ผลจากการประกาศ คือกลุ่มเซลล์

ศ.บ

 

ผลจากงานประกาศ คือ การปั้นสาวกใน กลุ่มเซลล์ แม้ว่าเราจะง่วนอยู่กับการประกาศ การเตรียมงานเพื่อการประชุมใหญ่ ในวาระที่เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการอภิบาลศิษย์ ผมอยากพูดถึงกลุ่มเซลล์ ที่พี่น้องหัวหน้าเซลล์ ผู้ช่วย และเจ้าบ้านจำนวนหนึ่งกำลังทำงานอยู่อย่างแข็งขัน ตามบ้านเรือนในกรุงเทพฯ ให้เราเห็นว่า การอภิบาลศิษย์โดยอาศัยกลุ่มเซลล์นั้นมีความจำเป็นแค่ไหน โดยเฉพาะ มีความจำเป็นแค่ไหนกับ การติดตามผลหลังการประกาศ

 

1.การเลี้ยงดูคริสตสมาชิกของคริสตจักร โดยแบ่งแยกกันดูแลเป็นสิ่งจำเป็น ที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะศิษยาภิบาล หรือกลุ่มผู้เลี้ยงเพียงบางคน ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ยิ่งคริสตจักรมีสมาชิกจำนวนมาก มีการนำคนใหม่เข้ามา การฝากงานเลี้ยงดูลูกแกะจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้

2.การสร้างสาวก จำเป็นต้องอาศัยเวลา และความใกล้ชิด เหมือนพระเยซูสร้างสาวก 12 คน ศบ.คนเดียวดูแลใกล้ชิดคนทั้งคริสตจักรไม่ได้

3. การฝึกฝนผู้เชื่อให้สร้างสาวกเป็นพื้นฐานการขยายคริสตจักร เพราะเมื่อมีคนใหม่ ๆ เข้ามา ก็ต้องขยายการเลี้ยงดูเอาในใส่ กลุ่มเซลล์ควรโตขึ้น และแบ่งขยายออกเป็นหลายเซลล์ เมื่อมีผู้เชื่อมากขึ้น .

4.คนใหม่แต่ละคนต้องมีพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณ ซึ่งเป็นบุคคลที่ เต็มใจใช้เวลาสอน และปั้นชีวิตของเขา ซึ่งกลุ่มเซลล์ เป็นที่เหมาะสมที่สุด ผู้เชื่อจากการประกาศ จะถูกปล่อยให้เขาเติบโตไปเอง ในห้องประชุมใหญ่ไม่ได้ เขาต้องได้เข้ากลุ่ม และกลุ่มเซลล์ เหมือนอย่างพระเยซูสร้างสาวก

 

5. เราที่ออกไปประกาศ สามารถ สร้างสาวกโดย อธิษฐาน และเลือกสรรสาวก โดยใช้หลักของพระเยซู เลือกคนที่มีศรัทธาในตัวของเรา คนที่ยอมฟัง คนที่สอนได้ และ เป็นคนที่พร้อมสร้างสาวกต่อไป สาวกทวีเพราะทุกคนคิดสร้างสาวก ตระกูลของเราเติบโตเพราะทุกครอบครัวอยากมีลูกมีหลาน ดูแลคนใหม่ โดย (ก) สอนสิ่งที่เราเรียนรู้ จากชั้นสาวก จากพระวจนะ อาจารย์เปาโลกล่าวกับทิโมธีว่า “จงสอบคำสอนเหล่านั้น ซึ่งท่านได้ยินจาก ต่อหน้าพยานหลายคน ไว้กันที่สัตย์ซื่อ ที่สามารถสอนคนอื่นได้ด้วย” (2 ทิโมธี 2:2)

(ข) นอกจากนั้น ปั้นโดยการให้เขาเรียนจากชีวิตจริง พระเยซูสร้างสาวกเช่นนี้ สาวกอยู่กับพระองค์ ฟังพระองค์สอน ตอบโต้คนที่มาจับผิด ทรงให้เขาเห็นพระองค์เลี้ยงคน รักษาคนเจ็บ ช่วยคน (มาระโก 3:14)

(ค) ให้คำปรึกษากับเขา บ่อยครั้ง ลูกแกะพบปัญหา ช่วงเวลาที่มีปัญหามักเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เขาจะเรียนรู้ สาวกเรียนจากพระเยซูในยามที่พวกเขาอยู่ในพายุ ไม่มีอาหารให้ฝูงชนที่มาฟังรับประทาน ขาดเงินเสียภาษีพระวิหาร ฯลฯ

(ง) ทำงานร่วมกัน ในการออกไปรับใช้ สาวกไม่เพียงแต่เรียนรู้จากพระเยซูเท่านั้น แต่พวกเขาเรียนจากกันและกันด้วย พี่เรียนจากน้อง น้องเรียนจากพี่ เปาโลสอนทิโมธี “ต่อหน้าพยานหลายคน” พระเยซูทรงมีสาวก 12 คน .ให้เขาออกไปสร้างสาวก นี่ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องรอคอย เราสามารถเรียนและถ่ายทอดพร้อม ๆ กัน ตรงกันข้ามการเรียนรู้ที่ดี คือการเรียนรู้ของคนที่เป็นครูสอน เมื่อเราคิดที่จะให้ เราจะตั้งใจในการรับ “พระเยซูทรงตั้งศิษย์ 12 คน ไว้ให้อยู่กับพระองค์ เพื่อใช้เขาไปประกาศ” (มาระโก 3:14) วัตถุประสงค์ของการเป็นสาวกก็เพื่อสร้างสาวก

(3) เสาะหาสาวกตามพระมหาบัญชา มีคำถามว่าเราจะหาสาวกมาจากที่ไหน ทุกๆ อาทิตย์ปลายเดือนเราพากันออกไปประกาศ วันนี้ เราออกไปประกาศที่คลองจั่น พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้สาวกของพระองค์ออกไปสู่โลกกว้าง และสอนคนที่ศรัทธาให้เป็นสาวก (มัทธิว 28:19-20) “เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไป สั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของเรา” หลายคนบอกว่า ตนไม่ทราบจะหาสาวกมาจากไหน พระเยซูมิได้ให้เรามองหาเพียงคนใกล้ตัว แต่ให้มองไปสู่โลกกว้าง ผมเสนอแนะให้ เราเริ่มต้นโดยการอธิษฐาน และขอการทรงนำ ให้เราพบคนที่เป็นสาวก คือคนที่ยอมให้สอน เมื่อไปประกาศครั้งแรก เปาโล ท่านพามาระโกไปเป็นลูกที่ท่านจะปั้น แต่พอไปได้ครึ่งทาง มาระโกก็ผละท่านกลับบ้าน เปาโล คงผิดหวัง แต่ท่านก็มิได้ย่อท้อ มิได้สรุปลงไปว่า ท่านจะปั้นคน หรือสร้างสาวกไม่ได้อีกต่อไป พอท่านเดินทางไปประกาศ เป็นมิชชั่นนารีครั้งที่ 2 ท่านเลือกทิโมธี ที่ท่านหมายตาไว้จากเมืองลุทรา ท่านพาทิโมธี เด็กหนุ่มคนนี้เดินทางไปกับท่านด้วย ทิโมธีเป็นสาวก ที่ท่านเลือก และปั้นได้ ในการออกไปประกาศ พระเจ้าจะนำให้เราพบทิโมธี ผู้ออกไปประกาศจะต้องอธิษฐาน และขอตาฝ่ายวิญญาณ เพื่อเราจะมองเห็น ทิโมธี จาก ทุ่งนาการประกาศ ถ้ายังไม่พบ ก็อย่าไปเลิก หาจนพบ พระเจ้าจะประทานให้ เมื่อเราเสาะหาน้องฝ่ายวิญญาณ เพื่อจะปั้น สอน และสร้าง

ผลจากการประกาศ

ต้องตามด้วยการเลี้ยงดูสร้างสาวก และกลุ่มเซลล์เป็นที่ที่ดีที่สุด




Visitor 78

 อ่านบทความย้อนหลัง