา เราต้องเตรียมชีวิต ชีวิตนิรันดร์นั้นเรามีแล้วหรือยัง วันนี้เราเล่นกับบาปหรือไม่ เราละเลยการเข้าเฝ้าใกล้ชิดพระองค์หรือไม่ เราได้ดำเนินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่ เราเป็นดังหญิงพรหมจารีย์ที่มีสติปัญญา ตะเกียงแห่งความเชื่อของเราสว่างไสวหรือไม่ เราเป็นคนต้นเรือนที่ใช้ความสามารถที่พระเจ้าประทานให้เกิดกำไร เกิดประโยชน์กับคนอื่นหรือไม่ ถ้าพระองค์เสด็จมาวันนี้ วันนี้เป็นวันสิ้นยุค ท่านพร้อมแล้วหรือยังที่จะรับเสด็จ ไม่ใช่เพียงรับน้ำท่วมบ้านของท่านน่ะครับ แต่พร้อมพบกับพระองค์

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

Visitor 442

 อ่านบทความย้อนหลัง