ทาสีพระเป็นเจ้า

ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า( ลก 1:26-31)

 

       วันนี้เป็นวันแม่ของคริสตจักร   ผมอยากนำเรื่องราวของมารีย์  มารดาของพระเยซูมาเป็นแบบของแม่ตัวอย่าง  เธอทำให้พระราชกิจของพระเจ้าสำเร็จ วิธีทำงานให้สำเร็จ เคยมีคนมาถามพระเยซู  ใน ยอห์น 6:28-29 “ข้าพเจ้าทั้งหลาย  จะต้องทำประการใด  จึงจะทำงานของพระเจ้าได้”  พระเยซูตรัสตอบเขาว่า  “งานของพระเจ้านั้นคือ  การที่ท่านวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้มา”  พระเจ้าทรงใช้เราได้ไม่มีขอบเขตจำกัด  หาก เราวางใจยอมฟัง

มารีย์ว่า  ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า

  1. สดับฟัง (ลก 1:38)

                เมื่อทูตสวรรค์บอกให้เธอทราบว่าเธอจะตั้งครรภ์โดยเดชพระวิญญาณ  เธอน้อมใจยอมสดับฟัง  ตอบทูตสวรรค์ว่า ดูเถิดข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า  ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นตามคำของท่าน  ความเชื่อพระเจ้า  เราต้องกล้าหาญ  ไม่ใช่ต้องถามคนโน่นคนนี้ก่อน  เธอตอบทูตสวรรค์ได้ทันที ว่าเธอพร้อม

  2. ยอมฟัง (ลก 2:5,39)

          คำว่ายอมฟัง  มีความหมายถึงการยอมอยู่ภายใต้อำนาจมอบหมาย บุคคลที่พระเจ้าแต่งตั้งให้ปกครองเรา  เช่น พ่อแม่ปกครองลูก สามีปกครองภรรยา นายปกครองบ่าว รัฐบาลปกครองประชาชน และศิษยาภิบาลปกครองสมาชิก  มารีย์เป็นลูกที่อยู่ในโอวาท  เมื่อแต่งงานกับโยเซฟ  โยเซฟบอกให้เธอทราบว่าจะไปจดทะเบียนที่เบ็ธเลเฮ็ม  แม้ท้องแก่เธอก็ยอมฟัง  เมื่อโยเซฟบอกว่า เราต้องพาพระกุมารหนีไปอียิปต์ เธอไป  เมื่อโยเซฟบอกว่าให้เรากลับไปนาซาเร็ธ เธอไป  ถ้าเราจำทำงานสิ่งใดให้สำเร็จ เราต้องยอมอยู่ในการปกครองของบุคคลที่พระเจ้าวางไว้

  3. รับฟัง (ลก 2:50-51)

          เมื่อพระเยซูพระชนมายุได้ 12 พรรษา โยเซฟและมารีย์พาพระกุมารไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในเทศกาลปัศคา พองานเลิกงาน เดินทางกลับ 3 วันแล้วโยเซฟและมารีย์หาพระกุมารไม่พบ จึงกลับยังพระวิหาร พบพระเยซูทรงนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมาจารย์ ตอบข้อซักถามบรรดาธรรมาจารย์  พระเยซูตรัสกับนางว่า  เที่ยวหาฉันทำไม ไม่รู้หรือว่าฉันต้องอยู่ในพระนิเวศน์   โยเซฟและมารีย์ ไม่เข้าใจ แต่มารดาก็เก็บเรื่องราวทั้ง หมดนั้น ไว้ในใจ (ลก 2:51)  นางเป็นนักประมวลข้อมูลต่างๆ เช่นเรื่องนักปราชญ์ สิเมโอน นางอันนา  ไม่ด่วนสรุป  เธอรับฟัง ผู้รับใช้ที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นนักคิด และรับฟัง

  4. คอยฟัง (ยน 2:4-5)

                เมื่อพระเยซูเริ่มพระราชกิจ  ในงานเลี้ยงสมรสที่บ้านคานา  มารีย์คงมีส่วนเป็นแม่งาน  เมื่อน้ำองุ่นหมดลงกลางคัน  วิกฤติเกิดขึ้น  เธอบอกให้พระเยซูรับทราบ เหมือนการอธิษฐาน  พระเยซูตรัสว่าให้เป็นธุระของพระองค์  เวลาของพระองค์ยังมาไม่ถึง  เท่านั้นเธอก็สงบ วางใจ สั่งคนใช้ให้ รอฟังคำสั่ง  และวันนั้พระเยซูก็สั่งคนใช้ให้เอาเปล่าใส่โอ่ง 6 ใบ ตักน้ำจากโอ่งไปเสิร์ฟแขก การอัศจรรย์เกิดขึ้น  ผู้รับใช้ หรือคุณแม่ที่อธิษฐาน  เป็นทุกข์เมื่อปัญหาเกิดขึ้น  ต้องอธิษฐาน สงบ วางใจ และคอยฟังคำตอบ

  5. เชื่อฟัง (ยน 19:26) ไม่มีงานใดยากที่สุดสำหรับผู้เป็นแม่ที่จะต้องอยู่กับลูกที่ทุกทรมานอย่างหฤโหด อย่างมารีย์ที่โคนกางเขน  ไม่อยู่ที่นั่นเสีย ก็ไม่ปวดเร้า คอยฟังข่าวเพื่อพระองค์สิ้นพรชนม์คงง่ายกว่าเยอะ  ทำไม นางตัดสินใจอยู่ที่นั่นมองดูภาพบาดตาที่ปวดร้าวที่สุด คงจำได้ว่านางพูดว่าอย่างไร  “ดูเถิดข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า  ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นตามคำของท่าน” เธอเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า  พร้อมเป็นแม่ที่ดีที่สุด เธอพร้อมทุกข์ปวดใจ เพื่อให้กำลังใจพระเยซู เธอเชื่อฟังพระเจ้าจริงๆ  ยิ่งกว่านั้น  เมื่อพระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ เป็นที่แน่ชัดว่าพระองค์คือพระเมสสิยาห์  เธอคือ สาวกคนหนึ่งของพระเยซู เธอเชื่อฟังพระเจ้าครับ  (กจ 1:14)

        สุขสันต์วันแม่











Visitor 108

 อ่านบทความย้อนหลัง