อับราฮาม ปั้น ลูก

ศบ.

 

อับราฮาม  ปั้น  อิสอัค

 

    วันพ่อปีนี้  ผมฝากบทความเรื่อง  พ่อ  อย่างอับราฮามสอนอิสอัค  

 

การเกิดอิสอัค  เป็นอัศจรรย์จากพระเจ้า  

 

            เป็นที่รู้กันดีว่า  กว่านางซารายจะคลอดลูกแห่งพระสัญญานั้น   อับราฮามมีอายุ  100 ปี  ส่วนซารายนั้นอายุ 90 ปี  ทั้งสองหมดสิทธิ์มีลูกโดยสิ้นเชิง  นอกจากความชราของทั้งสอง  ผนวกกับ ซารายเป็นหมันมาตั้งแต่ยังเป็น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร  แต่พระเจ้าซิทรงสัญญาว่า  อับราฮามจะเป็นบิดาของมวลชน   เป็นพ่อที่จะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง  แล้วอับราฮามก็คาดหวังเช่นนั้นเสียด้วย   ประมาณว่าพระสัญญานี้มาถึงอับราฮามตั้งแต่ท่านอายุประมาณ 70 ปี  ครั้นเวลาผ่านไปปีต่อปี  ปีแล้วปีเล่า  รอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ  ใครเห็นก็คงนึกขำ  ตายายคู่นี้  แก่จะเข้าโลงอยู่แล้ว ยังฝันเฟื่อง  ฟุ้งเฟื้อ  แต่อับราฮามยังฝันไม่เลิก  ซารายเองก็คงทุกข์ใจ  เพราะเธอมีลูกให้สามีไม่ได้  

 

   1.  ตั้งชื่อว่า “หัวเราะ”

            หนึ่งปี ก่อนที่ทั้งสองจะได้อิสอัค มีทูตสวรรค์มาเยี่ยมทั้งสอง และทำนายว่า ปีหน้า เดือนนี้ซารายจะมีลูก  ซารายแอบฟังทูตสวรรค์อยู่ในเต็นท์หลังบ้าน ได้ยินเข้าก็อดหัวเราะไม่ได้  ทูตสวรรค์ได้ยินนางหัวเราะ ก็บอกนางว่า  อย่าหัวเราะ  เรื่องนี้จะเป็นจริง แล้วก็เป็นจริงดังคำทำนาย นางตั้งครรภ์ยามชรา  วัยที่ประจำเดือนหมดไปตั้งแต่นานนม  บรมไกล  พอนางคลอดอิสอัค   นางถึงตั้งชื่อนี้ก็เพราะ นางหัวเราะ  อิสอัค  แปลว่า หัวเราะ   


                                 

 

  อิสอัคโตขึ้น มีชื่อว่า “หัวเราะ”ติดตัว บอกให้รู้ว่า ชีวิตนี้เหลือเชื่อ ที่เกิดมาได้นั้นก็เพราะพระเจ้า ไม่ใช่สามัญอย่างคนอื่น ๆ  ผมว่าดีนะ ถ้าคนเราระลึกอยู่ได้เสมอว่า  ที่เราเป็นอยู่วันนี้ นะ ก็เพราะพระเจ้า ไม่ใช่ปัญญามนุษย์  ถ้าเราที่เป็นผู้เชื่อตระหนักอยูว่าที่เราเป็นสาวกพระเยซู  ได้ก็เพราะพระองค์ทรงเรียกเรา ทรงรักเรา ทรงตามหาเรา  เหมือนผู้เลี้ยงตามหาแกะ และวันนี้เราเป็นผู้เชื่อได้ถือว่า เป็นชีวิตมหัศจรรย์  เราก็คงไม่ลืมพระคุณ  จริงไหม  

 

     นางซาราย ยังเห็นว่าชื่อนี้พลอยทำให้คน ซึ้งใจพระเจ้าไปด้วย  เพราะนางว่า “ทุกคนที่ได้ฟังก็จะพลอยหัวเราะด้วย    นางกล่าวว่า “ใครจะพูดกับอับราฮามได้ว่า  ซาราห์จะให้เด็กกินนม  แต่ดิฉันก็ได้คลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่าน  เมื่อท่านชราแล้ว”  ไอ้พวกที่เคยหัวเราะเยอะจะได้เงียบเสียง เงียบเหมือนเป่าสาก ส่วนพวกที่ตะลึงจะได้ยิ้มออก ว่า “จริงเว้ย เฮ้ย” ท่านคือบุรุษ สตรีมหัศจรรย์ของพระเจ้า ที่โลกตะลึงยังไงล่ะ

 

2. ให้มีสัญญลักษณ์ติดตัว

 

       พอเกิดมาได้แปดวัน  อับราฮามก็ให้ลูกชายเข้าสุหนัต ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาท่าน (ปฐมกาล 21:3) นอกจากมีชื่อติดตัวแล้ว ยังมีสัญลักษณ์ติดกาย พระเจ้าเคยบัญชาอับราฮามให้เข้าสุหนัต และตรัสต่อไปอีกว่า  ให้ลูกหลานเหลนโลนทำตามทั้งหมด  เพื่อเป็น”พันธสัญญาระหว่างพระองค์กับอับราฮาม” (ปฐกาล 17:10)  พันธสัญญาเรื่องอะไร  ก็เรื่องว่าพระองค์จะอวยพรให้มีลูกหลานมากเหมือนดาวบนฟ้า  จะให้มีดินแดน เมื่ออับราฮามมอบให้พระองค์เป็นพระเจ้า  อับราฮามทำตาม  และทำให้อิสอัคด้วย   

 

      อิสอัคไปทำอะไรที่ไหน  นอกจากชื่อแล้ว  เขารู้ดีว่า  ตัวเขานั้นเป็นคำมั่นสัญญาที่พ่อปลูกฝังไว้ให้รู้ว่า  เขาต้องเชื่อถือพระเจ้าตลอดไป ผมนึกถึงวัยเด็กของผม  ผมโตในบ้านที่มีการประชุมเสมอ  มีผู้รับใช้มาพักบ้าน  มีการจัดคริสตมาส   ฝึกร้องเพลงคริสเตียน  มีพระคัมภีร์เป็นของขวัญไม่รู้กี่เล่ม  ฝึกออกไปประกาศ  เรียนรวีฯ เรียนโรงเรียนคริสเตียน มาโดยตลอด   ถามว่าทั้งหมดนี้พ่อแม่ต้องการอะไร ท่านต้องการปลูกฝังพวกลูก ๆ ทุกคนให้เอาพระเจ้าเป็นที่หนึ่ง  สัญลักษณ์ติดตัวอาจไม่ใช่สุหนัต  แต่เป็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยังไงล่ะ  พอทุกข์  พอเจ็บไข้ได้ป่วย ลูกก็ร้องเรียกพระเจ้า   

 

     พระเจ้าสอนให้คนยิว เขียนบัญญัติ  ติดไว้ในบ้าน เขียนที่ทางเดิน ในห้องนอน ห้องนั่งเล่น จารึกที่หว่างคิ้ว พันที่ข้อมือ (ฉธบ 6:7)  เมื่อผมแต่งเพลง  ผมคิดถึงเรื่องนี้เสมอ พระเจ้าสั่งโมเสสว่า  สอนเพลงให้พวกยิว  เวลาพวกเขาเข้าไปในคานาอันแล้ว  เจอการทดลอง  ล่อแหลม หมิ่นเหม่จะทำผิด เพลงที่ร้องติดปากจะได้ช่วยเตือน (ฉธบ 31:19) พูดง่าย ๆ คือมีอะไรใช้เตือนใจลูกได้  พระเจ้าสอนให้เราใช้มันทั้งหมด   

                                        

 

     3.  ให้มีประสบการณ์ ที่จำจนวันตาย

 

           พระเจ้าทรงบัญชาให้ อับราฮาม พาอิสอัค ขึ้นไปบนภูเขโมริยาห์  ถวายเครื่องบูชา เหมือนถวายลูกแกะ สองคนพ่อลูกก็พากันขึ้นไป  อิสอัคไม่เห็นพ่ออุ้มแกะมาสักตัว  สงสัย จึงลั่นปากถามพ่อ ว่า ฟืนก็พร้อม ไฟก็มี แกะอยู่ที่ไหน  อับราฮามบอกว่า   “พระเจ้าจัดเตรียมไว้แล้ว” ครับ  ในความคิดของอับราฮาม  อิสอัค ลูกแห่งพระสัญญา  ลูกสุดที่รักคนเดียว ลูกแห่งความหวังใจสู่อนาคต คนนี้นี่แหละ จะถวายเป็นแกะบูชาพระเจ้า  จนกระทั่งถึงยอดเขา  อับราฮามใช้เชือกมัดมืออิสอัค ให้นอนคว่ำ เงื้อมมีดจะฆ่าอิสอัค พระเจ้าจึงตรัสห้าม ตรัสว่า “บัดนี้ เรารู้แล้วว่า เจ้ามิได้หวงบุตรชายคนเดียวไว้จากเรา  อย่าฆ่าเด็กนี้ “ แล้วพระองค์ก็เตรียมลูกแกะตัวหนึ่งไว้ที่นั่นแล้ว   

 

                                       

 

        สิ่งที่อิสอัคได้รับบทเรียนวันนั้น คือ นี่คือพ่อที่เชื่อพระเจ้าจริง พ่อที่เชื่อฟังพระดำรัส โดยปราศจากเงื่อนไข  พ่อที่รักพระเจ้ายิ่งกว่า บ้านที่ฮาราน พ่อที่เชื่อพระองค์มากกว่าธุรกิจ ยิ่งกว่าความมั่งคั่ง ยิ่งกว่าชื่อเสียง ยิ่งกว่าสิ่งใด ๆในโลก  แม้แต่ตนเอง รักพระเจ้าต้องรักเป็นที่หนึ่ง  และนี่คือบทเรียนที่พ่อสอบผ่าน สุดยอดพ่อ คนเรามักมีอะไรที่เรารัก หวง ชอบ โปรด เป็นสิ่งที่ใครมาแตะไม่ได้ อาจเป็นหน้าตา เกียรติยศ วงศ์ตระกูล  ทรัพย์สมบัติ ตำแหน่ง ความสนุกสนาน เกมส์กีฬา พ่อแม่  ลูก หรือ แฟน บุคคลที่เป็นนัมเบอร์วันสำหรับเรา เป็นสิ่งที่เราทุ่มเทชีวิต เวลา ทรัพย์  แรงกายใจ ให้ ซึ่งไม่ใช่พระเจ้า ครับสิ่งนั้นแหละมันคือพระเจ้าของเรา พระเยซูตรัสว่า ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะเราจะรักนายฝ่ายหนึ่ง และชังนายอีกฝ่ายหนึ่ง  ท่านจะรักพระเจ้า และรักเงินทองพร้อมกันไม่ได้   


                         

 

อิสอัค  กำลังจะเป็น “พระ”  ขึ้นมาในใจอับราฮาม แต่แล้วอับราฮามก็ผ่านการทดสอบ พระเจ้ายังคงเป็นที่หนึ่งสำหรับท่าน  ฉันใดฉันนั้น  ต่อแต่นี้ไป  ชีวิตของอิสอัคต้องมีพระเจ้าเป็นที่หนึ่งเช่นเดียวกัน ความรักพระเจ้าของพ่อ  เป็นมรดกชิ้นสำคัญที่มอบให้ลูก เป็นมรดกที่ต้องจดจำจนตราบเท่าวันตาย 

 

      ก่อนจบ  ผมจะเล่าว่า อิสอัค  ได้สิ่งต่างเหล่านี้มาแต่พ่อ

 

     อิสอัคเป็นลูกที่อยู่ในโอวาท เชื่อคำสัญญาที่พระเจ้าตรัสกับพ่อ  เวลาเลือกคู่ครอง  เรบาคาห์  ภรรยาที่ท่านแต่งงานด้วย  เธอคือสตรีที่รักพระเจ้า  เรบาคาห์  เป็นหมันไม่มีลูกให้ท่านนานถึง 20  ปี  อิสอัคมีความเชื่ออย่างที่พ่อเคยมี  ท่านหนุนใจเรบาคาห์  และทูลขอให้พระเจ้าเปิดครรภ์ภรรยาของท่าน  และพระเจ้าตอบคำอธิษฐาน (ปฐมกาล 25:21) ประสบการณ์ที่พ่อเคยมีกับพระเจ้า  อิสอัคสัมผัสด้วยตนเอง  อิสอัคสนิทสนมกับพระเจ้าเป็นส่วนตัว พระเจ้าตรัสกับท่านเรื่องลูกแฝดในครรภ์ ของเรบาคาห์  อิสอัคเป็นไม้สองที่รับพระสัญญาไปยังยาโคบ ผู้เป็นต้นตระกูลพร ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง 

 

    คุ้มค่าที่พ่อปั้น  สมราคาที่พ่อสอน  

 

       สุขสันต์วันพ่อครับ 



Visitor 452

 อ่านบทความย้อนหลัง