เชื่อฟัง หรือ ชั่วฟัง


ชายคนหนึ่งหมดเงินหมดทองที่อุตส่าห์สะสมมาตลอดชีวิต เพราะธุรกิจการค้า ที่ล่มจมจนต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เขาผิดหวังและท้อแท้มากจนคิดจะฆ่าตัวตาย วันหนึ่งเขาออกไปยืนที่ระเบียงหน้าต่างของโรงแรม พร้อมจะกระโดดลงไป ข้างล่างหมายจะปลิดชีพอันแสนระทมทุกข์เสียให้รู้แล้วรู้รอด !

"อย่าเพิ่งกระโดด" มีเสียงกระซิบแผ่วเบา แต่ดังก้องในโสตสัมผัสของเขาจน สะดุ้งสุดตัว "ทำไมเล่า ?" เขาย้อนถาม แม้จะไม่รู้ว่าเขากำลังพูดกับใคร ? "จงไปxxx้เงินมา 10,000 บาทมาซื้อถั่วเหลือง" เขาจึงปฎิบัติตามคำแนะนำ นั้น ในวันรุ่งขึ้นหลังจากซื้อ ราคาถั่วเหลืองพุ่งพรวดพราดถึง 5 เท่าตัว

ในคืนนั้นเอง เสียงกระซิบยังดังที่หูซ้ายว่า "ทุ่มเงินทั้งหมดซื้อถั่วเหลือง" เหตุการณ์เป็นดังนี้ติดต่อกันอย่างต่อเนื่องนานนับสปัดาห์ จนกระทั่งทรัพย์สิน ของเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านบาท และในเวลานั้นเองก็มีเสียงเตือนขึ้นอย่างหนักแน่นว่า "จงขายถั่วเหลืองทั้งหมดวันนี้ และจงหยุดเสียที เราช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้เอง" แต่ชายผู้โลภมากไม่สามารถทนต่อความเย้ายวนได้ เขาคงยังเก็บถั่วเหลืองไว้ โดยไม่ยอมขายเพราะความเสียดาย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าราคาถั่วเหลือง ก็ตกฮวบฮาบ เขากลับสู่สภาพสิ้นเนื้อประดาตัวเหมือนเดิม อนิจจา !

เขาก้าวออกไปยืนบนระเบียงของโรงแรมอีกครั้ง ทำท่าพร้อมจะกระโดดลง ไป พลางเงยหน้าร้องถามขึ้นอีกครั้งว่า "ผมควรจะทำอย่างไรต่อไป" ทันใดนั้นมีเสียงกระซิบอย่างอ่อนระอาว่า "...โดดลงไปเลย"

"ถึงแม้พระองค์ทรงเป็นพระบุตร พระองค์ก็ทรงเรียนรู้ที่จะนบนอบ ยอม เชื่อฟัง โดยความทุกข์ลำบากที่พระองค์ได้ทรงทน"(ฮีบรู 5:8)

แฮรี่ แพรี่ ลิดดอน กล่าวไว้ว่า "ชีวิตที่เสียสละ ไม่ใช่ชีวิตที่สูญเสีย แต่ชีวิตที่ล้มเหลวในการ เชื่อฟัง พระสุรเสียงของพระเจ้า คือ ชีวิต ที่สูญเสียทุกๆสิ่ง"

ที่มา: ข้อเขียน ควรคิด อจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์


Visitor 82

 อ่านบทความย้อนหลัง