ปวดหัวตัวร้อน คืออาการเตือนภัย
Pain and Fever
โดย ศิษยาภิบาล
ปวดหัวตัวร้อน คืออาการเตือนภัย
เวลาที่เราไม่สบาย ปวดหัว มีไข้ เราไม่ชอบ ถ้าเราหาทางลดปวดลดไข้ได้ เราก็จะรีบทำทันที แต่การปวดและมีไข้นั้นเป็นสิ่งไม่ดีจริงหรือ? ถ้าเราไม่ปวด ไม่เจ็บ ไม่มีไข้เลย จะเป็นการดีกับเราใช่ไหม? หญิงชาวแคนาดา คนหนึ่ง ชื่อ ลูซี อายุ 28 ปี ตอนที่สัมภาษณ์เธอ เธอเกิดมาโดยที่เธอไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย เหมือนบางคนเกิดมาตาบอด บางคนเกิดมาหูหนวก ลูซี เกิดมา ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด หลายคนอาจอิจฉา ลูซี แต่ท่านทราบไหม ลูซี มีแผล มีรอยแผลเป็นทั่วตัว เพราะเธอไม่มีอะไรมาช่วยเตือนเธอเวลาร่างกายของเธอพบอันตราย เธอเข้าโรงพยาบาลบ่อย เพราะโรคที่ร่างกายเธอมิได้ตอบสนอง ซึ่งถ้าเป็นเรา เราก็จะหลีกเลี่ยงอันตรายเสีย เหมือนเครื่องเตือนภัยในอาคาร หากไฟไหม้ มีควันคลุ้ง สัญญาณเตือนภัยก็จะส่งเสียงดังสนั่นไปทั่วอาคาร จนแสบแก้วหู น่ารำคาญ ทำให้เรานอนไม่หลับ แต่สัญญาณนั้นดีกับคนที่พักในตึกมิใช่หรือ เขาจะได้ลุกขึ้นมาดับไฟ
พระเจ้าสร้างคนเรามาพร้อมกับ ความสามารถในการรับรู้อันตราย ให้เราเจ็บเราปวด ไข้ขึ้น เป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้เรารีบแก้ไข ปกติ เมื่อเราหกล้มลงบาดเจ็บ ร่างกายจะส่ง “สัญญาณ” ออกอาการ เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ไปยังผิวหนัง ลำไส้ สมอง ปอด กล้ามเนื้อมากขึ้น หัวใจของเราก็จะเต้นแรงขึ้น ความดันโลหิตจะสูงขึ้น เป็นการเตรียมปะทะกับความเจ็บปวด ตับจะหลั่งน้ำตาลที่เก็บตุนไว้ออกมา ส่งไปยังกล้ามเนื้อ ถ้าเราบาดเจ็บบริเวณใกล้ๆสมอง น้ำตาน้ำมูกก็จะไหล เพื่อจะชะล้าง ขจัดสารแปลกปลอมที่เข้ามา เลือดจะเปลี่ยนแปลงด้านเคมี ตกสะเก็ดบริเวณบาดแผล ทำให้เลือดหยุดไหลอย่างรวดเร็ว ถ้าความเจ็บปวดเกิดจาก การกินอาหารพิษเข้าไป ร่างกายก็จะป้องกันอันตราย โดย ความดันโลหิตจะตกลง เราจะคลื่นไส้อาเจียน ทำให้เราอยากพักนอน ซึ่งเลือดจะไหลเวียนดีขึ้น ช่วยเราให้ฟื้นไข้
การมีไข้ก็เช่นเดียวกัน ปกติร่างกายของคนเรา มีอุณหภูมิประมาณ 98.6 องศาฟาเรนไฮท์ อาจสูงต่ำกว่านี้เล็กน้อย ระหว่าง 97.2 ถึง 99.5 องศาฟาเรนไฮท์ ซึ่งถือว่า ร่างกายยังเป็นปกติ ถ้าไข้ขึ้นสูงกว่านี้ เราจะรู้สึกไม่สบาย ผู้ชายที่มีไข้ต่อเนื่อง ลูกอัณฑะอาจไม่ผลิตอสุจิออกมา ถ้าไข้ขึ้นสูงถึง 109 องศาฟาเรนไฮท์ ก็จะเสี่ยงกับอันตราย เพราะ เนื้อเยื่อของสมองอาจถูกทำลาย ถ้าไม่รีบจัดการทำให้ไข้ลดลง เช่น โดยการเช็ดตัวด้วยผ้าเย็น หรือกินยาลดไข้ แต่ถ้าเราไม่ได้ทำอะไร ร่างกายก็จะช่วยตนเองโดยให้คนไข้ เป็นลม ไม่รู้สึกตัว (Coma) เขาจะฟุบตัวนอนลง เหงื่อออกมาก เลือดใต้ผิวหนังจะไหลเวียน ทำให้ไข้ลดลง ฟื้นกลับมาสู่สภาพปกติ
การเจ็บปวดมีไข้ ไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการ ที่มีคุณค่ากับร่างกาย ช่วยเปิดเผยให้เรารู้ความผิดปกติ ไฮโปเครตีส กล่าวว่า “ส่งเด็กมีไข้มาให้ผม แล้วผมจะรักษาเขา” อย่ารักษาแค่ แก้อาการ แต่เราต้องรักษาสาเหตุ บำบัดต้นตอให้หาย แล้วความเจ็บปวด และอาการไข้ขึ้นสูงนั้นก็จะหายไปด้วย
จิตสำนึกที่ฟ้องร้อง คือสัญญาณเตือนภัย
ฝ่ายวิญญาณก็เช่นเดียวกัน พระเยซูตรัสว่า “บุคคลผู้ใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นก็เป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา” ( มัทธิว 5:3) อีกครั้งหนึ่งพระองค์ตรัสว่า “คนเจ็บต้องการหมอ แต่คนสบายไม่ต้องการ เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนที่เห็นว่าตัวชอบธรรม แต่มาเรียกคนที่พวกท่านเรียกว่านอกรีต” (มาระโก 2:17)
เวลาเราทำผิด เราได้ยินเสียงฟ้องร้องในจิตใจ จิตวินิจฉัยที่พระเจ้าประทานให้ เป็นดั่งปรอทวัดไข้ จะส่งสัญญาณ เป็นอาการ บอกว่า “เราทำไม่ถูก เราทำไม่ถูก” เราต้องรีบแก้ไข โดยการกลับใจ สารภาพผิด เลิกบาปที่เรารู้ อย่าละเลยเพิกเฉย อย่ารอให้ “โคม่า” อย่าแก้ไขแค่อาการ โดยที่สาเหตุยังอยู่
เวลาเราห่างเหินพระองค์ ไม่อธิษฐาน ไม่อ่านพระคัมภีร์ ไม่นมัสการ ขาดความสัมพันธ์กับพระองค์ เราจะสัมผัสความแห้งแล้งในจิตใจ ใจที่เหือดแห้ง ว้าเหว่ คือสัญญาณเตือนเรา ให้เรารีบก่อแท่นบูชาของเราขึ้นมาใหม่
เวลาเราเข้าไปในสถานที่ที่ไม่ควรไป คาราโอเกะ ไนต์คลับ บาร์ สถานอาบอบนวด ความรู้สึกอึดอัด ฟ้องร้อง ไม่สบายใจ คือเสียงสัญญาณที่พระวิญญาณสำแดงให้เราทราบว่าพระองค์ทรงเสียพระทัย
เวลาเราตั้งวงเสวนา พูดจาหยาบคาย พูดเรื่องไร้สาระ ตลกโปกฮา เรารู้สึก โหวงเหวงในจิตใจ เหมือนเรือลอยล่องไปตามกระแส ไร้หลักยึด นี่คือเสียงเตือนใจให้เราเลิก และออกมามาจากวงเสวนา
เวลาเราอยู่ในวงเหล้า วงไพ่ จิตสำนึกสะกิดให้เรา ทราบว่า นี่ไม่ใช่ที่ที่ เราควรอยู่ สถานที่ที่เราควรไป เราจะรู้สึกเหมือนไข้ฝ่ายวิญญาณมันขึ้น อุณหภูมิฝ่ายวิญญาณกำลังบอกเราว่า เราต้องรีบออกมาจากวง ก่อนที่อันตรายจะมาถึง
เวลาที่เรากลับไปทำบาป ที่พระเจ้าเคยช่วยให้เราเลิกราออกมา เราจะพบว่าความชื่นชมยินดีมันสูญหายไป พระวิญญาณจะทำงานคู่กับจิตวินิจฉัยผิดชอบ ให้เรารีบสารภาพ และกลับใจใหม่ ก่อนที่มันจะสายเกินแก้
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
|
