มหัศจรรย์วันคริสตมาส


ศบ.


“เพราะ​ว่า​ไม่​มี​สิ่ง​หนึ่ง​สิ่ง​ใด​ซึ่ง​พระ​เจ้า​ทรง​กระทำ​ไม่ได้” (ลูกา 1:37)
วันนี้คริสตจักรจัดคริสตมาส เป็นวันที่พระเยซู เสด็จมาประสูติในโลกนี้ พระองค์ประสูติในครรภ์ของมารีย์ หญิงสาวพรหมจารี อันเป็นความจริงอันเหลือเชื่อ จนมีวาทะนี้จากทูตสวรรค์ว่า “เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้”

 


ผมจะเล่าเรื่องนี้ก่อน
หกเดือนก่อนหน้านี้ เอลิซาเบธ ญาติของมารีย์ ซึ่งเป็นหมันมาตั้งแต่สาว ๆ จนชรา เรียกได้ว่าหมดหวังที่จะมีบุตร เพราะประจำเดือนก็หมดไปแล้ว คนรุ่นนี้ไม่มีใครมานั่งคุยเรื่องการมีลูกมีเต้ากันแล้ว ได้ตั้งครรภ์อย่างอัศจรรย์ การตั้งครรภ์ของเอลิซาเบธ เป็นตามคำบอกกล่าวของทูตสวรรค์ ซึ่งมาปรากฏแก่เศคาริยาห์ ปุโรหิตชรา ขณะเข้าเฝ้าพระเจ้าในพระวิหาร ครับ ตื่นเต้น และลิโลดกันไปทั้งครอบครัว


ช่วงนั้น ที่นาซาเร็ธ เมืองที่อยู่มาทางตะวันตกของทะเลสาบกาลิลี มีหญิงสาวน่ารักคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงอ่อนหวานแต่มั่นคง มารีย์อยู่ในโอวาทพ่อแม่ เป็นคนร่าเริง เจ้าบทเจ้ากลอน ชื่นชอบพระคำ รู้ความเป็นมาของชาติของตนเป็นอย่างดี เธอเป็นคู่หมั้นของโยเซฟ หนุ่มช่างไม้นิสัยดี รักพระเจ้า โยเซฟเป็นคนในเชื้อวงศ์ดาวิด หมั้นหมายกันแล้วก็คงรอแต่ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย


ขณะที่เอลิซาเบธ ตั้งครรภ์ได้หกเดือน ท้องกำลังอ่อน ๆ อยู่นั้น ทูตสวรรค์กาเบรียล อันเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายการข่าว หรือมีเดียของสวรรค์ ก็มาปรากฏกับเธอ บอกว่าเธอเป็นที่โปรดปรานยิ่งนัก เธอจะคลอดลูกเป็นชาย ให้ตั้งชื่อลูกว่า “เยซู” บุตรนั้นจะเป็นใหญ่ และจะทรงเรียกว่าเป็นบุตรพระเจ้าสูงสุด เธอก็แย้งทูตสวรรค์ว่า “เป็นไปได้อย่างไร เพราะเธอยังไม่ได้ร่วมกับชายเลย” ทูตสวรรค์บอกเธอว่า เธอจะตั้งครรภ์โดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ “ดูซิ นางเอลิซาเบธ ญาติของเธอชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์ มีบุตรชายด้วย บัดนี้ นางนั้นที่คนเขาถือว่าเป็นหญิงหมัน ก็มีครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้”
มารีย์ทูลว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นไปตามคำของท่าน”

 


แล้วในที่สุด มารีย์ก็คลอดพระเยซู ทารกน้อยในวันคริสตสมภพ เป็นทารกพิเศษ ที่บังเกิดโดยมารีไม่ได้สมสู่กับโยเซฟ แต่ประสูติโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์


เมื่อพระเจ้าสร้างโลก สร้างพืช สัตว์ และคนเรา ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง พระองค์ทรงควบคุมด้วยกฎ ที่เราเรียกว่ากฎวิทยาศาสตร์ หรือกฎธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดอาจฝืนกฎเหล่านี้ได้ และพระเจ้าก็ไม่ประสงค์ให้สิ่งใดฝืนกฎของพระองค์ เราจึงรู้จักกฎธรรมชาติเหล่านี้ ว่าแน่นอนอย่างไร เราทายมันถูกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เรายึดถืออย่างมั่นคง จนบางคนพูดอย่างนี้ว่า “ผมเชื่อในวิทยาศาสตร์ ผมไม่เชื่อพระเจ้า” ราวกับพระเจ้าแยกจากวิทยาศาสตร์อย่างนั้นแหละ


แต่ในการปกครองคนเรา ผู้มีศีลธรรม รู้ผิดรู้ถูก รู้ดีรู้ชั่ว ผู้เลือกได้อย่างอิสระ มนุษย์ภายใต้การปกครองของพระองค์ ได้ดำเนินชีวิตออกนอกทาง ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ทรงหาวิธีนำมนุษย์ให้กลับมาหาพระองค์ พระองค์ต้องตัดสินพระทัยทำสิ่งพิเศษ เป็นการอัศจรรย์ ให้คนเราได้รับการช่วยเหลือ ให้การปกครองของพระองค์บรรลุผลสูงสุด


พระเจ้าทรงสัญญาให้อับราฮามมีลูกหลานมากมาย ดารดาษเหมือนดาวบนฟ้า แต่ซาราย ภรรยาของท่านเป็นหมัน และชราแล้ว ถึงเวลาพระเจ้าก็เปิดครรภ์นางซารายอย่างอัศจรรย์ แย้งกฎทางการแพทย์ เพราะเธอได้อิสอัคมาเมื่อเธอมีอายุ 90 ปี อับราฮาม มีอายุ 100 ปี ประจำเดือนของเธอก็ขาดไปนานแล้วสำหรับพระเจ้านั้น ไม่มีสิ่งใดยากเกินพระองค์ เพื่อให้เป็นไปตามพระประสงค์ พระเจ้าทรงกระทำได้เสมอ


พระเจ้าเปิดครรภ์ นางเอลิซาเบธ ภรรยาของอิสอัค เปิดครรภ์นางราเชล ภรรยาของยาโคบ เปิดครรภ์นางฮันนา คุณแม่ของซามูเอล เปิดครรภ์ของเอลิซาเบธ คุณแม่ของยอห์น ผู้ให้บัพติสมา ทั้งที่เธอเป็นหมันและเป็นคนสูงวัยไปแล้ว ทูตสวรรค์นำเรื่องการตั้งครรภ์ 6 เดือน มาหนุนใจมารีย์ “เพราะไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้”


เมื่อโมเสสพาคนยิวนับล้านออกจากอียิปต์ จะไปยังคานาอัน พวกเขาไปถึงตำบลปีหะหิโรท ไปติดบกอยู่ที่นั่น ข้างหน้าเป็นทะเลแดง ฟาโรห์เปลี่ยนพระทัย คาดว่าจะฆ่าหมู่คนยิวครั้งใหญ่ แต่พระเจ้าทรงบัญชาให้โมเสสชูไม้เท้าขึ้น ทำให้น้ำทะเลแยกออก ตั้งชันขึ้นเป็นกำแพงสองข้าง เป็นทางบนดินแห้ง คนยิวเหล่านั้นจึงเดินข้ามทะเลไปได้ พอคนยิวขึ้นฝั่งไปหมด พระเจ้าก็ให้น้ำทะเลไหลกับคืนมา ท่วมกองทัพรถม้าของฟาโรห์ที่ตามไล่ล่ายิว ลงไปในดินแห้งของทะเลตายหมด วิทยาศาสตร์จะอธิบายเรื่องเหล่านี้อย่างไร ปกติน้ำเป็นของเหลว จะตั้งชันขึ้นอย่างนี้ไม่ได้ แล้วมันจะยากอย่างไร สำหรับพระเจ้าผู้สร้างกฎวิทยาศาสตร์เหล่านี้ ถ้าพระองค์จะทำสิ่งพิเศษเพื่อบรรลุพระประสงค์ของพระองค์


พระเจ้าให้โยชูวาพาคนยิวเดินล้อมรอบเมืองเยรีโค 6 วัน ๆ ละรอบ พอวันที่เจ็ด ก็ให้เดิน 7 รอบ ชาวเยรีโคที่อยู่บนกำแพงเห็น ก็คงพากันหัวเราะ กิ๊ก กั๊ก ยิวพวกนี้มาทำอะไรกัน กำแพงเมืองสร้างด้วยหินก้อนมหึมา อยากเข้ามาก็น่าจะหาบันได หรือเชิงเทินมีล้อลากเข้ามาเทียบ ปีนเข้ามา มาเดินวนรอบ ไร้ประโยชน์ แต่เมือครบตามที่พระเจ้าทรงบัญชา พวกยิวโห่ร้องขึ้นพร้อมกัน กำแพงเยรีโคแข็งแกร่งก็พังคืนลงมาอย่างเหลือเชื่อ วิทยาศาสตร์อธิบายอย่างไร สำหรับพระเจ้า เรื่องเหลือเชื่อเกิดง่ายดาย
ตอนกองทัพของโยชูวาสู้รบกับคนอาโมไรต์ ขณะที่การศึกกำลังได้เปรียบ โยชูวากราบทูลพระเจ้าขอให้ดวงอาทิตย์หยุดนิ่ง “ดวงอาทิตย์ก็หยุดนิ่งอยู่กลางท้องฟ้า หาได้รีบตกไปตามเวลาประมาณ 1 วันไม่” (ยชว 10:14) นักดาราศาสตร์จะอธิบายว่ายังไง เหลือกำลังมนุษย์แต่ไม่เคยเหลือกำลังพระเจ้า


ตอนเป็นเด็ก ผมเคยไปเยี่ยมพี่น้องที่ บ้านยวนแหล เมืองคอน พร้อมกับคุณแม่ และอาจารย์เสริญ บ้านแกรอดจากไฟป่า ที่โหมลามมาทางบ้านแก เพราะสามีภรรยาชวนกันอธิษฐาน แกเล่าว่า ถึงตอนหนึ่งลมมันตีกลับ บ้านแกจึงปลอดภัย พระเจ้าทรงทำได้ทุกสิ่ง
ตอนที่ยิวไปเป็นเชลยศึกอยู่ที่เปอร์เซีย กษัตริย์ดาริอัส ทรงพอพระทัยดาเนียลมาก แต่พระองค์ทรงหลงกลพวกที่อิจฉา จงเกลียดจงชังดาเนียล ให้พระองค์ออกกฎห้ามราษฎรไหว้พระอื่นนอกจากพระองค์ ใครฝืนให้จับคนนั้นโยนลงในถ้ำสิงโต ให้สิงโตกัดกิน ฟังดูดี จงรักภักดีต่อกษัตริย์มาก แต่ดาเนียลต้องอธิษฐานถึงพระเจ้า พวกที่หาเหตุเหล่านั้นนำเรื่องนี้ไปฟ้องกษัตริย์ดาริอัส พระองค์ถึงรู้ว่าเป็นแผนของคนพวกนี้ พระองค์จำต้องโยนดาเนียลลงไปในถ้ำสิง พูดกันตามวิชาสัตวศาสตร์ ดาเนียลต้องเหลือแต่กระดูกแน่นอน แต่พระเจ้าปิดปากสิง ทั้งคืน ดาเนียลรอดตายอย่างอัศจรรย์ มนุษย์ทำไม่ได้หรอก แต่สำหรับพระเจ้ามันคือเรื่องง่ายดายครับ
พระเจ้าทรงเป็นใหญ่เหนือธรรมชาติ เปโตรและอันดรูว์หาปลามาทั้งคืน ไม่ได้ปลาสักตัว ซักอวนอย่างผิดหวัง แต่เมื่อพระเยซูชวนพวกเขาออกไปจับปลา ให้ถอยเรือไปที่น้ำลึก กลางวันแสก ๆ พวกเขาได้ปลามากถึงสองลำเรือ แปลว่าอะไร สำหรับมนุษย์ สำหรับชาวประมง เป็นไปไม่ได้ สำหรับพระเจ้ามันจะยากอะไร


พระเยซูเปิดตาคนตาบอด เปิดปากคนใบ้ รักษาคนหูหนวก คนโรคเรื้อน ช่วยให้คนง่อยเดินได้ ปลดปล่อยคนจากการที่ผีเข้าสิง รักษาเด็กเป็นลมชัก เรียกคนตายให้ฟื้นขึ้น มีอีกมากมาย ทรงเปลี่ยนน้ำเป็นน้ำองุ่นท้าทายนักเคมี ดำเนินบนน้ำทะเล ท้าทายนักฟิสิกส์ พระคัมภีร์บันทึกเรื่องการอัศจรรย์เต็มไปหมด การที่นางมารีย์ จะตั้งครรภ์โดยไม่มีการสมสู่กับชายใด จะไปยากอะไรสำหรับพระองค์ วิชาแพทย์บอกว่าการปฏิสนธิในครรภ์สตรี เกิดได้อย่างเดียวเท่านั้น คือต้องมีอสุจิของชาย ผสมกับไข่ของหญิง แต่ทูตสวรรค์อธิบายสั้น ๆว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาบนเธอ และฤทธิ์เดชของผู้สูงสุดจะปกเธอ เหตุฉะนั้นบุตรที่เกิดมานั้นจะได้เรียกว่าวิสุทธิ์ และเรียกว่าพระบุตรของพระเจ้า” (ลูกา 1:35) “เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้” (ลูกา 1:37)


ผู้เชื่อแต่ละคน เรามาถึงทางตันบ่อย ๆ
เราอาจเหมือน สตรีหลายคนที่เป็นหมัน เราอาจชราเกินที่จะทำโน่นทำนี่ให้สำเร็จ ตามประสามนุษย์ ผมเคยเล่าเรื่องยอร์จ โฟร์แมนนักมวยที่เคยเป็นแชมป์โลกวัยหนุ่ม ภายหลังเขากลับใจใหม่ เข้ามาเป็นคริสเตียน ยอร์จ รับใช้พระเจ้าเป็นศิษยาภิบาล เขาต้องการเงินมาสงเคราะห์เด็ก ยอร์จ ไม่มีเงิน จึงคิดว่าตนน่าจะไปชกมวยอีกที เพื่อได้แชมป์โลกรอบสอง วัย 40 กว่า ใคร ๆ ก็ว่ายอร์จ แก่เกินขึ้นชกกับคนหนุ่ม แต่เขาเชื่อพระเจ้าช่วยเขาได้ แล้วก็เป็นจริง เขาฟิตซ้อม และคว้าแชมป์โลกหนที่สอง ได้เงินมาช่วยสงเคราะห์เด็ก เป็นคนชราที่สุดที่คว้าเชมป์โลกรุ่นแฮฟวี่เวท เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้
วันนี้บางคนประสบปัญหาเรื่องการเงิน ยากเกินกำลัง แต่มันก็ไม่เคยยากเกินความสามารถของพระเจ้า เมื่อสาวกไม่มีเงินเสียภาษีบำรุงพระวิหาร พระเยซูให้พวกเขาไปตกปลา ปลาตัวแรกที่ตกได้ เปิดปาก มีเหรียญ หนึ่งเชเขล อยู่ในปากปลา (มัทธิว 17:27) เมื่อสาวกไม่มีอาหารเลี้ยงคน นับหมื่นที่มาฟังพระเยซู พระองค์เสกขนมปัง 5 ก้อนกับปลา 2 ตัว เลี้ยงพวกเขากินอิ่มทุกคน แถมยังเหลืออีก พระเจ้าให้เราสร้างศรัทธวิหาร ราคาไม่น้อยกว่า 30 ล้านบา ขณะที่เรามีแค่เงินแสนในกระเป๋ามิใช่หรือ เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้


วันนี้ ท่านอาจเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรก็ตาม อาจเป็นโรคร้ายที่วิชาแพทย์บอกว่าหมดหวังแล้ว ไม่มีใครแย้งศาสตร์ของวิชาแพทย์ วิชาสรีรวิทยา วิชาเภสัช หรือวิชาพยาธิวิทยา แต่สิ่งที่เกินกำลังมนุษย์ ก็ยังไม่เกินพระกำลังของพระเจ้า นี่เป็นเหตุที่ตลอดปีที่ผ่านมา คริสตจักรได้รับประสบการณ์ฤทธิ์เดช เรื่องการหายโรคมากที่สุด ภรรยาและผมเป็นผู้รับสิทธิพิเศษอย่างหนึ่ง คือเราได้นั่งทานข้าวเที่ยงกับคนใหม่ ๆที่มาโบสถ์ และเราได้ยินคำพยานการหายโรคของพี่น้องหลายคนทุกอาทิตย์ สองอาทิตย์ที่แล้ว พี่น้องท่านหนึ่งเป็นพยานว่าพระเจ้ารักษาเธอจากการเป็นมะเร็งขั้นที่สามอย่างอัศจรรย์ การอัศจรรย์ในชีวิตเธอนำให้เพื่อน ๆ หลายคนมารู้จักพระเจ้าไปด้วย ท่านอย่าหมดหวังน่ะครับ มนุษย์อาจสิ้นหวัง แต่อย่าลืมว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้
ปัญหาเรื่องวัตถุ เงิน ร่างกาย เป็นเรื่องหนึ่ง สิ่งที่ยากยิ่งกว่านั้น คือเรื่องจิตใจ การนำคนเย่อหยิ่งให้ถ่อมใจนั้นยากนัก การนำคนที่ไม่สนใจใยดีกับเรื่องฝ่ายวิญญาณมาหาพระเจ้านั้น จนปัญญายิ่งกว่าสิ่งใด


ครั้งหนึ่ง พระเยซูพยายามนำเศรษฐีหนุ่มมาหาพระองค์ พระองค์ตรัสบอกเขาด้วยพระทัยสงสารว่า จงไปขายสิ่งสารพัดที่มีอยู่ แจกแกคนอนาถา และตามพระองค์มา เขาหน้าสลด จากพระองค์ไป พระองค์ตรัสว่า “เศรษฐีจะเข้าสวรรค์ก็ยากนักหนา ตัวอูฐลอดรูเข็มยังง่ายกว่า” สาวกจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้” พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า “ฝ่ายมนุษย์เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง” (มัทธิว 19:26) อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับใครนะครับ ท่านทำอะไรไม่ได้ ก็ขอให้อธิษฐาน ไม่เกินพระกำลังของพระเจ้า นี่คือพระดำรัสของพระเยซูเอง


คริสตมาสปีนี้ ผมขอฝากกับทุกท่านน่ะครับว่า พระเยซูคือบุรุษมหัศจรรย์ มหัศจรรย์ตั้งแก่การบังเกิดของพระองค์ ถ้าเราเชื่อเหมือนอย่างมารีย์ ไม่สงสัย วางใจพระองค์ พร้อมให้พระเจ้าใช้เรา “ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นไปตามคำของท่าน” ชีวิตของท่านจะประสบการอัศจรรย์ เกินศาสตร์ทั้งหลาย


ลองคิดซิ ตอนที่พระเยซูประสูติในคอกวัว มารีย์อุ้มพระกุมารเธอรู้สึกอย่างไร ที่คือพระบุตรพระเจ้า นี่คือทารกที่ปฏิสนธิ เจริญขึ้นในครรภ์ ประสูติโดยฝืนวิทยาศาสตร์โดยสิ้นเชิง ไม่มีมนุษย์คนไหนอธิบายได้ แต่ ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้ จริงแล้วพระเจ้าข้า

สุขสันต์วันคริสตมาส

 



Visitor 247

 อ่านบทความย้อนหลัง