มะเดื่อผลิใบ

 

ยิวกลับบ้าน

 

โดย  ศบ.

 

               ปัจจุบัน  เป็นที่ยอมรับกันว่าเราอยู่ในยุคสุดท้าย   คืออยู่ในเวลาใกล้การเสด็จกลับมาครั้งที่  2  ของพระเยซู  ก็เพราะว่ามีหมายสำคัญหลายอย่างบ่งบอก  เช่น  สงคราม  การกันดารอาหาร  แผ่นดินไหว  ผู้สอนเท็จ  และโรคระบาด  แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหมายสำคัญหลักชัดเจน  ยิ่งกว่าเรื่องใดก็คือ  “การที่ชาวยิวกลับบ้าน”

 

                ขอท้าวความย้อนหลังสักหน่อย

               คำพยากรณ์ เรื่องประเทศอิสราเอลจะกระจัดกระจายไปอยู่ยังประเทศต่างๆและจะกลับมาตั้งประเทศใหม่ในวันเดียวนี่มีมาตั้งแต่  ก่อนสมัยพระเยซู ถึง  700  ปี  

                “ใครเคยได้ยินสิ่งอย่างนี้บ้าง  ใครเคยได้เห็นสิ่งอย่างนี้บ้าง  แผ่นดินจะเกิดขึ้นในวันเดียวได้หรือ  ประชาชาติจะคลอดมาในครู่เดียวหรือ  เพราะพอศิโยนปวดครรภ์เธอก็คลอดบุตรทั้งหลายของเธอ

(อิสยาห์ 66:8)

               “เพราะเราได้ส่งเขาให้เขาถูกกวาดไปเป็นเชลยอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ  แล้วรวบรวมเขาเข้ามาในแผ่นดินของเขาทั้งหลาย  เราจะไม่ปล่อยให้สักคนหนึ่งในพวกเขาเหลืออยู่ท่ามกลางประชาชาติอีกเลย  (เอเสเคียล 39:28)

           สัปดาห์สุดท้ายก่อนไม้กางเขน ประมาณปี คศ. 33 พระเยซูได้ตรัสเรื่องยิวกลับบ้านว่า “จงเรียนคำเปรียบเรื่องต้นมะเดื่อ  เมื่อแตกกิ่งแตกใบ  ท่านก็รู้ว่า ฤดูร้อนใกล้จะถึงแล้ว  เช่นนั้นแหละ เมื่อท่านทั้งหลายเห็นบรรดาสิ่งเหล่านั้น  ก็ให้รู้ว่า พระองค์เสด็จมาใกล้ถึงประตูแล้ว” (มัทธิว 24:32-33)

 

          ทุกคนรู้ว่า ต้นมะเดื่อ  หมายถึงประเทศอิสราเอล

 

          เรื่องมันเป็นอย่างนี้  คือในปี คศ. 66  ยิวแข็งข้อต่อโรมที่ปกครองพวกเขาอยู่  โรมจึงยกกองทัพใหญ่มาปราบ ครั้งแรกโดย จักรพรรดิ เวสปาเซียน  ล้อมกรุงอยู่  5 ปี ในที่สุดกรุงแตกในปี คศ 70 โดย ทิตัส  แม่ทัพซึ่งเป็นโอรสของจักรพรรดิ  หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เขียนในหนังสือเรื่อง ยิว  ว่า “น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ  แต่ไฟก็ย่ำแย่ไปเหมือนกัน”

          จากนั้นยิวกระจัดกระจาย แบบคนบ้านแตกไปอยู่ทั่วทุกสาระทิศ ในโลก  ก็เป็นดังคำทำนายข้างต้น

 

         ทำไมเรื่องนี้เกิดขึ้น  

         คำตอบก็คือเพราะคนยิวดื้อพระเจ้า (เฉลยธรรมบัญญัติ 4:27)

 

ในปี 1922 มียิวในปาเลสไตน์แค่  83,790 คน (mideastweb.org) นอกนั้นไปอยู่ที่อเมริกา คานาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์  รัสเซีย เยอรมัน โปแลนด์ ฯลฯ ยิวไปอยู่ที่ไหน  ยิวยังเป็นยิวเสมอ  ส่วนใหญ่ชาวยิวแต่งงานกับชาวยิว ไม่แตกเผ่าพันธุ์

 

          กาลเวลาผ่านไปเกือบ 2000  ปี  ไม่มีวี่แววของการที่ยิวจะกลับบ้าน เป็นประเทศใหม่ขึ้นมาได้เลย คนอาหรับส่วนใหญ่ครอบครองพื้นที่  แม้สงครามครูเสดจะเกิดขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 11,12,13   แต่ในปี 1922  คนที่อยู่ปาเลสไตน์ หรือแผ่นศักดิ์สิทธิ์นี้  มีชาวอาหรับ ถึง 78 %       คริสเตียน 9.5%  อื่นๆ 1%  ชาวยิวเพียง 11% เท่านั้น 

 

           ยิวจะกลับมาตั้งประเทศใหม่ ตามคำทำนายได้อย่างไร

           พระเจ้าทรงเคยให้เอเสเคียลเห็นภาพ ประเทศอิสราเอล  ว่าเป็นเหมือนกระดูกแห้ง กระจายไปทั่วที่หุบเขาแห่งหนึ่ง ในเอเสเคียล 37     เอเสเคียลก็มองดูด้วยความหมดหวังว่า  โครงกระดูกเหล่านี้จะกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งได้อย่างไร  แต่สำหรับพระเจ้า  ไม่มีอะไรที่หมดหวัง    พระเจ้าทรงบัญชาให้เอเสเคียลเผยพระวจนะให้กระดูกเหล่านี้  ว่าจะมีชีวิต

อีก  แล้วก็มันก็เกิดขึ้น  โครงกระดูก ส่วนต่างๆมาต่อกันเข้า มีเอ็น มีเนื้อหนัง  และที่สุดก็มีชีวิต

 

            ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 

           กองทัพนาซีของเยอรมัน  ภายใต้คำบงการของฮิตเลอร์ ได้เข้ายึดครองหลายประเทศในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ โปแลนด์ ฮิทเลอร์ไม่ได้แค่ยึดประเทศเท่านั้น  แต่ฮิตเลอร์ ยังได้นำชาวยิวในประเทศเหล่านี้ ขนขึ้นรถไฟ ไปกักขังในค่ายกักกันหลายแห่ง  และฆ่ายิวเสียเป็นจำนวนมากถึงประมาณ 6 ล้านคน  ผมเคยไปโปแลนด์ ที่เมือง ออกสวิช มีค่ายกักกันของนาซีด้วย  ที่ค่ายนี้แห่งเดียว คนยิวถูกสังหารเสียประมาณ 3 ล้านคน  เห็นแล้วเศร้า กินข้าวไม่ลงเชียวแหละ

 

               สงครามโลกครั้งที่สองจบลงด้วย ฝ่ายเยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่นแพ้สงคราม ฝ่ายพันธมิตร ซึ่งมีอเมริกา อังกฤษ และรัสเซีย เป็นหลัก เรื่องมหกรรมการสังหารยิวถูกเปิดเผยออกมาหลังสงครามอย่างมาก 

              

               แต่ยิวก็ยังไม่มีประเทศอยู่ดี  

               พระสัญญาจะเป็นจริงได้อย่างไร

               เอเสเคียล 36:24  “เพราะว่าเราจะเอาเจ้าออกมาจาก ท่ามกลางประชาชาติ  และรวบรวมเจ้ามาจากทุกประเทศ  และนำเจ้ามายังแผ่นดินของเจ้าเอง”

               วันที่  29  พฤศจิกายน  1947  สหประชาชาติ  ได้ประกาศให้เกิดรัฐยิวอิสระขึ้น 

               วันที่ 14 เดือนพฤษภาคม  ปี 1948  เวลา 18:11 น. นายชาลี รอสส์  เลขาธิการของ ประธานาธิบดี แฮรี่ ทรูแมน ของสหรัฐอเมริกา  ได้ประกาศต่อหน้านักข่าวจำนวนมาก ว่า “รัฐบาลขอประกาศว่า บัดนี้ รัฐยิว (Jewish State ) ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นแล้ว  สหรัฐอเมริกาขอรับรองการจัดตั้ง  รัฐใหม่แห่งอิสราเอล” (Ibid,22)  เมื่อ  อิสอัค  เฮอร์ซอก  หัวหน้ารับบี  เข้าไปพบกับ ประธานาธิบดี ทรูแมน  ที่ทำเนียบขาว   ท่านกล่าวว่า “พระเจ้าทรงเรียกท่านมาจากครรภ์มารดา เพื่อให้ท่านเป็นเครื่องมือของพระองค์  ในการก่อกำเนิดประเทศอิสราเอล  หลังจากเวลาผ่านมานานถึง 2000 ปี”   ขณะที่ ประธานาธิบดีฟังด้วยน้ำตานองแก้ม                 

                                                     (McCullough,Truman,620)

 

               นี่คือมะเดื่อผลิใบ  หลังจากแห้งแล้งมา 2000 ปี  นี่คือกระดูกแห้งที่เริ่มเคลื่อนไหวเข้ามาประติดประต่อกัน จนกลายเป็นกองทัพใหญ่  อย่างเหลือเชื่อ

 

              ตอนประเทศอิสราเอลเกิดนี่  ผมอายุได้ 1 ขวบ 10 เดือน สงครามมหาเอเชียบูรพา เพิ่งจบไป  ผมยังเด็กเกินกว่าที่จะจำความได้  คุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่า พอท่านทราบเรื่องนี้จากวิทยุ ท่านตื่นเต้นมาก จึงไปหาคุณตา (หมอแจ้ง มิตรกูล) เล่าให้คุณตาฟังว่า คำทำนายที่รอคอยกันมาช้านานนั้นเริ่มเกิดขึ้นแล้ว  น่าสนใจมาก  เพราะพระเยซูตรัสว่า  “คนในชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปจนกว่าสิ่งทั้งปวงนั้นบังเกิดขึ้น”  (มัทธิว 24:34) 

              เอ,  จะหมายถึงคนรุ่นผม ที่เกิดทันมะเดื่อผลิใบ จะยังคงอยู่จนได้เห็นพระเยซูเสด็จมาครั้งที่ 2 หรือเปล่า น่าคิดนะครับ  แสดงว่า พระเยซูใกล้เสด็จแล้วสินะ เราต้องรีบรับใช้ ประกาศพระกิตติคุณ

 

              ในปี 1974  ผมเดินทางไปเที่ยวประเทศอิสราเอล 7 วัน เป็นทัวร์ที่จัดโดยโรงเรียนของวายแวม คืนแรกผมนอนเต้นพักใกล้  เมสซาดา  ริมทะเลตาย  คืนที่สองผมพักที่กาลิลี  แล้ว 5 วันสุดท้าย มานอนที่โบสถ์ ในเยรูซาเล็ม เมืองเก่า  ที่เรียกว่าเมืองเก่า  เพราะนอกกำแพงเมือง เป็น เยรูซาเล็มเมืองใหม่ เป็นเมืองใหญ่ทันสมัยที่โตขึ้นเรื่อยๆ  คนอิสราเอลภูมิใจมาก  เขาฉายหนังสงคราม 6 วันที่เขาเอาชนะ อียิปต์ จอร์แดน และซีเรียได้ใน 6 วัน ทั้งๆที่ กองกำลังของยิวน้อยกว่าอาหรับกว่า 10 เท่าตัว

              ตอนนั้นมะเดื่อเริ่มผลใบนาน  26  ปีแล้ว ประชากรยิว ขยับจากไม่ถึงแสนคนก่อนสงครามโลก เป็นประมาณเกือบ 3 ล้านคน เหลือเชื่อไหม 

 

             เรื่องนี้ยังไม่จบ แต่ข้อมูลคืบหน้าไปอย่างน่าตื่นเต้น

              ลองดูตารางนี้  ว่า  ณ  วันนี้  คนยิวอยู่ที่ไหนกันบ้าง

 

            (  ตารางต่อไปนี้ คัดมาจาก  Jewish People Policy Planning Institute, Annual Assessment  2007 )

 

 

 

ประเทศ

1970 (คน)

2007(คน)

 คาดว่า 2020(คน)

ชาวยิว ทั่วโลก

12,633,000

13,155,000

13,558,000

ที่อยู่ในอิสราเอล

2,582,000

5,393,000

6,228,000

ในสหรัฐอเมริกา

5,400,000

5,275,000

5,200,000

ที่ ฝรั่งเศส

530,000

   490,000

482,000

ที่ คานาดา

286,000

374,000

381,000

ที่ อังกฤษ

390,000

295,000

238,000

ที่ รัสเซีย           

808,000

225,000

   130,000

ที่ อาเจนตินา

282,000

184,000

162,000

ที่ เยอรมัน

  30,000

120,000

108,000

ข้อที่น่าสังเกต จากตารางนี้ก็คือ  คนยิวยังกลับบ้านไม่หมด  แต่การทยอยกลับไปอาศัยในปาเลสไตน์เกิดขึ้นเรื่อยๆ และค่อนข้างเร็ว จากวันที่ไปประเทศอิสราเอลใน ปี 1974 ถึงวันนี้  ประชากรยิวเพิ่มขึ้นใน 

ประเทศเท่าตัว  ในช่วงนั้น  ยิวที่อยู่นอกอิสราเอล ในสหรัฐอเมริกา ยังมีจำนวนมากกว่าคนยิวในปาเลสไตน์  แต่ 4-5 ปีมานี้ จำนวนคนยิวที่อยู่ในปาเลสไตน์  มีสูงกว่าทุกประเทศแล้ว  พูดได้ว่า จำนวนคนยิวที่อยู่ในประเทศของตนเองมีจำนวนมากที่สุด  เมื่อเทียบกับที่ไปอยู่ต่างแดน  จะถือว่ายิวกลับบ้าน ได้ครบถ้วนแล้วได้ไหม  เพราะคนไทยที่อยู่ในประเทศ ย่อมต้องมีมากที่สุด  ส่วนที่ไปอยู่ต่างแดนต้องมีน้อยกว่า จะไม่ให้ มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างแดนเลยแม้แต่คนเดียว ย่อมเป็นไปได้ยาก  ดังนั้น ในการแปล เอเสเคียล 39:28 ที่ว่า  “เราจะไม่ปล่อยให้สักคนหนึ่งในพวกเขาเหลืออยู่ท่ามกลางประชาชาติอีกเลย” จะเป็นการแปลที่เถรตรงเกินไปหรือเปล่า เพราะไม่มีประเทศใดในโลกที่ ไม่มีคนของตนอยู่ต่างแดนสักคนเดียว  แต่ทุกคนอยู่ในประเทศตนเอง 100%  คนยิวยังไม่หยุดทยอยกลับบ้าน ครับ กลับบ้านจน ณ วันนี้  มีประชากรในประเทศของตนเองสูงกว่าที่อื่นแล้วครับ และจะยิ่งเป็นอัตรส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ  

    

            นี่คือสิ่งบ่งบอกว่า  “พระเยซูเสด็จมาใกล้ประตูแล้ว” 

            ขอให้เราขยันประกาศพระกิตติคุณนะครับ

 

 






Visitor 345

 อ่านบทความย้อนหลัง