ทรงเป็นส่วนของเรา

You are my portion.

ศ.บ

 

เรากับพระเจ้าเป็นของกันและกัน 

      พระคัมภีร์ มีทั้งที่  “เราเป็นส่วนของพระเจ้า   และ พระเจ้าทรงเป็นส่วนของเรา”

      คำว่า “ส่วน”  ภาษาอังกฤษใช้คำว่า portion ซึ่งปกติแล้วจะใช้กับอะไร ที่เป็นเพียงจำนวนหนึ่ง ของจำนวนเต็ม เช่น 2/5  (สองในห้า) ก็หมายถึง มี 2 ส่วน จากจำนวนทั้งหมด 5 ส่วน    

       ผมสนใจคำ คำนี้  He is my portion.  ซึ่งปกติ  เราไม่ค่อยใช้กันในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าไทยหรือฝรั่งแต่พระคัมภีร์ใช้ He is my Portion . อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า คือ เราพึ่งพระเจ้า  และพระเจ้าก็พึ่งเรา  เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า

รูปปั้น พระเยซูไม่มีพระหัตถ์ เพราะหักไปตอนสงคราม มีผู้เขียนใต้รูปนี้ว่า พระเยซูไม่มีพระหัตถ์  ต้องการท่านเป็นมือให้พระองค์ ในโลกนี้

     1. เราเป็นส่วนของพระเจ้า (We are His portion.)    

     “เพราะว่าส่วนของพระเจ้า  คือประชากรของพระองค์” (ฉธบ 32:9)

      แปลว่า พระเจ้าทรงขาดเราไม่ได้ ปีนี้ผมสอนพระธรรมเอเฟซัสในชั้นสาวก ได้ชี้ให้พี่น้องเห็นว่า พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักร และคริสตจักรเป็นพระกายของพระคริสต์  ซึ่งแปลว่า  พระคริสตจักรจะทำอะไรในโลกนี้  พระองค์ต้องพึ่งพาอาศัยคริสตจักร  ผู้เชื่อเป็นมือเป็นแขนของพระองค์  พระองค์ทรงรักเรา หาสิ่งใดมาเปรียบเทียบมิได้   ทรงพลีพระชนม์ชีพเพื่อเรา ทรงไถ่เรา  เหมือนโฮเชยาไปไถ่ นางโกเมอร์ กลับมา  เราเป็นของพระองค์ ความผูกพันที่ทรงมอบให้เรานั้นหวานชื่น   พระองค์ทรงมีความสุขกับเรา  เหมือนสามีมีต่อภรรยาของตน   สามีขาดภรรยาของตนไม่ได้ฉันใด  พระองค์ขาดคริสตจักรไม่ได้ฉันนั้น   แล้วงานของพระองค์ก็พึ่งพาอาศัยผู้เชื่อทั้งหลายด้วย  เมื่อพระเจ้าจะนำใครมาเชื่อพระองค์  พระองค์มิได้ใช้ทูตสวรรค์  หรือ เสด็จมานำคนมาเชื่อโดยพระองค์เองอย่างเบ็ดเสร็จ   แต่พระองค์ ทรงอาศัยผู้เชื่อช่วยออกไปประกาศ  นำวิญญาณ  เทศน์  สอน  สำแดงความรักแก่คนทั้งหลาย   

 

   2. พระเจ้าทรงเป็นส่วนของเรา (He is my Portion.) 

     “เนื้อหนังและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป  แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจของข้าพระองค์ และเป็นส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์”

(สดุดี 73:26)       

       ทำนองเดียวกัน เราขาดพระองค์ไม่ได้ 

       เวลาพูดว่า  พระองค์เป็นส่วนของเรา  มิได้หมายความว่า  เราไม่ต้องทำอะไร ตรงกันข้าม เราต้องทำโน่น ทำนี่ ทำนั่น แต่ทำสุดกำลังแค่ไหน อย่างไร  เราก็ทำให้เป็นจำนวนเต็มไม่ได้ ที่ขาดไปนั้น เราต้องพึ่งพระองค์ และพระองค์คือผู้เติมเต็มจนครบ  ผู้เขียนสดุดี จึงได้กล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นส่วนของข้าพเจ้า(My Portion) เป็นนิตย์”

   1)  ส่วนที่เราได้รับจากพระเจ้านี้ เกินปัญญา ความสามารถของเรา

       เมื่อคราวกรุงเยรูซาเล็มแตก ในปี กคศ 586  กษัตริย์เนบูคัดเนสซา  กวาดต้อนชาวยิวไปเป็นเชลย  พาพวกเขาไปยังกรุงบาบิโลน ใจคนยิวเศร้าหมอง หมดหวังท้อแท้  วัง และที่กำบังทั้งหลาย ถูกไฟเผา ทลายลง พังพินาศ (พคค 2:2-5)  เยเรมีย์ครวญว่า “จิตวิญญาณของข้าพเจ้าขาดความสงบสุข  จนลืมความสำราญว่าเป็นอะไร ..ศักดิ์ศรีของข้าพเจ้าสูญไปแล้ว และความหวังในพระเจ้าก็ดับหมด” (พคค3:17-18) ความรุ่งเรืองคือ อดีตที่ผ่านไปแล้ว ครับ วันนี้สุดปัญญาจะกู้คืน เหมือนคนยืนอยู่หน้าบ้านที่ถูกไฟไหม้วายวอด เหลือแต่ตอ  แต่เยเรมีย์ ยังปรารภว่า  “พระเจ้าทรงเป็นส่วนของข้าพเจ้า (my Portion)  เหตุฉะนี้ข้าพเจ้าจะหวังใจในพระองค์” (พคค 3:24)   ที่เหลือจากวันนี้ไป  เป็นส่วนของพระองค์เท่านั้น       

        อาทิตย์ที่ผ่านมา มน.เชษฐ์ชัยเทศนาเรื่อง ความหวังใจในพระเจ้า  สกิดใจผมเรื่อง อับราฮาม อายุ 90 ปี  ส่วนซาราย อายุ 80 ปี  สิ้นหวังที่จะมีลูก  นี่เรียกว่าสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง เพราะทั้งสองแก่หง่อม ทั้งนางซารายเป็นหมันด้วย  ถ้าเป็นเครื่องยนต์ก็ดับสนิทแล้ว  ส่วนที่เหลือ ที่เธอจะมีบุตรได้ตามพระสัญญานั้น ก็อยู่ที่พระเจ้าล้วนๆ แหละครับ  แล้วพระองค์ก็ทรงทำส่วนของพระองค์ (His portion)  นางซารายคลอดอิสอัคเมื่อเธออายุ 90 ปี  ส่วนอับราฮามอายุปาเข้าไป 100 ปี  ซารายคงจะว่า “เนื้อหนังมังสาของข้าพระองค์หมดสิ้นไปแล้ว แต่พระเจ้าทรงเป็นพระกำลัง และเป็นส่วนที่เหลือ ของข้าพเจ้า” (สดด 73:26)

      ผมนึกถึง อาคารศรัทธวิหาร ราคา 30 ล้าน ในคราวที่เรามีเงินในบัญชีอยู่แค่แสนเดียว  ผมนึกถึงงานพันธกิจ เมื่อเราเริ่มงานที่กบินทร์บุรี เราไม่มีทั้งเงิน คน และประสบการณ์ใดๆ   มองไปไม่เห็น เดินไปไม่เป็น  พระเจ้าเท่านั้นทำส่วนของพระองค์  

 

        2)  มีพระองค์  เราก็มีทุกสิ่ง

       สดุดี 142:5 กล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็น..ส่วนของข้าพระองค์ ในแผ่นดินของคนเป็น”   พระวจนะสำหรับคนยุคปัจจุบัน  ใช้คำว่า “ทรงเป็นทุกสิ่ง ของชีวิตนี้”  พูดง่ายๆ  คือเราขาดพระองค์ไม่ได้ 

        ธนาคารหลายแห่ง พยายามโฆษณาว่า  ถ้าท่านจะไปไหน ๆ ขึ้นเหนือล่องใต้ ท่องเมืองไทย หรือไปเมืองนอก  พกบัตรวีซ่า ของเขาใบเดียว  เหมือนมี สตังค์ตุงกระเป๋า ไม่อดตาย วันนี้ สมาร์ทโฟน พยายามทำให้คนขาดเขาไม่ได้เช่นกัน   มีมือถือเครื่องเดียว  เหมือนมีมัคคุเทศนำทาง มีโทรศัพท์  บุรุษไปรษณีย์  มีเครื่องคิดเลข ปฏิทิน สมุดบันทึก  สมุดวาดเขียน ที่ปรึกษา ทีวี  วิทยุ  ตู้เกมส์   ตู้เพลง  เครื่องวัดชีพจร  กล้องถ่ายรูป เครื่องบันทึกเทป ไฟฉาย ห้องสมุดเคลื่อนที่  ยังแถมมีเพื่อนคุย อีกต่างหาก  ทำเอาคนยุคปัจจุบันหลงไหล  ไปไหนๆ  ลืมพกสมาร์ทโฟนติดตัวไปไม่ได้ แต่ถึงกระนั้น  มือถือก็แทนคนที่อยู่เคียงข้าง  และความต้องการอื่นๆไม่ได้ อีกเยอะแยะ

     แต่เมื่อดาวิดกล่าวถึงพระเจ้าว่า “พระองค์ทรงเป็น..ส่วนของข้าพระองค์” ดาวิดหมายความว่า  พระเจ้าทรงเป็นทุกอย่างจริงๆ เมื่อซาอูลตามล่าดาวิด ดาวิดไม่ทราบว่าจะหลบซ่อนที่ไหน  พระเจ้าทรงปกป้องดูแล เป็นโล่ห์ ป้อม ที่ลี้ภัยให้  เมื่อดาวิดอดอยาก พระเจ้าทรงจัดเตรียมอาหาร  เมื่อขาดเรี่ยวแรง  พระเจ้าคือผู้ชูกำลัง  เมื่อจนแต้ม  พระเจ้าต่อแต้ม  เมื่อขว้างสลิงพิชิตยักษ์  พระเจ้านำวิถีก้อนหินสู่เป้าราวกับมีแสงเรเซอร์นำทาง  เมื่อขาดรี้พล  ทรงส่งคนมาร่วมรบ  ดาวิดแต่งบทเพลง  เล่นดนตรี  โดยมีพระเจ้าเป็นนักประพันธ์   ดาวิดปกครองประเทศ  โดยมีพระเจ้าเป็นผู้นำ ฯลฯ

 

    3) เราควรร่วมส่วนกับผู้ที่เชื่อ

       เปาโลกล่าวว่า “อย่าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ...พระคริสต์กับเบลีอัลจะลงรอยกันอย่างไรได้  หรือคนที่เชื่อจะมีส่วนอะไรกับคนที่ไม่เชื่อ” ( 2 โครินธ์ 6:15) เราเอาข้อนี้มาสอนหนุ่มสาวเรื่องการเลือกคู่ครอง  ว่าเมื่อแต่งงานให้เลือกคนที่มีความเชื่อ  เพราะเมื่อแต่งงานแล้ว ในครอบครัว  สามีภรรยาร่วมส่วนกัน  เหมือนพระคริสต์ร่วมส่วนกับคริสตจักร  สามีภรรยาหลายคู่  มักบอกว่า  คู่ของเขาเป็นเหมือนพ่อ เหมือนลูก เหมือนพี่ เหมือนน้อง เหมือนเพื่อน เจ้านาย และคนรับใช้  ครับ ในครอบครัว สามีภรรยา เป็นส่วนของกันและกัน พึ่งพากัน ขาดกันไม่ได้ เหมือน พระคริสต์กับผู้เชื่อ

     4) ทรงรับส่วนของพระองค์ยิ่งกว่าเรา

        เปาโลบอกให้เรา ร่วมส่วนกับพระคริสต์ เหมือนการเทียมแอกร่วมกัน  ผมนึกถึง วัวสองตัวเทียมเกวียน หรือลากคันไถ ไม่มีใครกินแรงใคร แต่ท่านเชื่อไหม  เมื่อเราร่วมส่วนกับพระเจ้า  เป็นความหวานชื่น และพระเจ้าไม่เคยเอาเปรียบ  แต่ทรงช่วยเรา  ช่วยสิ่งที่เราขาดเสมอเราพึ่งพระเจ้ามากกว่าพระเจ้าพึ่งเราเป็นไหนๆ  ลองพินิจย้อนหลังแล้วเราจะพบว่า  แค่เราซึ่งเป็นหุ้นส่วน ลงมือทำไปแค่  1 หรือ 2 ส่วน ที่เหลือพระเจ้าทรงต่อ ยอดจนครบ 10 อย่างอัศจรรย์  จริงไหม

         ขอพระเจ้าอวยพรครับ





Visitor 456

 อ่านบทความย้อนหลัง