ท่านคือ“บุคคลสำคัญของเรา”

 

 

 

 

ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์

 ท่านคือบุคคลสำคัญของเรา” 

             คือ  ถ้อยคำแห่งการต้อนรับประจำคริสตจักรของเรา 

          

            วันนี้ขอคุยเรื่อง  การต้อนรับ “คนใหม่ๆ”  มาสู่โบสถ์สักหน่อย

            ปกติ เรามีปฏิคม  เป็นผู้ต้อนรับขับสู้  พี่น้องที่มาโบสถ์ ซึ่งปฏิคมทั้งหลายในปัจจุบันทำหน้าที่ดีมากๆ น่ารัก  ยิ้มแย้ม  แจ่มใส  helpful  น่าชม วันไหน ผมเดินหิ้วกระเป๋าพะรุงพะรังจากอาคารแห่งความรัก (อาคารเก่า) มาอาคารใหม่(อาคารแห่งความเชื่อ) ก็จะมีพี่น้องปฏิคมวิ่งรี่เข้าไป ช่วยหิ้วกระเป๋า สะพายโน้ตบุ๊ก ทำให้ผมเดินตัวปลิวมาอย่างสบายใจเฉิบ ตัวอย่างที่ดีเช่นนี้ เป็นแบบให้เราทั้งคริสตจักร

 แวคเนอร์เรียกว่า “คริสเตียนใหม่” จะถือรักษาเรื่องนี้ด้วย ก็ยิ่งเป็นการดี ภาษิตไทยเขาว่า

 

           “เป็นธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ 

            ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ”

 

            การต้อนรับแขกนี่  ผมเคยได้ยินว่า นักท่องเที่ยวเขายกให้คนไทยเป็นหนึ่งของโลกเชียวนา.. เพราะคนไทยเป็นคนที่ไหว้สวย งดงาม อ่อนช้อย  และเรามี”ยิ้มสยาม” ลือลั่นไปทั่วโลก ใครไม่รู้ว่ายิ้มสยามเป็นยังไง ต้องมาดู ยิ้มของสาวสามัคคีธรรม ก็จะเห็นว่าผมไม่ได้โม้เกินจริง (ว่าเข้านั่น)

 

            เปโตร สอนเรื่องการต้อนรับแขกว่า  “ที่สำคัญยิ่งกว่าอะไรหมด ก็คือจงรักซึ่งกันและกันให้มาก เพราะความรักลบล้างความผิดมากมายได้  ท่านทั้งหลายจงต้อนรับเลี้ยงดูซึ่งกันและกันโดยไม่บ่น” (1 เปโตร 4:8-9)

 

            ผมนึกถึง แอร์ของสายการบิน ที่ต้อนรับผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คอยช่วยเหลือลูกค้าที่เดินเซ่อๆซ่าๆขึ้นเครื่อง หาที่นั่งไม่พบ ไม่รู้จะเอากระเป๋าสะพายไปเก็บที่ไหน เขาคงเอาหลักของเปโตรไปใช้คือ“รักทุกคน ไม่บ่นลูกค้า” วันก่อนผมไปห้างใหญ่  พอจ่ายเงินเสร็จ พนักงานขายยกมือขึ้นไหว้ระดับแนบอก หน้าก็ไม่มอง ผมสังเกตว่าเขาไหว้ลูกค้าทุกคนอย่างนี้ คงรีบด้วย ผมต้องชมว่า นี่คือ ฝีมือที่บริษัทเขาฝึกฝนมา คือ สอนให้เป็นมิตร (Be friendly)กับลูกค้า  ด้วยมารยาทอันงดงาม  แต่พระเยซูทรงทำมากกว่าการเป็นมิตร  พระองค์ทรงเป็นเพื่อน(Be friend) ของคนเก็บภาษีและคนบาป (มาระโก 2:16)  “การเป็นเพื่อน”(Be friend) อย่างพระเยซู  ต่างกับ“การเป็นมิตร”(Be friendly)  ก็ตรงที่

 

5 ก้อนกับปลา 2 ตัว จนพวกเขาได้กินจนอิ่มแล้ว  พระองค์ทรงรอส่งประชาชนกลับบ้าน  และลาพวกเขาด้วย  ( มาระโก 6:45-46 ) พระเยซูทรงทำงานต้อนรับแขก (Hospitality) ด้วยความห่วงใย

           

         “ใจรัก” มาก่อน  แล้ว“การต้อนรับขับสู้” ซึ่งเป็นการแสดงออก ก็ตามมาจากใจ อะไรที่ออกมาจากใจรักมันก็งดงามไปหมด เพราะเป็นความจริงใจ ผมจึงมองว่าคริสตจักรต้อนรับได้ดีกว่า     ห้างสรรพสินค้าอย่างแน่นอน 

        ลองนึกภาพดูซิ  เวลาที่สมาชิกทั้งหลายมีใจในการต้อนรับคนทั้งหลายเช่นนี้ ทั่วไปหมด คริสตจักรก็จะอบอวลไปด้วยความรักสักแค่ไหน จากใจเช่นนี้ผมจึงขอแนะนำเป็นคำกลอน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ  ดังนึครับ

 

เมื่อคนใหม่   ก้าวมาสู่    ประตูโบสถ์                    
ขอได้โปรด   เข้าไปหา เพื่อปราศรัย                                                                              
มีใบหน้า      ยิ้มแย้ม     ด้วยจริงใจ  
เชิญข้างใน    ผมยินดี    พบพี่จัง
 ยกมือไหว้     ก้มลง     ให้ดูสวย                                                                            
มีอะไร      ให้ช่วย”   ถามขึงขัง            
แม้คุณป้า     ขาเจ็บ      มิชิงชัง                                                                                    
พาไปนั่ง       ถึงที่      มีพี่เลี้ยง
คนนั่งข้าง    ยิ้มรับ     คำนับป้า                              
กระซิบว่า      ดีใจ”   ไม่ส่งเสียง                                                                            
เปิดพระคำ     ช่วยหา     ตามองเมียง                                                                                
เปิดหูเอียง     เคียงข้าง   ไม่ห่างไป
 ประชุมเลิก   ทายทัก     รู้จักป้า                                                                                             
คุณป้าครับ     คุณป้า     มาแต่ไหน                                                                               
ในโบสถ์นี้      คุณป้า     รู้จักใคร                                                                                            
แม้หาไม่     ขอให้    ผมนำพา
เชิญคุณป้า ไปนั่ง     โต๊ะอาหาร                                                                                  
บริการ     ข้าวน้ำ     ช่วยจัดหา                                                                           
แนะนำตัว    หัวหน้าโซน   สนทนา                                                                              
ช่วยคุณป้า    น่ารัก   ไม่หนักใจ
ตอนกินข้าว บอกเล่า คุณป้ารู้     
เมื่อคนใหม่   ก้าวมาสู่     ประตูโบสถ์                
ขอได้โปรด        เข้าไปหา    เพื่อปราศรัย                                                                               
มีใบหน้า     ยิ้มแย้ม     ด้วยจริงใจ  
เชิญข้างใน    ผมยินดี    พบพี่จัง
 ยกมือไหว้    ก้มลง    ให้ดูสวย                                                                            
มีอะไร      ให้ช่วย”   ถามขึงขัง            
แม้คุณป้า    ขาเจ็บ     มิชิงชัง                                                                                    
พาไปนั่ง     ถึงที่     มีพี่เลี้ยง
คนนั่งข้าง   ยิ้มรับ     คำนับป้า                              
กระซิบว่า     ดีใจ”     ไม่ส่งเสียง                                                                           
เปิดพระคำ     ช่วยหา     ตามองเมียง                                                                                 
เปิดหูเอียง     เคียงข้าง ไม่ห่างไป
 ประชุมเลิก   ทายทัก     รู้จักป้า                                                                                             
คุณป้าครับ     คุณป้า   มาแต่ไหน                                                                                
ในโบสถ์นี้    คุณป้า    รู้จักใคร                                                                                            
แม้หาไม่    ขอให้    ผมนำพา
เชิญคุณป้า ไปนั่ง     โต๊ะอาหาร                                                                                 
บริการ    ข้าวน้ำ    ช่วยจัดหา                                                                           
แนะนำตัว    หัวหน้าโซน   สนทนา                                                                              
ช่วยคุณป้า     น่ารัก   ไม่หนักใจ
ตอนกินข้าว บอกเล่า คุณป้ารู้                                                                                                                                           
อีกสักครู่      จะพา    ป้าไปไหน                                                                                             
ชวนร่วมเข้า    ประชุม   กลุ่มตามวัย                                                                                      
ช่วยคุณป้า     สุขใจ    ไม่เดียวดาย
 แนะนำป้า ให้หัวหน้า กลุ่มรู้จัก                                                                                                     
 ผูกสมัคร    รักสนิท    มิตรสหาย                                                                               
 คนในกลุ่ม    ต่างเข้า   มาทักทาย                                                                         
เพื่อนมากมาย   รายรอบ    ชื่นชอบใจ

     จะเห็นว่า นี่ไม่ใช่งานของปฏิคมเท่านั้น  แต่เป็นงานของทุกคน วิธีคิดง่ายๆ ก็คือ  ลองสมมุติว่าเราเป็นคุณป้า เข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่รู้จักใคร ทั้งเคอะทั้งเขิน เราคงต้องการใครสักคนที่ช่วยเราไม่ใช่หรือ เราคงอบอุ่นใจไม่น้อย  ถ้าพบว่า ทุกๆคนต่างเป็นมิตร เป็นกันเอง เหมือนบ้าน  ทุกๆการเมินเฉย ทุกๆใบหน้าถมึงทึง ทุกๆเสียงแข็งกร้าว ล้วนเป็นการไล่เขากลายๆ    ตรงกันข้าม ทุกๆยิ้ม ทุกๆแววตาของความเป็นมิตร ทุกๆการทายทัก แม้น้อยนิด ก็มีส่วนช่วยคนใหม่ทั้งสิ้น ทำให้เขาอ่านออกว่า ท่านรักเขา

คริสตจักรที่กรุงเยรูซาเล็ม  ในสมัยพระธรรมกิจการ สมาชิกยุคนั้นต่างร่วมสามัคคีธรรม ต้อนรับขับสู้กันด้วยความรัก หมอลูกาบรรยายว่า

 

           “เขาได้ร่วมใจกันไปในพระวิหาร ..ร่วมรับประทานอาหารด้วยความชื่นชมยินดี  และใจกว้างขวาง  ทุกวันเรื่อยไป  ทั้งได้สรรเสริญ   พระเจ้า และคนทั้งปวงก็ชอบใจ  ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดให้คนทั้งหลาย  ซึ่งกำลังจะรอดมาเข้ากับพวกสาวกทุกวันๆ” (กิจการ 2:46-47)  

 

 


 




 




 




 




 




 




 




 

 



Visitor 156

 อ่านบทความย้อนหลัง