รับใช้พระเจ้าไม่คิดถึงตัวเอง          

(กิจการ. 7: 51 - 54, 58 – 60)

มน. กมล ซาทู

 

หลังพระเยซูถูกตรึง และ เสด็จสู่สวรรค์ ผู้เชื่อพระเยซูถูกข่มเหงอย่างมาก กลับมีคนกลับใจเชื่อทวีมากยิ่งขึ้น คนกลับใจกันทีละ  3 พัน คน  ทีละ 5 พัน คน ขณะเดียวกันการข่มเหงก็ทวียิ่งขึ้น   ผู้เชื่อในพระเยซูก็ถูกจับมาขัง   จับมาตี   อัครทูตก็ถูกจับมาขัง และ เฆี่ยนตี   และถูกห้ามประกาศพระนามพระเยซู คนจำนวนมากก็หนีไปเมืองอื่น  ๆ   แต่อัครทูตไม่กลัว ได้ปักหลักอยู่ในเยรูซาเล็ม มีพระวิญญาณประทับอยู่ มีทูตสวรรค์ของพระเจ้าปล่อยออกจากคุก การอัศจรรย์ต่าง ๆ ก็มากยิ่งขึ้น     คนก็เชื่อพระเจ้ามากยิ่งขึ้น พวกปุโรหิต ฟาริสี  ก็อิจฉาและ โกรธเคืองอย่างมาก แต่อัครทูตนั้นได้ประกาศพระนามพระเยซูไม่หยุด ยิ่งทำมากยิ่งขึ้น    คนยิ่งทวีมากขึ้น    กระทั่งว่าต้องตั้งคนทำงานอื่นแทน  เพื่อจะได้ประกาศพระนามพระเยซูได้มากยิ่งขึ้นไปอีก 

สเทเฟ่นก็ได้รับเลือกตั้งให้ทำหน้าที่แทนด้วย และ ประกอบด้วยพระวิญญาณ ได้ประกาศพระนามพระเยซู ได้พูดเรื่องพระเยซูเป็นพระเจ้าไม่หยุดเช่นกัน จนถูกจับมาสอบสวน   สิ่งที่สเทเฟ่นได้สู้คดีนั้น   คือการประกาศว่าพระเยซูที่ถูกตรึงตายนั้น เป็นพระเจ้า และ ได้ชี้ให้เห็นความบาปผิดของพวกคนเหล่านั้น ชี้ให้เห็นถึงผู้ที่ยึดถือพระบัญญัติ   แต่ไม่ประพฤติตาม  พระบัญญัติ  หรือ ประพฤติไม่ได้   มีคนจำนวนมาก  บาดใจ โกรธ  ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน และ ฆ่าสเทเฟ่นเสียแต่ก็มีปุโรหิต ฟาริสีอีกหลายคน   ที่ได้ยินสเทเฟ่นกล่าวสิ่งเหล่านั้น และ สะท้อนชีวิตของตัวเองออกมา ตระหนักได้ว่า เรื่องที่สเทเฟ่นกล่าวนั้นเป็นความจริง ที่พวกเขาเองประสบอยู่ การยืนหยัดยอมตายของสเทเฟ่น เป็นการสะกดจิตใจคนบางคน ให้ฉุกคิดขึ้นได้ และ ตรึกตรองเรื่องทั้งหมดในชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา ได้เข้าใจ ได้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย มีปุโรหิต และ ฟาริสีจำนวนมาก  กลับใจเชื่อพระเยซู และคนเหล่านั้นที่เชื่อในพระเยซู ก็จะได้รับการสำแดงความจริง  ให้เขาได้เห็น จากองค์พระเยซูคริสต์ เพื่อเขาจะติดตามพระเยซูตลอดชีวิตของเขา  ไม่ลดละและ ทวีเข้มข้นยิ่งขึ้น บรรดาผู้เชื่อก็ยิ่งมีกำลังเข้มแข็งทวีการประกาศยิ่งขึ้น

 

บทเรียนจากการตายของสเทเฟ่นนี้ไม่ขอชี้ไปที่ การข่มเหงหรือ การต่อต้านพระเจ้าจากการประกาศ แต่ขอชี้ไปที่การรับใช้พระเจ้า ในชีวิตประจำวันของเรา ด้วยการไม่คิดถึงตัวเอง ไม่ได้ชี้ถึงการยอมตาย  แต่ชี้ไปที่การนำทุกสิ่งในชีวิตของเราถวายแด่พระเยซู  ไม่ว่าอายุจะมากหรือ จะน้อยคนสูงอายุก็เชื่อพระเจ้าด้วยใจศรัทธา คนอายุน้อยก็เชื่อฟังพระเจ้า ไม่ว่าฐานะจะร่ำรวยหรือ ยากจน  ต่างก็ปรนนิบัติพระเจ้าตามจริง ไม่ว่าความรู้จะสูงหรือไร้การศึกษา ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงหรือต่ำต้อย  แต่มีสติปัญญาจากพระเจ้าไปทางเดียวกัน ไม่ว่าอดีตจะเป็นคนมีธรรมะหรือเป็นคนชั่ว ต่างก็ตระหนักในพระคุณพระเจ้า ประกาศพระนามพระเยซูด้วยความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคนตามความจริง   ที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่ละคน โดยไม่คิดถึงตัวเองเลยเหมือนสเทเฟ่น ไม่กลัวแม้กระทั่งความตาย เป็นเหตุให้คนเหล่านั้น  ที่ได้ยินได้เห็นได้ฟัง  ได้สัมผัส   ได้ตระหนักถึงพระเยซูที่อยู่ในเรา การมาหาพระเยซูด้วยใจตระหนัก เป็นเหตุให้เขาพบพระเยซู   และเมื่อคนเหล่านั้นได้พบพระเยซูด้วยตัวเขาเอง แล้วเขาจะรู้ความจริงทุกประการ ที่พระเจ้าจะทรงสำแดงให้เขา กระจ่างในชีวิตของเขา  แล้วเขาจะติดตามพระเจ้าตลอดชีวิตของเขา  ผู้ร่วมรับใช้พระเจ้าด้วยกันก็มีกำลัง ทวีมากยิ่งขึ้น

ขอพระเจ้าอวยพร








Visitor 128

 อ่านบทความย้อนหลัง