ซูปเปอร์ฮีโร่ ตัวจริง

จาก  http://www.jeremiahproject.com

สอนลูกสู้สงครามฝ่ายวิญญาณ 

“สุดท้ายนี้ ขอท่านจงมีกำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้าและในฤทธิ์เดชอันมหันต์ของพระองค์ จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายและเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้”

(เอเฟซัส6:10-11)            

              แบรนดอน และ เสียน  ชอบ  ซูเปอร์แมน  แบดแมน  สี่พลังคนกายสิทธิ์  และอื่นๆอีกเยอะแยะ  ในห้องของทั้งสองเต็มไปด้วยรูปภาพ  ตัวตุ๊กตา  หุ่น  หนังสือของฮีโร่เหล่านี้  ที่น่าทึ่งมากยิ่งกว่านั้นคือ ทั้งสองจำชื่อเสียงเรียงนาม และเรื่องราวต่างๆของพระเอกเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี  จำได้แม้แต่รายละเอียดของเรื่องต่างๆ ทั้งหมด 

             “ลูกลองเล่า เรื่องโปรด ที่ลูกชอบมากๆ เกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้ให้แม่ฟังหน่อย”  คุณแม่พูดกับลูกหลังจาก  ได้อธิษฐานอ่านพระคัมภีร์ให้ลูกฟัง 

             “ครับ”  เสียนเริ่มพูดขึ้นก่อน  “พวกเขามักเอาชนะคนชั่วได้เสมอ  แม้แต่ปีศาจร้าย  และคนชั่วที่พยายามทำร้าย คนไร้เดียงสา  ซูเปอร์ฮีโร่ เหล่านี้ ก็มักใช้พลังเหนือมนุษย์  ขจัดพวกมันออกไปได้”  

เขาพูดต่อ “เขาถลุงมันซะจนมันกระเด็นเคว้งคว้างขึ้นไปบนอากาศ  และตกลงมากองกับพื้น” 

            “ผมชอบซูเปอร์ฮีโร่  ที่พวกเขากล้าหาญ  เด็ดเดี่ยว  และมักรู้ดีว่าจะต้องทำอะไร”  แบรนดอน พูดเสริม  พร้อมทั้งเงยหน้าขึ้นมองดูฟ้า  ราวกับซูเปอร์ฮีโร่ ของเขากำลังมายืนจังก้าอยู่ข้างหน้า

             “เอาละ  แม่จะเล่าเรื่อง ซูเปอร์ฮีโร่  ตัวจริงที่ลูกควรรู้จัก  เราเรียกเขาว่า “ซูเปอร์พ่อ” ยังไงล่ะ” คุณแม่เสนอ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

             ลูกชายสองคน หัวเราะก๊ากออกมาพร้อมกัน  พวกเขาคิดว่า  พ่อคือคนที่นั่งทำงานอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์  เป็นคนเงียบๆเรียบๆ  ที่ผมกำลังหลุดร่วงลงมากขึ้นทุกวัน   “ พ่อ ไม่ใช่ ซูเปอร์ฮีโร่”  ทั้งสองพูดพร้อมกัน

             “เอาล่ะ แม่จะเล่าให้ฟัง หลังจากลูกคลอดมาใหม่ๆ  คุณพ่อและแม่  ต้อนรับพระเยซู  และเดี๋ยวนี้พระเยซูทรงประทับอยู่ในใจของเรา  นี่คือสิ่งที่ลูกไม่เคยรู้ใช่ไหม”   แม่กล่าว  ขณะที่ลูกทั้งสองพยักหน้ายอมรับ 

            “เอาละ  มารไม่อยากให้แม่คลอดลูกที่น่ารัก อย่างพวกเธอ  ที่เติบโตขึ้น ได้รับการเลี้ยงดู เพื่อจะได้รับใช้พระองค์  วันหนึ่งคุณพ่อตื่นตัวขึ้น   ด้วยสายตาอันแหลมคมฝ่ายวิญญาณ   ท่านตัดสินใจโยกย้ายออกมาจากสิ่งแวดล้อมชั่วช้า ที่ดึงดูดให้ทำผิด  ปิดกั้นไม่ให้พระประสงค์สำเร็จในชีวิตของลูก  ท่านประกาศสงครามกับมารซาตาน  ที่พยายามชักนำให้ลูกเลวลง            

          โดยที่ท่านสวมใส่ยุทธภัณฑ์ของพระเยซู ท่านใช้พระวจนะคำเป็นพระแสงดาบ  ทับทรวงความดีเป็นเสื้อเกราะ ห้องนั่งเล่นในบ้านของเราคือสนามรบระหว่างซาตาน  และผู้รับใช้    พ่อของลูก โจมตีมันโดยอาศัย “พระนามพระเยซู”  มันพยายามโจมตีโดยแอบมาข้างหลัง  แต่มันก็ถูกขับไล่ไสส่งออกไป  อย่างเดียวกับการที่พระเยซูต่อสู้กับมัน 

       “คุณแม่ฮะ  ผมกลัวเจอมารพวกนี้จังเลย”  เสียน พูดเสียงสั่น  “คิดว่า คุณพ่อต้องกล้าหาญ ไม่น้อย ที่ต้องสู้กับหมู่มารเหล่านี้”  

            “นั่นซิ   พ่อต้องได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์  จะได้มีความกล้าหาญของพระเจ้า  มาต่อสู้กับมัน” 

      คุณแม่พูดต่อ  “คุณพ่อแทงมันทะลุด้วยดาบแห่งพระคำ  พิชิตมันในสงคราม  เมื่อใดความชั่วช้าเลวทราม พยายามทะลวงเข้ามาโจมตีครอบครัวของเรา  ท่านจะใช้อาวุธลับ  คือ การสรรเสริญ  กวัดแกว่งพระแสงดาบในอากาศ  ร้องเพลงพระเจ้า  จนมันกลัวลาน  หนีกระเจิดกระเจิงไป  แสงไฟพระวิญญาณ เหมือนในพระธรรมกิจการ  พุ่งปร๊าดออกไปจากดาบของพ่อ  เมื่อท่านตวัดปลายนิ้วมือเท่านั้น   ในที่สุด พ่อซูเปอร์ฮีโร่  ก็มายืนประจันหน้ากับ “เทพผู้ครอง” คือมารตัวพ่อ“มารร้ายรึ  คุณพ่อสู้มันยังไงละครับ ? “ แบรนดอนซัก  จินตนา การไม่ออกว่าพ่อจะสู้กับมันได้ยังไง

       “เอาละ  เพราะคุณพ่อของลูก  เขาไม่เพียงแต่กล้าหาญเทานั้น  เขายังเข้มแข็งด้วย  และประกอบด้วยเดชพระวิญญาณ  ทั้งยังรู้ว่าท่านรับใช้ใคร  และพระองค์จะสนับสนุนท่านเสมอ  ท่านประกาศก้องว่า  “ในพระนามพระเยซู  ทุกเข่าจะคุกราบลง”

       “เมื่อพ่อท่านถอยฉากออกมาอธิษฐาน และสวม “หมวกแห่งความรอด   ทันใดนั้น  พระเยซูผู้ประทับยืนอยู่ข้างหลัง  ก็ก้าวออกมาข้างหน้า  ทรงขับไล่มัน แล้วมันก็กระเจิงออกไปจากบ้านของเรา ไกลสุดกู่  พระองค์ทรงล้อมรั้ว แห่งสันติไว้รอบตัวเรา  ทำให้พ่อกับแม่สามารถเลี้ยงลูกให้โตขึ้นเป็นนักรบของพระองค์  อย่างเดียวกับพ่อ”  พอแม่เล่าจบ  ทั้งเสียนแล แบรนดอน  หัวเราะกิ๊กกั๊ก 

     “เป็นอันว่า คุณได้เล่าเรื่องการทำศึกกับมารซาตาน ให้ลูกฟังแล้วซิ”  คุณพ่อถาม  ขณะเดินผ่านมา  ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็น ภรรยาคุยกับพวกลูกๆ  "คุณพ่อครับ  ผมอยากเป็นซูเปอร์ฮีโร่ อย่างคุณพ่อครับ”  เสียน กระโดดขึ้นมา พร้อมกับกอดคอพ่อ                                         

                                                                                                                                           “ลูกต้อง ศึกษาพระคัมภีร์  อธิษฐาน และบทเรียนรวีฯ ที่โบสถ์  แล้วพระเยซูจะช่วยลูกให้พิชิตสงครามกับมารร้ายได้  เหมือนพ่อ” คุณพ่อหอมแก้มลูกทั้งสองแล้วบอกให้ลูกไปนอน ลูกทั้งสองมองดูพ่อ ผู้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ของเขาเดินจากไป ในสายตาของลูกทั้งสอง  พ่อคือพ่อธรรมดาๆคนหนึ่งแต่เวลาท่านเดินไป  พวกเขาอดคิดว่าเขาเห็นลำแสงพุ่งปราดออกจากปลายนิ้วของท่านไปพิชิตมาร