จะยกโทษได้อย่างไร

 

ศ.บ

         ในเดือนแห่งความเมตตา  ผมขอพูดเรื่อง  การยกโทษ 

          การยกโทษคนผิด  เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องยากมากที่สุดเรื่องหนึ่งสำหรับเราทุกคน  โดยเฉพาะการยกโทษคนที่เคยทำให้เราเจ็บปวด  ผมเป็นศิษยาภิบาล เวลาคนมาเล่าเรื่องของเขาด้วยน้ำตา  ผมไม่อาจเมินคำฟ้องของคนเจ็บ  หรือดูหมิ่นว่าบาดแผลของเขาเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย   คนที่เคยถูกฉีกหน้า  ถูกเยาะเย้ย  ถูกแทงข้างหลัง  ถูกกระชากคนรัก  ทำร้ายลูกสาวเขา  ตีลูกชายเขา  หรือโกงเขาจนสิ้นเนื้อประดาตัว  คนที่มาเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ฟังเขาเจ็บจริงๆ  บาดแผลของเขาเหวอะหวะ  เมื่อคิดถึงทีไร เรายังโกรธ  และยากแก้แค้นเขาเสียด้วยซ้ำ 

          แต่พระเยซูทรงสอนว่า  หากเขาที่เคยทำผิดต่อเรา  กลับใจ  ขอให้เรายกโทษ  ลางคนผิดซ้ำผิดซาก ผิดจนเราคิดว่าเขากลับใจจริงหรือเปล่า  พระเยซูตรัสว่า  เมื่อเขากลับใจแล้ว  มาขอโทษเรา จงอภัยให้เขา  ไม่ใช่เพียง  7 ครั้งเท่านั้น  แต่ 7 คูณด้วย 70  แปลว่าให้เรายกโทษ และไม่จดจำความผิดของเขาด้วย  ถามว่ายากไหม   คำตอบคือ “ยากมาก”  ด้วยความสามารถของเราแล้ว เราทำไม่ได้   แต่โดยกำลังของพระเจ้า  เราทำได้  คือสำนึกถึงพระคุณที่พระเจ้าทรงยกโทษความผิดเราที่มกางเขน  

 

         เมื่อปี 1974  เรามีค่ายอบรมของวายแวม ที่อัมสเตอร์ดัม   ก่อนพวกเราจะออกไปฝึกงาน  คอรี เทน บูม  สตรีชาวฮอแลนด์ ผู้ซ่อนชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง  ท่านมากล่าวในค่ายอบรมครั้งนั้น คอรี เทน บูม ท่านให้สัมภาษณ์เมื่อตอนที่ท่านและน้องสาวของท่านถูกจับกักกันอยู่ในค่ายนรกนาซี และน้องสาวของท่านถูกทำร้าย จนเสียชีวิตที่นั่น หลังสงคราม  ท่านได้พบทหารนาซีคนนั้นที่ทำลายน้องสาวของท่านในที่ประชุม  เขากลับใจมาเชื่อพระเยซู  และท่านต้องยกโทษทหารนาซีคนนั้น ท่านบรรยายว่า พระเจ้าเท่านั้นช่วยให้ท่านยกโทษได้ นี่คือคำบรรยายของท่าน ไม้กางเขน สำแดงให้รู้ว่า เราสามารถร่วมส่วนในการทนทุกข์ได้ นี่เป็นแผนการณ์ของพระเจ้าในโลก  เมื่อตอนที่ดิฉันอยู่ในค่ายกักกัน  สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ดิฉันต้องฝ่าฟันคือ การที่เราต้องเปลื้องเสื้อผ้า และยืนเปลือยกายทั้งตัว ข้าพเจ้าพูดกับน้องบสาวว่า “เบ็ตตี้  พี่ทนเรื่องนี้ไม่ได้” แล้วทันใดนั้น ดิฉันแลเห็นภาพของพระเยซูที่ถูกเปลื้องเสื้อผ้าที่ไม้กางเขน พระคัมภีร์กล่าวว่า  เขาถอดฉลองพระองค์ออก เปลือยกาย  ดิฉันรู้ว่า พระองค์ถูกตรึงในสภาพเช่นนี้ เพื่อความบาปผิดของดิฉัน สำหรับฉัน ดิฉันพบความทุกข์เพียงเศษเสี้ยวของพระองค์  พระองค์ยอมเช่นนี้เพื่อดิฉัน  ความรักของพระองค์ประหลาดเหลือ  หลายคนไม่กล้ามองดูไม้กางเขน  ไม้กางเขนเลวร้ายเหลือเกิน  แต่ท่านต้องกล้ามองดูไม้กางเขน  เพราะไม้กางเขน พระเยซูทรงทุกข์ทรมานเพื่อชำระบาปของท่าน   “เมื่อฉันดูกางเขน ฉันจึงเห็นกระจ่าง  เดี๋ยวนี้ ข้าจึงมีความสุขสบาย”  ต่อมาที่เบอร์ลิน  ดิฉันพบชายคนหนึ่ง  เขาพูดว่า  “คุณบูม ผมดีใจที่ได้พบคุณ”  พอดิฉันเห็นเขา ดิฉันจำได้  เขาคือทหารในค่ายกักกันที่โหดร้ายที่สุดคนหนึ่ง  เขาแนะนำตัวว่า  “บัดนี้ผมเป็นคริสเตียนแล้ว  ผมรู้จักพระเยซู     ผมอ่านพระคัมภีร์  ผมมารู้จักพระเยซูผู้ทรงอภัยบาปทั้งสิ้นของโลก  พระองค์ทรงอภัยบาปผมด้วย  พระองค์ทรงยกโทษความเลวร้ายทั้งสิ้นที่ผมได้ทำ  โดยพระคุณของพระเจ้า  ผมอยากจะขอการอภัย จากใครสักคนหนึ่ง  ที่เป็นเหยื่อของความเลวร้ายนั้น   คุณบูม คุณยกโทษผมได้ไหม”  ดิฉันไม่สามารถค่ะ

 

     ดิฉันยังจำน้องสาวของดิฉันที่ทุกข์ทรมาน จนถึงตายได้ดี  เมื่อดิฉันมองดูภาพนั้น  ดิฉันยกโทษไม่ได้  ทันใดนั้น  ดิฉันรู้ว่า ตัวดิฉันเองก็ไม่ได้รับการยกโทษเช่นเดียวกัน ท่านทราบไหมว่า พระเยซูตรัสว่าอย่างไร “หากท่านไม่ยอมยกโทษให้พี่น้องของท่าน  พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ก็จะไม่ยกโทษให้ท่านเหมือนกัน” (มัทธิว 6:15) ดิฉันรู้ว่า พระเยซูก็จะไม่ทรงยกโทษความผิดของดิฉัน  แต่ฉันทำไม่ได้  ฉันเกลียดเขา  แล้วพระคำของพระเจ้าก็เข้ามาในความคิดของดิฉัน 

 

“เพราะว่าความรักของพระเจ้า  ได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา    โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงประทานให้แก่เราแล้ว” ( โรม 5:5) ดิฉันกราบทูลพระเยซูว่า “ขอบคุณพระองค์  ที่พระองค์ได้ทรงประทานพระคำข้อนี้แก่ดิฉัน  ขอบคุณพระองค์  ความรักของพระบิดายิ่งใหญ่กว่าความเกลียดชัง  และความขมขื่นของดิฉัน”  ในวินาทีนั้นดิฉันได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ  ดิฉันจับมือของเขา ดิฉันสัมผัสว่าความรักของพระเจ้าหลั่งไหลผ่านแขนของดิฉัน  ซึ่งท่านอาจไม่เคยสัมผัส กระแสแห่งความรักของพระเจ้า ได้ทะลักผ่านจิตใจของเรา เมื่อเรายกโทษคนที่เป็นศัตรูของเรา  ท่านจะยกโทษได้ไหม?  ไม่ได้ใช่ไหม?  “ค่ะ ดิฉันก็ไม่สามารถยกโทษได้เช่นเดียวกัน  แต่พระเจ้าทรงสามารถ”  

 

           คอรี่ เทน บูม  เคยเป็นช่างซ่อมนาฬิกา  เธอและครอบครัวช่วยให้ที่พักพิง หลบซ่อนชาวยิวจำนวนมาก  จากทหารนาซี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง  เธอจากไปอยู่กับพระเจ้า  ที่เมืองพลาเซนเตีย ในรัฐคาลิฟลอเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่  15 เมษายน  ปี 1983 เธอมีอายุ 91 ปี  ผมยกเรื่องของท่านมาเล่าให้ฟัง  เพื่อชี้ให้เห็นว่า  ผู้เชื่อสามารถอภัยความผิด  คนที่ทำร้ายเราได้โดยความรักของพระเยซู 

ก่อนจบ ผมากคำกลอนไว้ดังนี้

            พระคริสต์ยกโทษให้                ตัวเรา

    โทษหนักเท่าภูเขา                           อภัยสิ้น

    พระองค์มิทรงเอา                             ความผิด

    ทรงทิ้งบาปทุกชิ้น                             ดิ่งห้วงสมุทรหาย

            หากพี่น้องผิดพลั้ง                    มากมาย

    ทำเราเจ็บใจกาย                              ปวดร้าว

    เกิดสำนึกละอาย                              ขอโทษ

     อย่าขมขื่นแข็งกร้าว                         โกรธขึ้งตรึงใจ

          จะยกโทษพี่น้อง                        อย่างไร

    ความผิดเกินอภัย                             ยากแท้

    เห็นบาดแผลคราใด                          กำหมัด

    หมดสิทธิ์คิดทางแก้                          พ่ายแพ้แย่จัง

          ทันใดระลึกได้                           ความหลัง

    นึกถึงตอนโทษยัง                            ท่วมท้น

    ความผิดเกินถูกขัง                            ตลอดชีพ

     พระคริสต์ทรงอภัยพ้น                       โทษสิ้นกรรมเวร





Visitor 269

 อ่านบทความย้อนหลัง