คำหนุนน้ำใจ', 'เรายินดีต้อนรับท่านด้วยความรักของพระเจ้า พระเยซูตรัสว่า “บรรดาผู้ ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข”

- บ้าน (Home)
ความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่ และลูกวัยรุ่น ในยุคโลกาภิวัฒน์ เด็กทุกวันนี้โตเร็วมาก เขาอยากเป็นอิสระตั้งแต่อายุยังน้อย มากยิ่งกว่ารุ่นคุณพ่อคุณแม่ พ่อแม่มักพบว่าติดตามการเปลี่ยนแปลงของลูกไม่ทัน ผลก็คือ เกิดการขัดแย้ง ออกจากอ้อมอกพ่อแม่ลูกก็เข้าสู่โรงเรียน มีเพื่อนฝูง มีกลุ่มคณะ พอกลับบ้านก็ขัดแย้งกฎเกณฑ์ของบ้าน บางทีก็เงียบเฉยพ่อแม่มิอาจติดตามได้ทัน บางครั้งก็ใช้เวลาเป็นปี ๆ เกิดกำแพงขวางขั้น พ่อแม่มักพบว่าคุยกับลูกไม่รู้เรื่อง การไม่สื่อสาร อธิบายเรื่องเพศให้ลูกฟัง พอร่างกายของเด็กเปลี่ยนแปลงเขาก็ต่อสู้เพื่อการเป็นอิสระยิ่งมากขึ้น ช่องว่างก็กว้างขวางขึ้น
สุภาษิต 22:6 , สุภาษิต 20:7 , โคโลสี 3:21 , เฉลยธรรมบัญญัติ 12:28 , เอเฟซัส 6:1-4

ความกังวล และตึงเครียด ( Anxiety worry)
ความกังวลตีความหมายกว้าง เป็นผลมาแต่ความกลัวที่ไม่ทราบมูลเหตุ บางคนบอกว่าเป็นการครุ่นคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากเกินไปจนกระทั่งเราลืมสภาพปัจจุบัน เป็นการทำเนินเขาให้กลายเป็นภูเขา เป็นการจินตนาการสิ่งที่เราไม่มี อนาคต สุขภาพ ครอบครัว และการเงิน โดยหาสาเหตุไม่ได้
หลายคนที่ขี้กังวล จะมีปัญหาสุขภาพตามมาด้วย เช่น เป็นคนขี้กลัว นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ หายใจขัด เหงื่อออกมาก และถ้าแก้ไม่ได้ ก็จะส่งผลรุนแรงขึ้น เช่น เป็นโรคประสาท เขาต้องการการเห็นอกเห็นใจ การอธิษฐานเผื่อ
สดุดี 34:4 , เ เปโตร 5:7 , ฟิลิปปี 4:6-7 , มัทธิว 6:33-34 , สดุดี 42:5

- ความโกรธ ( Anger )
ความโกรธเป็นอารมณ์ เป็นปฏิกริยาโต้ตอบ สถานการณ์ที่เราไม่พึงพอใจ ไปโดยที่เราควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้เราหัวเสีย ถ้าเราเก็บก็เป็นความขมขื่น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีกับเราเช่นเดียวกัน สิ่งที่เราควรรู้ก็คือ ไม่ใช่ ความโกรธทุกอย่างเป็นสิ่งผิด พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธในโอกาสต่าง ๆ กัน ตัวอย่างเช่น :
โมเสส โกรธมากเมื่อท่านเห็นคนของท่านไม่สัตย์ซื่อ และสร้างรูปเคารพ (อพยพ 32:19 )
พระเยซูทอดพระเนตรดูรอบด้วยพระพิโรธเมื่อพระองค์ จะรักษาคนมือลีบให้หาย แต่คนเหล่านั้นมีใจแข็งกระด้าง ( มาระโก 3:5 )
พระเยซูทรงขับไล่คนเหล่านั้นที่มาขายของและแลกเงินตราในพระวิหาร ( มาระโก 11:15-17 )
เราอาจโกรธ โดยที่ยังมิได้มีใจบาป (เอเฟซัส 4:26)
พระคัมภีร์แนะนำให้เราควบคุมความโกรธ (สุภาษิต 29:11)

- การสมรส ( Marriage )
การสมรส เป็นการผูกพันตลอดชีพ และจริงจังที่สุดของคู่สมรส แต่หลายคู่ก็เข้ามาสู่การสมรสโดยปราศจากความรู้ และมิได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ จำนวนการหย่าร้างที่ทวีขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน เป็นเครื่องบ่งชี้ให้เรารู้ว่าหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อย มิได้เตรียมตัวเองเพียงพอในการเข้าสู่งานวิวาห์
การสมรสที่ดีไม่ใช่ เรื่องงานวิวาห์ในเทนิยาย แต่เป็นการสมรสในชีวิตสามัญ ธรรมดา แม้ต้นรักต้องการการทนุถนอมบำรุง รดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย ฉันใด คู่สมรสก็ต้องการการบำรุงรักษาฉันนั้น คู่สมรสต้องการการทรงนำจากพระเจ้าในเรื่องต่าง ๆ ก็จริง แต่คู่สมรสก็ต้องพยายาม ตอบสนองต่อการทรงและช่วยสร้างกันขึ้นด้วยเขาทั้งสอง การสมรสที่มีมิได้ตั้งอยู่บนอุดมคติ แต่อยู่บนความจริงในชีวิตสมรสจริงไม่มีเทพบุตรและเทพธิดา การคาดหวังให้คู่สมรสเป็นดังพรนะเอก หรือนางเอกในภาพยนตร์เป็นการทำลายชีวิตคู่ คู่สมรสต้องมาดูว่าตัวจริงของเราและคู่ของเราเป็นอย่างไร การปรับตัวให้เข้ากันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คู่สมรสอยู่กันได้ยืดยาว
การสมรสที่ดีเราต้องให้เกียรติ เคารพคู่ของเราเราต้องมีพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกันมา ทุกคนมีอดีตทุกคนมีจุดแข็งและจุดอ่อน เราสารมารถให้เกียรติคู่ครองของเราได้ การมองกันละกันในภาพที่พระเจ้ามอง พระเจ้าลืมอดีต พระองค์สร้างแต่ละคนตามแบบพระฉายของพระองค์ พระองค์ทรงเห็นจุดดีและพร้อมพัฒนาจุดด้อย พระองค์เห็นคุณค่าของเรา และทรงมองเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์เสมอ
การสมรสที่ดี คู่สมรสควรมีความคล้ายคลึงกัน การที่ทั้งสองมิได้มีความแตกต่างกัน จนเกินไปมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น เช่น พื้นฐานความเชื่อในศาสนา พื้นเพวัฒนธรรมและสังคม ฐานะทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกัน การศึกษาใกล้เคียงกัน ความเป็นอยู่ของครอบครัวคล้ายคลึงกัน คู่สมรสมิควรคิดว่า ชีวิตคู่สมรสจะเป็นที่ดัดนิสัยคู่ของตน คนที่คิดแต่งงานกับคู่ครองโดยหวังว่าตนจะเปลี่ยนเขาในบางเรื่องให้ได้ เป็นความคิดที่ผิด ถ้าเขาเปลี่ยนก่อนแต่งงานไม่ได้ ก็อย่าคาดหวังว่าแต่งแล้วจะเปลี่ยนแปลงเขาได้ คนเราเปลี่ยนกันไม่ได้มากมายนัก คู่สมรสที่เชื่อพระเจ้าต่างมีความยำเกรงพระเจ้า มีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธภาพที่ดีต่อกันสูงกว่าคู่ครองที่ไม่เชื่อถือยำเกรงพระองค์ (1 โครินธ์ 7:39 )
เอเฟซัส 5:21 -22 , 1 เปโตร 3:7 , สุภาษิต 3:7 , อาโมส 3:3 , 2 โครินธ์ 6:14,18

- ความว้าเหว่ ( Loneliness )
ความว้าเหว่เป็นความรู้สึกเจ็บปวดว่าเราขาดความสัมพันธ์ที่มีและความหมายกับคนอื่น ๆ และให้เรารู้สึกว่างเปล่าเหมือนอยู่ในโลกคนเดียว ไร้ความหวังรู้สึกว่าตนถูกปฏิเสธ เป็นปมด้อย เพราะเราไม่อาจสัมพันธ์กับใคร เรารู้สึกว่าเราไม่เป็นที่ต้องการ แม้นว่าเราจะเคยพยายามนำตัวเองกับสังคม
บ่อยครั้งความว้าเหว่อาจเกิดจากตัวเราเอง คนบางคนไม่มีความมั่นใจและเป็นคนสื่อสารกับคนอื่นไม่เป็นเพราะตนเองมีปมด้อย บางคนปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น แต่ในขณะเดียวกันก็มีนิสัยชอบสันโดษ ไม่พึ่งใคร จึงยากที่จะพัฒนาความผูกพันลึกซึ้งกับใคร มีความหวาดกลัวที่จะเปิดเผยตนเองให้กับคนอื่นรู้เรื่องชีวิตของตน จึงกลายเป็นอัมพาตในสังคม อาดัมและเอวา เมื่อทำบาปจึงซ่อนตัว สัมพันธภาพของตนขาดจากพระเจ้า เพราะความบาปเหตุให้ทั้งสองละอายต่อกันด้วย ปิดบังตนเองจากกัน เมื่อเราได้เข้ามารู้จากพระคริสต์
มัทธิว 11:28-30 , โรม 13:5-6 , มัทธิว 28:20 สดุดี 40: 1-5 1 โครินธ์ 1:9 สุภาษิต 3:5-6

ความอดทน ( Patience )
ความอดทนเป็นคุณสมบัติที่น่าชมเฉย แต่มีคนไม่มากนักที่มีคุณสมบัตินี้ พระคัมภีร์ปรารถนาให้เราอดทน ความอดทนเป็นลักษณะของคนที่มีความรักครอบครองจิตใจ “ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรัก...ไม่ฉุนเฉียว” (1 โครินธ์ 13:4,5 )
ความอดทนเป็นความสามารถที่จะรับเอาความกดดันบีบคั้น โดยไม่บ่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค การชักช้าหรือความล้มเหลว พระเจ้าทรงอนุญาตให้ความยากลำบาก ความไม่สะดวกสบาย การทดสอบ และความเจ็บปวดผ่านเข้าสู่ชีวิตของเราเพื่อต้องการให้เราได้รับการพัฒนาท่าทีของเรา และให้เราได้แข็งแกร่งอดทนยิ่งขึ้น

- ความขมขื่น ( Bitterness)
ท่านเคยได้รับความบาดเจ็บเพราะคนใกล้ตัวหรือ ความเจ็บปวดอาจเป็นเหตุให้ท่านแข็งกระด้าง หนีผู้คนไม่ค่อยกล้าคบใครเป็นเพื่อน หรือสนิทสนมกับใครอย่างจริงจัง เพราะกลัวเจ็บอีก ทำให้ท่านมีเพื่อนน้อย ท่านกลัวการสูญเสียทำให้ท่านกลายเป็นคนไวในอากัปกริยาของตน การไม่ยกโทษคนที่เคยทำให้ท่านบาดเจ็บเช่นนี้ก่อให้เกิดความขมขื่นขึ้นในใจ ความขมขื่นเช่นนี้ส่งผลร้ายกับตัวท่านเอง การไม่ยกโทษผู้อื่นนำมาสู่การไม่ยอมยกโทษตัวของท่านเองด้วย หากท่านเคยทำผิดสิ่งใดท่านก็ยังคงสงสัยกับเรื่องนี้ ท่านวางใจคนที่ทรยศต่อท่าน ปฏิเสธท่าน ดูถูกท่านทำให้ท่านไม่ไว้วางใจใครง่าย ๆ อีกต่อไป แย่กว่านั้นคือท่านไม่สนใจความต้องการของใคร พระเจ้าทรงทราบว่าท่านเจ็บปวดอย่างไร พระองค์ทรงเข้าพระทัยในท่าน แต่พระองค์ก็ไม่ทรงปรารถนาให้ท่านแก้แค้น หนีสังคม และดองความเจ็บปวดที่ทำลายตัวท่านเองไว้เช่นนี้ พระองค์มีพระประสงค์ให้ท่านเป็นไท พระองค์เชิญชวนให้ท่านอภัยโทษคนที่ทำให้ท่านเจ็บปวด พระเยซูคริสต์เองได้รับความเจ็บปวดจากคนใกล้ตัวพระองค์ที่สุด แต่พระองค์ก็ทรงอภัยเขา พระองค์ทรงเชิญชวนให้ท่านดูพระองค์เป็นแบบและทูลขอพระกำลังจากพระองค์ ระบายความเจ็บปวดกับพระองค์ทูลพระองค์ถึงความอ่อนของท่าน ทูลขอให้ความรักของพระองค์เข้ามาสู่ใจของท่าน คิดถึงความรักยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงมีต่อท่าน ท่านเองเคยเป็นผู้ผิด และการอภัยโทษของพระองค์ต่อท่านนั้นใหญ่หลวงนัก หันมาดูความผิดของผู้อื่นที่ทำกับท่าน ท่านจะแลเห็นว่ามันเล็กกว่ากันแค่ไหน โดยพระคุณของพระองค์ท่านอภัยเขา ท่านจะพบว่า ท่านมีความสุขสดชื่นและมีพลังอันยิ่งใหญ่ในการเดินไปข้างหน้า

- เซ็กส์ (Sex) มัทธิว 19:5
วัตถุประสงค์ของการมีเพศสัมพันธ์ พระเจ้าทรงสร้างและสถาปนาเซ็กส์ เรื่องเซ็กส์มิได้เป็นความชั่ว หรือเป็นเรื่องสกปรก พระคัมภีร์มิได้ลังเลใจในการกล่าวถึงความสุขที่พระเจ้าทรงประทานให้ในเรื่องการมีเพศสัมพันธภาพทางเพศระหว่างชาย - หญิง พระเจ้าทรงอวยพระพรความรัก และการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสามี - ภรรยาในการสมรส เรื่องเซ็กส์เป็นพระดำริของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้างขึ้นเมื่อพระองค์เปรียบเทียบความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์และพระองค์ พระองค์ทรงเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ความสนิทสนมกันทางเพศสามี - ภรรยา ความใกล้ชิดความหวานชื้นระหว่างพระคริสต์และคริสตจักรถูกนำมาบรรยายให้เห็นภาพระหว่างเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่เข้าสู่งานวิวาห์ เธอมอบตัวของเธอเป็นของเจ้าบ่าว ยอมเปลี่ยนนามสกุล ให้เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวปกป้องดูแลและนำหน้า เธอยอมมอบความปรารถนาส่วนตัวของเธอเป็นของเขา ความสนใจและเป้าหมายของทั้งสองกลายเป็นอันเดียวกัน สิ่งใดที่ได้มากระทบเธอก็จะกระทบคู่ครองของเธอด้วย สามีที่สัตย์ซื่อ รัก ทนุถนอมและให้เกียรติภรรยาเขาจะมอบเวลาการงานและสิ่งที่เขามีอยู่ช่วยภรรยา สามีที่สัตย์ซื่อจะปกป้องชื่อเสียงของภรรยา พระเยซูเป็นแบบฉบับที่สมบูรณ์ในการที่พระองค์สัตย์ซื่อต่อคริสตจักรซึ่งเปรียบเสมือนเจ้าสาวของพระองค์ เซ็กส์ของคนเรา เป็นเรื่องของความสัมพันธ์พิเศษแตกต่างจากเซ็กส์ของสัตว์ การสืบพันธ์ของสัตว์อยู่ภายใต้กฎของสัญชาติญาณ สัตว์สมสู่กันตามฤดูกาลไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความรัก แต่เป็นไปตามแรงผลักดันของสัญชาติญาณ
 

 

 

 

 

 


Visitor 136

 อ่านบทความย้อนหลัง