คริสตจักรแห่งอนาคต

 

ศบ.

 

ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์ จากไปอยู่กับพระเจ้าเมื่อปีกลาย

ส่วนตัว ผมชอบการเป็นครูของท่าน โดยเฉพาะเมื่อท่านสอน “วิชาเพิ่มพูนคริสตจักร” อีกวิชาหนึ่งที่ท่านทุ่มเทมาก คือเรื่อง “การอธิษฐานและสงครามฝ่ายวิญญาณ” ท่านมักมองเห็นแนวโน้มทิศทางของคริสตจักรในยุคปัจจุบัน และอนาคต คราวที่ท่านมาเมืองไทย ปี 1996 ท่านสอนพระคัมภีร์ และพูดถึงแนวโน้ม ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในโลกอยู่หลายเรื่อง ซึ่งผมจะขอนำสิ่งทีท่านสอนในปีนั้น ในประชุมฤทธิ์เดชซึ่งจัดที่เดอะมอล บางแค มาเล่าให้ฟังอีกครั้ง ยังทันสมัยครับ
ท่านกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน ยิ่งใหญ่กว่า ในยุคของ จอห์น เคลวิน หรือ มาร์ติน ลูเธอร์ มากนัก แวคเนอร์ ตั้งชื่อการเคลื่อนไหวยุคนี้ว่า “การขับเคลื่อนของอัครทูตใหม่” (New Apostolic Movement) หรือ “การปฏิรูปของอัครทูตใหม่” (New Apostolic Reformistic ) เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ก้าวกระโดดมากกว่ายุคใด ๆ ที่เคยมีมา พระเยซูตรัสใน ยอห์น 14: 12 ว่า “ผู้ที่วางใจในเรา จะกระทำกิจการซึ่งเราได้กระทำนั้นด้วย และเขาจะกระทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปถึงพระบิดาของเรา” น่าชื่นใจ ที่เรากำลังเห็นงานที่ยิ่งใหญ่กว่าในปัจจุบัน มองดูการเพิ่มพูนคริสตจักรในโลกทั้ง 6 ทวีป ปัจจุบัน คริสตจักรในโลกที่สาม กำลังเพิ่มพูนมากกว่า การเพิ่มพูนในทวีปอเมริกา และทวีปยุโรป เสียอีก ประเทศไทยก็กำลังอยู่ในกระบวนการเพิ่มพูนนี้ด้วย
“ผมเห็นว่า วันนี้ มีการเคลื่อนไหวใหญ่ (Major Movements) 3 ที่ ในโลกของเรา (1) คริสตจักรอิสระ(Independent churches )กำลังทวีขึ้นอย่างมากในอัฟริกา ความจริงมัน เริ่มมา 100 ปีแล้ว (2) การขยายคริสตจักรตามบ้าน (House Churches) ในประเทศจีน (3) การเพิ่มทวีคริสตจักรรากหญ้า(Grass root )ในละตินอเมริกา ผมอยากบอกว่า การเคลื่อนไหว ทั้ง 3 นี้ มิได้เกิดจากมิชชันนารีจากประเทศตะวันตกเลย แต่กลับเป็นการเพิ่มพูนคริสตจักรที่ ก้าวเร็วที่สุดในโลก.”
ผมขอพูดเรื่องการเพิ่มพูนคริสตจักรที่อาเยนตินา
ซึ่งผมเห็นว่า มีลักษณะคริสตจักรรูปแบบใหม่ อยู่ 9 ประการด้วยกัน


(1) คริสตจักรที่ใช้ชื่อใหม่ ( New Name)
เป็นคริสตจักรอิสระที่ใช้ของประทานพระวิญญาณ คริสตจักรเหล่านี้ ไม่ได้ขึ้นกับองค์กรใด หรือคณะใด เพราะถ้าขึ้นกับองค์กรแล้วก็จะไม่อิสระ แต่คริสตจักรเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันเอง เป็นเครือข่าย (network) นำให้คนมาพบความรอดมากยิ่งกว่ายุคใด พระเยซูเคยสอนเราว่า เมื่ออธิษฐานจงว่า “ขอให้แผ่นดินของพระเจ้ามาตั้งอยู่” คริสเตียนอธิษฐานอย่างนี้มาหลายพันปีแล้ว บัดนี้ พระเจ้ากำลังตอบคำอธิษฐานของเรา ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มที่เรียกตนว่ามีพระวิญญาณ หรือไม่ ผมถึงเรียกคริสตจักรยุคนี้ว่า “อัครทูตใหม่” ยังไงล่ะ พวกเขาตั้งชื่อแปลก ๆ เช่น”เอลชัดดัย” “คลื่นแห่งรักและสันติสุข” “ปราบมาร สู่สวรรค์” ฯลฯ


(2) คริสตจักรที่มีโครงสร้างอำนาจใหม่ ( New Authority Structure )
ในช่วงหลายร้อยปี ที่ผ่านมา คริสตจักรในอดีต (Traditional church ) ถูกสร้างขึ้นผ่านคณะ ผู้นำคณะมอบหมายงานให้ตัวแทนไปปลูกคริสตจักร สิทธิอำนาจอยู่ที่คณะกรรมการ ( General assembly) คณะจะมีกฎมีเกณฑ์มาก มีการเขียนธรรมนูญขึ้นมาปกครอง โดยศิษยาภิบาลเป็นเหมือนลูกจ้าง( Employee)
แต่ในยุคต่อไปนี้ จะเกิดคริสตจักร โดยศิษยาภิบาล ปกครองคริสตจักรท้องถิ่น อย่างเรียบง่าย ศิษยาภิบาลได้รับนิมิตจากพระเจ้า วางแนวทาง การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่คณะกรรมการ แต่อยู่ที่ศิษยาภิบาล ศิษยาภิบาล พูดคุยกับผู้นำที่เป็นกุญแจสำคัญบางคน อธิษฐานด้วยกัน ปรึกษากัน จนมาถึงจุดที่ตัดสินใจ และประกาศการตัดสินใจแก่สมาชิก ที่โคลัมเบีย มี คริสตจักรหนึ่งชื่อว่า “ของประทานพระวิญญาณ นานาชาติ” มีสมาชิก 20,000 คน มี 6,000 กลุ่มเซลล์ แทนที่เขาจะเรียก ศบ. เขาเรียกประธาน มีภรรยาเป็นรองประธาน ภรรยาเป็นวุฒิสมาชิกของประเทศโคลัมเบีย เสียด้วย


(3) คริสตจักรที่มีการฝึกฝนผู้นำแบบใหม่ ( New Leadership Training )
รูปแบบใหม่ คือการมอบหมายให้อยู่ในความรับผิดชอบของฆราวาส สมาชิกอยากรับใช้ พวกเขาค้นพบของประทานของตนเอง และรับใช้ตามของประทาน พอคริสตจักรเพิ่มขึ้น ศบ.คนเดียวไม่เพียงพอ คริสตจักรได้ คนงานใหม่ๆ มาจากสมาชิก มิได้มาจากนอกคริสตจักร ส่วนมากมักเป็นคนสูงอายุ ออกจากงานอาชีพของตนแล้ว มารับใช้เต็มเวลา สาเหตุเพราะพวกเขาไม่มีเวลาไปเข้าโรงเรียนพระคริสตธรรม บางคนมีบ้าน มีหนี้สิน ลูกหลานอยู่ในโรงเรียน จากครอบครัวตัวเองไม่ได้ คริสตจักรจะเปิดโรงเรียนสอนพระคัมภีร์ในโบสถ์ ฝึกฝนกันในคริสตจักรเลย ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่ คณะจะสถาปนาใครทำงาน เขาจะต้องจบการศึกษาจากวิทยาลัยพระคริสตธรรม “ครับ คนที่เป็นศาสตราจารย์ (Professor ) อย่างผมจะตกงานครับ”


(4) คริสตจักรที่มุ่งทำงานรับใช้แบบใหม่ (New Ministry Focus)
ผู้นำคริสตจักรยุคเก่าก่อน (Traditional Leader) มักจะมองอะไร ๆ ในภาพที่เกิดในปัจจุบัน และอ้างถึงสิ่งที่เคยกระทำมาในอดีต แต่ผู้นำคริสตจักรยุคใหม่ เขาแลเห็นอะไร ๆ ในปัจจุบัน และมองไปข้างหน้าสู่อนาคต ผู้นำรุ่นเก่า ในงานฟื้นฟูเขาจะเอารูปผู้ก่อตั้งคริสตจักรมาติดไว้เป็นที่ระลึก แต่ผู้นำรุ่นใหม่ อดีตจบไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แวคเนอร์ เล่าว่า “ผมถามผู้นำคนหนึ่งว่า เมื่อปี 1995 คุณมีกลุ่มเซลล์กี่กลุ่ม เขากลับตอบผมว่า ในปี 1998 เขาจะมี 800 เซลล์ เขามิได้คิดถึงแม้แต่ปัจจุบัน เขาขับเคลื่อนโดยนิมิต”


(5) คริสตจักรที่มีการนมัสการแบบใหม่ ( New Worship Styles )
ในอดีต ผู้นมัสการจะปรบมือในที่ประชุมไม่ได้ วันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว คริสตจักรเลค อเวนิว ที่ผมเคยอยู่ เป็นคริสตจักรอนุรักษ์นิยม ตลอด 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีการร้องเพลงที่แต่งใหม่ในศตวรรษที่ 20 เลย พวกเขาร้องเพลงที่แต่งมาตั้งแต่บุราณกาล สมัยคุณปู่คุณทวด


(6) คริสตจักรที่มีรูปแบบการอธิษฐาน แบบใหม่ (New Prayer Form )
ในคริสตจักร พวกเขาจะอธิษฐานโดยการออกเสียงพร้อม ๆ กัน (Concert Prayer ) แถมบางครั้งอธิษฐานเป็นทำนองเพลงเสียด้วย พวกเขาจะออกไปอธิษฐานในชุมนุมชน เช่น นมัสการพาเรด การเดินอธิษฐาน การอธิษฐานสัญจร พวกเขาจะอธิษฐานโดยมุ่งสู่เป้าหมาย ( Target Prayer ) ทูลขอตรงเป้า อธิษฐานแบบบุก


(7) คริสตจักรที่มีการเงินแบบใหม่ ( New Financing )
คริสตจักรรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเงิน เพราะเงินมักจะไหลมา ทำไมล่ะ? ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์ ให้เหตุผล 2 ประการ คือ พวกเขาถูกสอนให้ถวายสิบลด (tithes) หากคุณเป็นคริสเตียนคุณสัตย์-ซื่อกับลูก คุณต้องสอนเขาเรื่องการถวายสิบลด
การถวายทำให้ได้รับประโยชน์ทุกฝ่าย คริสตจักรได้รับประโยชน์ และตัวของผู้ถวายก็ได้รับประโยชน์เดียวกัน คนที่ถวายจะมีการเงินดี การถวายเหมือนการหว่านเมล็ดพืช พระเจ้าทรงอวยพระพรกลับมาสู่ผู้ถวาย พวก เขาถูกสอนให้ถวายด้วยใจยินดี


(8) คริสตจักรที่มีการประกาศแบบใหม่ ( New Outreach )
เขาจะไม่สนใจมองตนเอง แต่เขาจะมองไปข้างนอก การตั้งคริสตจักรลูกจะเป็นเรื่อง ธรรมดา ๆ ของเขา เช่นเดียวกับการอธิษฐานเผื่อคนป่วย เขาจะส่งคนออกไปปลูกคริสตจักร เขาจะช่วยคนยาก คนจน การประกาศเป็นงานสำคัญ นี่เป็นเหตุผลที่คริสตจักรของเขาโตเร็วที่สุด


(9) คริสตจักรที่ใช้ฤทธิ์เดชแบบใหม่ ( New Power Paradigm)
เป็นคริสตจักรที่นำความจริงมาใช้เป็นภาคปฏิบัติให้เห็น คนใหม่ อาศัยการเห็นประจักษ์ตา มากกว่า เหตุผล คริสตจักรใหม่จะอธิษฐานเผื่อผู้ป่วย ขับผี ทำสงครามฝ่ายวิญญาณ

ทั้ง 9 ประการนี้ เป็นรูปแบบของเพิ่มพูนคริสตจักรในยุคใหม่นี้ ที่ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์ ได้บรรยาย





 









Visitor 152

 อ่านบทความย้อนหลัง