แทนคุณของพ่อ

 

ศ.บ.

  เนื่องในวันพ่อปีนี้   ผมขอนำเรื่องการแทนคุณของพ่อ  ของโยเซฟมาเล่าให้ฟัง

         โยเซฟเป็นลูกของยาโคบ ที่เกิดจากนางราเชล  เขาเป็นลูกคนที่ 11  ก่อน เบนยามิน  น้องคนสุดท้อง  ยาโคบมีภรรยา 4 คน  พวกพี่ชายเกิดต่างมารดากับโยเซฟทั้งสิ้น  พวกพี่ๆมักเกเรออกนอกทาง  แต่โยเซฟเป็นลูกที่ว่านอนสอนง่าย  พ่อจึงโปรดโยเซฟ  เพราะนอกจากเขาเกิดแต่นางราเชล  ที่ยาโคบรักแล้ว  โยเซฟยังเป็นลูกที่อยู่ในโอวาทด้วย  เมื่อสอนได้   ก็ย่อมเรียนรู้อะไรๆ มาจากพ่อได้มาก  ไม่มีครูคนไหนอยากสอนนักเรียนที่เบื่อเรียน  เพราะสอนไปก็ไม่เข้าหัว  แต่ลูกที่สอนง่าย จะดูดซับความรู้อย่างฟองน้ำซับน้ำ  ดังนั้นโยเซฟจึงได้รับปัญญา และความรักพระเจ้ามาจากพ่ออย่างดื่มด่ำ  ส่วนยาโคบก็รักโยเซฟเป็นพิเศษ  ทำเสื้อตัวงามให้สวมใส่  พวกพี่จึงอิจฉาโยเซฟ 

          เมื่อโยเซฟถูกพวกพี่ชายขายไปเป็นทาส  

 

 

1. โยเซฟห่วงใยพ่อ  

         รู้ได้อย่างไรว่าห่วงพ่อ   จะเห็นว่า เมื่อพวกพี่ชายมาซื้อข้าวในอียิปต์ ตอน     โยเซฟเป็นนายกรัฐมนตรี  พวกพี่จำโยเซฟไม่ได้  แต่โยเซฟจำพวกพี่ได้  สิ่งที่โยเซฟถามไถ่ก่อนสิ่งอื่นใด คือ “บิดาผู้ชราที่พวกเจ้ากล่าวถึงครั้งก่อนนั้นสบายดีหรือ  ยังมีชีวิตอยู่หรือ” (ปฐมกาล 44:26)  ปกติพ่อห่วงลูก มากกว่าลูกห่วงพ่อ   ถ้าโจรเรียกค่าไถ่จับได้ทั้งพ่อและลูก โจรรู้ดีว่า  ให้จับลูกไว้เป็นตัวประกัน  แล้วปล่อยพ่อให้ไปหาเงิน

 

มาไถ่ลูก  เพราะถ้าเอาตัวพ่อไว้  ปล่อยให้ลูกหาเงินมาไถ่พ่อ  โจรมีหวังปิ๋ว ไม่ได้ค่าไถ่  เขาว่างั้น   โยเซฟเป็นฝ่ายถูกขายไปเป็นทาส  โดยที่พ่อไม่รู้ ว่าหายไปไหน  พวกพี่ชายไปหลอกพ่อว่า  เขาถูกสัตว์ร้ายกัดกิน   โยเซฟไม่รู้ว่าพ่อเข้าใจการหายไปอย่างไร  แต่พอเดาได้ว่า  เขาคงเสียชีวิต   แค่นี้พ่อก็ทุกข์ระทม   ส่วนโยเซฟนั้น   ไม่ทุกข์เรื่องตัวเอง ที่ถูกขายไปเป็นทาส  แต่ทุกข์เพราะ พ่อทุกข์   เมื่อแก้อะไรไม่ได้ก็ต้องฝากกับพระเจ้า

                             โยเซฟไป่เจ็บร้อน        สิ่งใด     

                           พร้อมตามน้ำพระทัย         พระเจ้า

                           นึกห่วงหาอาลัย               คุณพ่อ

                           ขอพระประโลมประเล้า      จิตเฝ้าอธิษฐาน

 

     2. รักพ่อ ต้องรักพระเจ้าของพ่อ

        โยเซฟรู้ดีว่า  สำหรับพ่อยาโคบแล้ว  ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่า   พระเจ้า  พ่อสู้ชีวิตมาตลอดก็เพราะต้องการพระพร และทำสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยให้สำเร็จ  พ่อยังสอนด้วยว่าเรื่องพระเจ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของ  แต่ละคน  พ่อจะสนิทสนมกับพระเจ้าแทนตนก็ไม่ได้  ความรอดก็เป็นเรื่องส่วนตัวเช่นเดียวกัน   ตนจะต้องเชื่อวางใจพระเจ้าด้วยตัวเอง  ไม่ใช่พึ่งความเชื่อของพ่อ  ดังนั้นโยเซฟจึงเลือกเอาพระเจ้าจริงจัง   ยิ่งระหกระเหินพลัดที่นาคาที่อยู่  ยิ่งพึ่งพาอาศัย ใกล้ชิดพระองค์  นี่ซิคือคนรักพ่อ

 

 3. รักพ่อ  ต้องยำเกรงพระเจ้า

        นอกจากโยเซฟ ใช้ชีวิตทำหน้าที่การงานดีที่สุดแล้ว  โยเซฟ ไม่ยอมทำผิดศีลธรรมด้วย   แม้ตนไม่ได้อยู่ในสายตาพ่อ อย่างวัยเด็ก   และพ่อก็มิได้ติดตามตนไปทุกที่   แต่โยเซฟตระหนักว่า ตนอยู่ในสายพระเนตรเสมอ  ไม่ว่าในที่ลับหรือที่แจ้ง  เมื่อภรรยาของโฟทิฟาร์  หลงใหล ปฏิพัทธ์ โยเซฟ  ชวนเขาไปนอนด้วย  โยเซฟปฏิเสธกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะทำความผิดใหญ่หลวงนี้อันเป็นบาป  ต่อพระเจ้าอย่างไรได้” (ปฐก 39:9)   โยเซฟจำเรื่องที่เชเคมได้ดี  พวกพี่ ๆ ยกพวกไปฆ่าชาวเมือง เพื่อแก้แค้นแทนดีนาห์ พอพ่อรู้เข้า  พ่อแทบเป็นลม   ได้แต่ปรารภว่า “ชักศึกเข้าบ้านแท้ๆ”  แล้วพ่อก็ต้องพาพวกเรา ย้ายออกมาเพื่อความปลอดภัย รูเบนเข้าหาภรรยาของพ่อ  ยูดาห์ผิดประเวณีกับนางทาร์มา  ทำให้พ่อพูดไม่ออก   แต่โยเซฟ ระมัดระวังรักษาชีวิตอย่างดี เพราะยำเกรงพระเจ้า  มิฉะนั้นเขาคงไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง  แล้วจะช่วยใครไม่ได้  ทั้งนำความเศร้าใจไปให้พ่อด้วย   สิ่งที่พ่อเคยสอน จึงเป็นเกราะป้องกันตนอย่างดี  

 

4. รักพ่อ ต้องรักพี่รักน้อง

       โยเซฟจำได้ดีว่า  แม้พวกพี่มีนิสัยไม่ดี  แต่พ่อก็ยังรักห่วงใยพวกเขา  พ่อใช้ตน ให้นำเสบียงอาหารไปให้ เมื่อเลี้ยงแกะบ่อยๆ   แม้ถูกพวกพี่ๆ    ทำกับตนอย่างเจ็บแสบ  โยเซฟไม่เคยผูกใจเจ็บ   เขาอธิษฐานถึงพวกพี่ๆ ทุกวัน   โยเซฟยกโทษ และทำการดีตอบแทนพวกพี่ เหมือนใจพ่อ  หลังจากทดสอบให้หายข้องใจว่าพวกพี่ๆ สำนึกผิด  โยเซฟเปิดเผยให้ทราบว่าเขาคือโยเซฟ  ที่พวกพี่ๆ ขายมา  โยเซฟโผเข้าไปกอดพวกพี่ๆ “เราคือโยเซฟ น้องที่พี่พี่ขายมายังอียิปต์  แต่บัดนี้อย่าเสียใจไปเลย  อย่าโกรธตัวเองที่ขายเรามา 

ที่นี่  เพราะว่าพระเจ้าทรงใช้เราให้มาก่อนหน้าพี่  เพื่อจะได้ช่วยชีวิต(จากการกันดารอาหาร)..ฉะนั้นมิใช่พี่เป็นผู้ให้เรามาที่นี่ แต่พระเจ้าทรงให้มา” ( ปฐมกาล 45:4-8)  โยเซฟไม่มีความขมขื่นหรือโทษโจษจันพวกพี่สักคำ  อย่างนี้จะไม่ถูกพระทัย หรือไม่ได้ใจพ่อไปได้ยังไง 

                             เปิดโผโอกาสให้        มั่นจิต

                        หาญกล้ามาใกล้ชิด              ค่ำเช้า

                        จึ่งมองข้ามความผิด             คิดด้านดีเฮย

                        รักเด่นเช่นพระเจ้า                ยกให้อภัยเรา

 

5.รักพ่อ  แทนคุณเมื่อมีโอกาส

      ก่อนโยเซฟเปิดเผยตัว  เขาส่งสะเบียงกลับบ้าน  มากล้น  เพราะห่วงทุกคนในบ้าน  โลกกันดารอาหาร  แต่บุคคลที่โยเซฟตระหนักว่าต้องช่วยเหลือก่อนใคร  คือ พ่อ พี่และน้องที่อยู่ในคานาอัน  ซึ่งกำลังแห้งแล้งอย่างหนัก  เปาโลกล่าวว่า  “เหตุฉะนั้น  เมื่อเรามีโอกาส  ให้เราทำดีต่อคนทั้งปวง  เฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัว  ที่มีความเชื่อ” ( กาลาเทีย 6:10)   ครั้นโยเซฟเปิดเผยให้พวกพี่ๆ ทราบว่าพระเจ้าช่วยให้ตนเป็นใหญ่ในอียิปต์    โยเซฟ  ก็ขอพระราชานุญาต  จากกษัตริย์ฟาโรห์  นำทุกคนทางบ้านมาอยู่ที่อียิปต์  มาเลี้ยงแพะแกะที่เมืองโกเชน  ความจริงเปาโล  กล่าวถึงลูกฝ่ายวิญญาณว่า ไม่ต้องจัดเตรียมสิ่งใดให้ท่าน  และท่านเองก็ไม่ปรารถนาสิ่งใดจากพี่น้อง  “ข้าพเจ้าจะไม่เป็นภาระแก่พวกท่าน  เพราะข้าพเจ้าไม่ต้องการสิ่งใดจากท่าน แต่ต้องการตัวท่าน  เพราะว่าที่ลูกจะสะสมไว้สำหรับพ่อแม่ก็ไม่สมควร     แต่พ่อแม่ควรสะสมไว้สำหรับลูก” ( 2 โครินธ์ 12:14) แต่โยเซฟทำให้พ่อ  ด้วยใจสำนึกในพระคุณ  “โยเซฟเลี้ยงดูบิดา และพวกพี่น้องรวมทั้งครอบครัวของบิดาให้มีอาหารรับประทานตามจำนวนคนในครอบครัว” (ปฐมกาล 47:12)

 

6. ขี่รถ  เพื่อพ่อ

     ปีนี้มีการปั่นจักรยาน เพื่อพ่อBike for Dad ในวันพ่อ ทำให้ผมนึกถึงโยเซฟ  วันที่โยเซฟไปพบพ่อ และพาพ่อไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ฟาโรห์ โยเซฟจัดรถม้า  สมัยนั้น  รถม้าหลวงในอียิปต์ถือเป็น พาหนะชั้นนำ ทันสมัย โยเซฟนำรถม้าไปด้วยตนเอง ไปพบพ่อซึ่งจากกันมาหลายปี    นี่คือการ “ขี่รถ เพื่อพ่อ” ครั้งหนึ่งที่บันทึกในพระคัมภีร์  ยาโคบเข้าใจว่าลูกคนนี้ล้มหายตาย

 

 จากกันไปแล้ว  และชีวิตนี้ไม่มีวันได้พบกันอีก  แต่วันนั้น เป็นวันพิเศษแท้  เป็นวันความหวังคืนชีพ ทั้งสองดีใจเกินคำบรรยาย  “โยเซฟจัดรถไปยังเมืองโกเชน รับอิสราเอลบิดาตน พอเห็นบิดา ท่านก็กอดบิดาไว้ ร้องไห้เป็นเวลานาน” (ปฐมกาล 46:29) 

                       โยเซฟจรต้อนรับ            บิดาตน

                   พระนั้นบันดาลดล                     ลึกล้ำ

                   โผกอดพลางต่างคน                  ต่างร่ำ ไห้แฮ

                   ผ่านทุกข์ฝืนกลืนกล้ำ                 พระเจ้าเนาคืน

 

     นี่คือตัวอย่างลูกกตัญญู  นี่คือตัวอย่างลูกที่อยู่ในโอวาท  ซึ่งพระเจ้าบัญญัติไว้ว่า “จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า” (อพยพ 20:12)   “เพื่อเจ้าจะไปดีมาดี และมีอายุยืนนานที่แผ่นดินโลก” (เอเฟซัส 6:3)

 

                      คนหนึ่งพึ่งพระเจ้า            จริงจัง

                   พระไซร้ไหลดัง                       แม่น้ำ

                   ทดบ่าเข้านาปรัง                      ไร่เกษตร

                   คนเคียงหลากมากล้ำ                นับร้อยพลอยเจริญ

 

สุขสันต์วันพ่อครับ



Visitor 484

 อ่านบทความย้อนหลัง