ทำไมเราจึงควรมาโบสถ์ที่สร้างความเชื่อ

 

Dr. Schuller เล่าเรื่อง Dr. Lacy Hall

 

        ดร. ลาซี ฮอลล์   ทำงานที่ สโตน เบรนเดล เซนเตอร์ที่ชิคาโก  อิลินอย    ท่านเล่าให้ฟังว่า  สามปีที่แล้วท่านทำงานกับอาสาสมัครจำนวนมาก  ท่านจึงขอให้พวกเขาช่วยเขียนบันทึกประจำวัน  ให้เขียนทุกสิ่งที่ เป็นความคิดเข้ามาสู่สมอง เพราะท่านเชื่อว่า  คนเราเป็นอย่างไร  ก็ให้ดูที่นี่  คือดูที่ความคิด  ใจ  และอารมณ์   ท่านต้องการจะค้นให้พบว่า   ในแต่ละวัน  คนเราคิดไปในทางบวก  หรือในทางลบ 

ทุกคนได้รับคำสั่งให้จดบันทึก  ทุกเรื่องที่เข้ามาสู่สมองของเรา  ในแต่ละวัน เป็นเวลาปีครึ่ง  สมุดบันทึกประจำวันเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้า  ถ้าเขาดูทีวี  เขาจะต้องเขียนว่าเขาดูเรื่องอะไร  ไม่ว่าเป็นเรื่องมีสาระหรือ ท็อกโชว์  เขาจะต้องบันทึก  ถ้าเขาทำงาน เขาจะต้องเขียนว่าดี หรือไม่ดี  ถ้าเขาฟังวิทยุ หรืออ่านหนังสือพิมพ์ เยี่ยมเยียนครอบครัว  หรือเพื่อนฝูง ไปงานเลี้ยง  หรือไปโบสถ์  พวกเขาจะต้องจดบันทึกทั้งหมด หลังจากเวลาผ่านพ้นไปปีครึ่ง  ดร.ฮอลล์ เอาข้อมูลทั้งหมดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อทำการวิเคราะห์ ที่สถาบันของท่าน  ท่านพบว่า 90 % ของข้อมูลที่มาสู่ความคิดของคนเหล่านี้  เป็นข้อมูลในแง่ลบ  มีเพียง 10 % เท่านั้นเป็นข้อมูลในแง่บวก  มีคนจำนวนน้อยมากที่ได้รับความคิดในทางดี  ในทางสร้างสรรค์  และคนเหล่านี้มักเป็นคนที่มีความมั่นคงในครอบครัว  ในที่ทำงาน ที่บ้าน  และไปโบสถ์ที่เทศนา ในเรื่องการเสริมสร้างความเชื่อ  แต่ข้อสรุปโดยรวมของ ดร. ฮออล์ มีคน 75% ที่รับข้อมูลในแง่ลบ

 

        ท่านสรุปว่า  เรารู้ไหมว่า  ทำไมคนเราจึงรู้สึกตกต่ำ  อยากเลิกงาน  อยากยอมแพ้  หรือทำไมคนเราจึงขาดแรงกระตุ้น  หรือจิตวิญญาณภายใน  ท่านลงความเห็นว่า  เพราะเราฟัง หรือรับข้อมูลแต่เรื่องร้ายๆเข้ามาเสมอ  นี่เป็นเหตุผลที่บอกเราว่า  ทำไมเราจึงควรไปโบสถ์ที่เสริมสร้างความเชื่อ  และทำไมเราจึงควรอ่านหนังสือพลังประจำวัน

       คัดมาจาก  Robert Schuller’s Life Changers ,Why you need Positive Church. P 67-69    

        “ในที่สุดจงใคร่ครวญ  ถึงสิ่งที่จริง  สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม  สิ่งที่บริสุทธิ์  สิ่งที่น่ารักสิ่งที่ทรงคุณ  ถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ  สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ  ก็ขอจงใคร่ควรดู”

                                                    ( ฟิลิปปี 4:8)






Visitor 72

 อ่านบทความย้อนหลัง