จากฟ้าสู่ดิน

 

ศ บ.

              เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสตเจ้าของเราแล้วว่า แม้พระองค์มั่งคั่ง พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมี เนื่องจากความยากจนของพระองค์  (2 โครินธ์ 8:9)

          ก่อนพูดเรื่องพระคุณของพระเยซู  ผมจะขอท้าวความ เรื่องราวในอดีต ที่เคยเป็นมาเสียก่อน  ทั้งหมดนี้ที่จะกล่าวถึง  มาจากพระคัมภีร์ทั้งสิ้น 

      แรกเริ่มเดิมที  พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์สองคนแรก  ให้อยู่ในสวนเอเด็น  ให้มนุษย์ปกครองสรรพสัตว์ทั้งหลาย อยู่ในสวนที่มีผลหมากรากไม้  ไม้ดอกในธรรมชาติสวยงาม น่ารื่นรมย์  มนุษย์ถูกสร้างให้เหมือนพระเจ้า  คือมีจิตวิญญาณภายใน ทรงสร้างเรา “เป็นบุคคล” ว่างั้นเถอะ   ไม่เหมือนสัตว์  มีความสามารถคิดได้ คิดริเริ่มได้ รู้เหตุรู้ผลได้  รู้ดีรู้ชัวได้  มีอารมณ์สะท้อนความคิดได้  คิดแล้วยิ้มได้ โกรธได้ เศร้าหมองได้ ที่สำคัญ เราสามารถเลือกได้อย่างอิสระ  เราสามารถพูดคุย สนทนากับพระเจ้า พระผู้สร้างได้  มนุษย์เป็นคนดี  เชื่อฟังและอยู่ในสวนเอเด็น อย่างมีความสุข การเชื่อฟัง มีศีลธรรมทำให้เรามีความสุข  แต่น่าเศร้าใจ ที่เราเลือกดื้อดึง ขัดขืนพระเจ้า     

      อาดัมอาวา  เป็นสองคนแรกที่ดื้อดึง    ขัดขืนกฏศีลธรรมของพระเจ้า ตามคำล่อลวงของมาร  แทนที่จะเชื่อฟังพระเจ้า  ทั้งสองเชื่อฟังมาร (ปฐมกาล 3:1-7) น่าเศร้าแท้  พระเจ้าทรงโทมนัสเสียพระทัย  บาปของมนุษย์คู่แรก มิได้ถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานทางกรรม พันธุ์  พระเจ้าเที่ยงธรรม บาปใครบาปมัน โทษใครโทษมัน ( เอเสเคียล 18: โรม 2:6-11) คนใดหว่านพืช คนนั้นเกี่ยวผล (กาลาเทีย 6:7)  แต่ที่น่าเศร้าคือ เราพากันทำผิดตามตัวอย่างไม่ดีของอาดัม (โรม 5:12) แล้วผลพวงก็ตามเรามาเป็นทิวแถว  ยิ่งทำให้พระเจ้าโทมนัสยิ่ง  พระเจ้าได้ตักเตือนมนุษย์ทั้งหลายตลอดมา  แต่น้อยคนฟังพระองค์

 

       ความทุกข์ยากลำบาก  อันเป็นผลพวงของการดื้อดึง  เป็นสิ่งที่พระเจ้ายอมให้เกิด  เหมือนพระคำของพระเจ้าที่ว่า  ใครหว่านพืชอะไรก็เก็บเกี่ยวผลอย่างนั้น  ค่าจ้างของความบาป คือความตาย (โรม 6:23) คนไทยเราว่า “ทำดี ย่อมได้ดี  ทำชั่วย่อมได้ชั่ว” ทังนี้เพื่อช่วยให้มนุษย์สำนึกผิด  กลับใจใหม่ หันมาเชื่อฟังพระเจ้า  จะได้มีสัมพันธภาพที่ดีดังเดิม  และเราจะได้มีความสุข ความยินดี และพระพร

       ปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่ง  คือ โทษของบาปที่เราทำไปแล้วนั้นจะถูกยกได้อย่างไร  คนเรามีหนี้บาปที่ต้องชำระ   แล้วเราจะหลุดพ้นได้อย่างไร

       ในที่สุด ด้วยความรัก และพระคุณอันใหญ่หลวง  พระเจ้าทรงส่ง  พระเยซู พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก  พระคัมภีร์กล่าวว่า “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์” (ยน 3:16)  มาเพื่อไถ่โทษความบาปผิดที่เราต้องชำระ 

 

       พระเยซูทรงเลือกเสียสละความสุขสบายในสวรรค์  ทรงละสภาพของพระเจ้า เข้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์ (ฟิลิปปี 2:6-7)  เดินดินกินข้าวแกงอย่างเราๆท่านๆ  เติบโตขึ้นอย่างสามัญชน  พระองค์ตรัสว่า “หมาจิ้งจอกยังมีโพรง และนกในอากาศยังมีรัง  แต่บุตรมนุษย์ไม่มีที่ที่จะวางศีรษะ”  (ลูกา 10:58) เปาโลกล่าวว่า “เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสตเจ้าของเราแล้วว่า แม้พระองค์มั่งคั่ง พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมี เนื่องจากความยากจนของพระองค์” (2 โครินธ์ 8:9) 

                         ละสรวงสวรรค์        ทะงันสง่า

                      วิจิตรทิพา                วิเศษตระการ

                      อุทิศสละ                  ศุภะวิมาน

                      เสด็จวิกรานต์            ลุภพสถุล

          

                        พระทัย ประเสริฐ      ประเจิดจรัส

                     มิหวงสวัสดิ์               กษัตริย์สกุล

                     ประสูติประดุจ            มนุษย์ประยุร

                     อนันต คุณ                พระเจ้าอุดม

 

                        มนุษย์ทุบาป            สภาพสิแย่

                      กระป้อกระแป้             ระทดระทม

                      อริก็จวก                    ผนวกประสม

                      ระอาระอม                 ทุรนทุราย

          พระเยซูเสด็จเข้ามาสู่โลกนี้ ทรงสั่งสอนและสำแดงพระทัยพระเจ้า  ว่าหนทางที่ถูกที่ควรเป็นอย่างไร  พระเจ้าทรงรักและห่วงเราแค่ไหน  พระองค์ทรงฤทธิ์สามารถรักษาคนเจ็บป่วย  คนง่อย คนตาบอด หูหนวก  ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใดที่พระองค์บำบัดไม่ได้  เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระผู้สร้างมนุษย์ทั้งหลาย  สำคัญที่สุด พระองค์ทรงวายพระชนม์ที่ไม้กางเขน เพื่อไถ่โทษความผิดบาปของเรา  พระเยซูมิได้ทำความผิดบาปประการใด  พระองค์ไม่จำเป็นต้องรับโทษความผิดแต่อย่างใด  แต่การวายพระชนม์ของพระองค์เป็นการรับการลงโทษแทนเรา   หากเรา สำนึกกลับใจจากความผิดบาป  เชื่อวางใจในพระองค์ พระองค์จะทรงอภัย และชำระหนี้ความผิดแทนเรา  นำเราจากสภาพย่ำแย่ ทุกข์ยาก ให้กลับมามีชีวิตใหม่  มีความสุข      

          

                           พระถ่อมพระทัย        คระไลประสงค์

                         เฉพาะประจง              พระชนม์ถวาย

                         ระร้าวอุระ                  สละพระกาย

                         ฤทัยสลาย                 ณ หลักประหาร

         พระเยซูทรงวายพระชนม์ที่ไม้กางเขน แต่ในวันที่สาม พระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย  พิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า   พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เองแก่บรรดาสาวกตอนนั้น  ในช่วง 40 วัน ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสู่สวรรค์ต่อหน้าบรรดาสาวก   พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้ผู้เชื่อทั้งหลาย  ออกไปประกาศพระกิตติคุณ คือข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทั้งหลายทั่วโลก  ว่าพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่  เราทั้งหลายไม่จำเป็นต้องอยู่ในความผิดบาป  “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก  จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์  เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้น  จะไม่พินาศ  แต่มีชีวิตนิรันดร์”   นี่คือข่าวประเสริฐ  เมื่อเราออกไปประกาศเรื่องราวของพระองค์  พระองค์ทรงสัญญาว่า “มีคนเชื่อที่ไหน  หมายสำคัญจะเกิดขึ้นที่นั่น  ถ้าเขาขับผี  ผีจะออก  ถ้าเขาวางมือบนคนเจ็บคนป่วย  คนเหล่านั้นจะหาย” (มาระโก 16:15-19)       

                                   

                          หทัยประชา             กะสานุศิษย์

                          สิเทอดบพิตร              พระคริสต์วิศาล

                          ชุลีกษัตริย์                 นมัสการ

                          คละเสียงปะสาน          สราญ น่ะ เอย     

 

 ขอพระเจ้าอวยพร








Visitor 128

 อ่านบทความย้อนหลัง