นิมโรด และ หอบาเบล

ศบ.

 

   พระ​คัมภีร์​จึง​กล่าว​ว่า ​“พระ​เจ้า​ทรง​ต่อสู้​ผู้​ที่​หยิ่ง​จองหอง  แต่​ทรง​ประทาน​พระ​คุณ​แก่​คน​ที่​ใจ​ถ่อม” (ยากอบ 4:6 ) ผมชอบอ่านหนังสือ และดูหนังประวัติศาสตร์  ซึ่งทุกวันนี้มีให้ชมได้มากใน YouTube และ CD ดูแล้ว ก็ได้เห็นเรื่องราวคล้าย ๆ กัน ที่เกิดมาแล้วในอดีต  ดูตอนต้น แล้วไปดูตอนจบ   ก็จะเห็นสัจจธรรม ของพระคัมภีร์  คือ คน หรือชาติที่รุกรานคนอื่น  ข่มเหง รังแกผู้เล็กน้อย ที่ไร้ทางสู้  บั้นปลายก็จบร้ายทุกรายไป  ตรงกันข้าม   คนที่ถ่อมใจ  เมตตาช่วยเหลือคนอื่นอย่างจริงใจ  แม้จะเริ่มต้นจนยากเพียงไร   ก็ได้ดีเสมอ  คนที่ทะนงตัว ถือว่าตนเองเก่ง  สามารถ  ยกตนข่มท่าน  ไม่เชื่อพระเจ้า หรือพระดำรัส  ก็เหมือนงัดข้อต่อพระเจ้า  ที่สุด ก็ล้มลง ตรงกันข้าม  ผู้ที่ถ่อมจิตใจยกย่องพระเจ้า  ท้ายที่สุด ก็จะเจริญรุ่งโรจน์  ทำไมจึงลงเอยอย่างนี้เสมอ ก็เพราะพระเจ้าผู้ปกครองสูงสุด ทรงทอดพระเนตรจากสวรรค์   และพระองค์เป็นผู้สยบคนผยอง แต่ทรงยกย่อง  เชิดชู ผู้ถ่อมใจ

 

                  วันนี้ผมอยากพูดเรื่อง  ความถ่อมใจ   

 

                  อย่าได้เอาอย่างนิมโรด ที่ทะนงตน สร้างหอบาเบล

 

1. คนถ่อม  ไม่หลงตัวเอง  

 

           “นิมโรด เป็นคนแกล้วกล้าบนแผ่นดิน” พระคัมภีร์ฉบับอธิบาย ว่า “เป็นนักรบเกรียงไกรผู้หนึ่งของโลก” (ปฐก. 10:8)  ถ้าทำเป็นหนัง ก็จะเห็นว่า เขาคนเดียวสู้คนได้เป็นสิบ  ศัตรูใช้ดาบ ใช้หอก  เขาอาจใช้แค่ไม้พลองอันเดียว  ฆ่าคนพวกนั้นเรียบวุฒิ  นิมโรดแกล้วกล้า ไม่กลัวใคร รบเก่ง ไม่แพ้ใคร  ความสามารถของเขาโด่งดัง ล่ำลือ เป็นที่รู้กันทั่วไป เรียกว่าเป็น  “อัศวิน”  ก็ได้  คนหนุ่มก็ยกนิ้วให้เป็นฮีโร่  เอาเขาเป็น “ไอดอล” สาว ๆ ก็อยากได้เป็นแฟน  คนเก่งที่ได้รับการยกย่อง  เป็นที่นิยมชมชอบ  ก็ง่ายที่จะตกลงในหลุมของการทะนงตัว  เซนต์ เบอร์นาด แคลวอก  กล่าวว่า “การถ่อมตัว ตอนตกต่ำ ไม่แปลกอะไร  แต่การถ่อมตัวตอนที่ท่านได้รับการเชิดชู   สิหาได้ยากยิ่ง” สังคมจะยกเราแค่ไหน  ที่สำคัญเราต้องไม่หลงตัวเอง  เพราะในสายพระเนตร คนเราไม่แตกต่างอะไรกันมากมายนัก  มีผู้กล่าวว่า “ภูเขาสูง อาจทำให้เนินเขาละอาย  แต่ทั้งภูเขาและเนินเขา ก็แค่นั้นแหละเมื่อเทียบกับดวงดาว”             


                                         

 

2.  คนที่ถ่อมตัว  ตระหนักว่าความสามารถที่เรามีนั้นมาจากพระเจ้า

 

นิมโรด  เป็นพรานยิ่งใหญ่ แสดงว่าตนมีพรสวรรค์ในการล่าสัตว์  อาจเป็นนักธนูที่ยิงได้แม่นยำ  มีทักษะในการเล็งเป้าหมาย  รู้ว่าตำแหน่งใดเป็นจุดอ่อนของสัตว์  ว่องไว คล่องแคล่ว  มีไหวพริบ  มีกำลังกายที่แข็งแรง ออกเดินป่าคราใด ก็ได้เนื้อกวาง อีเก้ง กลับมามากกว่าใคร  ซึ่งเขาควรขอบคุณพระเจ้าในความสามารถของตน “เป็นพรานยิ่งใหญ่ต่อพระพักตร์พระเจ้า”  ฉบับอธิบายใช้ว่า “เป็นพรานเก่งกาจที่สุด” แปลอีกอย่างคือ “เก่งกับพระเจ้า” คนเรามีตะลันแตกต่างกัน  เช่น ยิงปืนแม่น  ร้องเพลงเพราะ  วาดเขียนเก่ง  ทำอาหารอร่อย  คิดเลขเร็ว  พูดเก่ง ฯลฯ  เราต้องตระหนักว่า  ความสามารถเหล่านี้  พระเจ้าเป็นผู้ทรงประทานให้  คนที่ถ่อมใจ ต้องยกย่องเชิดชูพระองค์  เปาโลกล่าว  “ผู้ใดเล่าทำให้ท่านวิเศษกว่าคนอื่น  ท่านมีอะไรที่ท่านมิได้รับมา  ก็เมื่อท่านได้รับมา  เหตุไฉนจึงโอ้อวด เหมือนกับว่าท่านมิได้รับเลย” ( 1 คร. 4:7)

 

3. คนที่ถ่อมตน  สร้างแผ่นดินพระเจ้า

 

    นิโรดได้ชื่อว่า  เป็นผู้สร้างอาณาจักรคนแรกของโลก  “อาณาจักรแรก ๆ ของนิมโรดนั้น  คือ  เมืองบาบิโลน  เมืองเอเรก  เมืองอัดคัด  ทั้งสามเมืองนี้อยู่ในแผ่นดินชินาร์  นิ​มโรด​ไป​จาก​ประเทศ​นั้น​ยัง​แผ่นดินอัส​ซีเรีย สร้าง​เมือง​นี้เมืองนีนะเวห์ ​เมือง​เรโหโบท​อีร์​ เมือง​คา​ลาห์​  และ​เมือง​เร​เสน​ซึ่ง​อยู่​ระหว่าง​เมือง​นี​นะเวห์​กับ​เมือง​คา​ลาห์ ​เมือง​นี้​เป็น​เมือง​ใหญ่​”  (ปฐก. 10:10-12)  พระเยซู สอนให้สาวกอธิษฐาน ว่า “ขอให้แผ่นดินของพระเจ้ามาตั้งอยู่”  คนที่ถ่อมใจมุ่งสร้าง อาณาจักรของพระเจ้า  ไม่ใช่อาณาจักรของตนเอง  เรามีพระองค์เป็นกษัตริย์  เป็นประมุข  แผ่นดินของพระเจ้า  คือ ให้คนเข้ามาเป็นราษฎรของพระองค์ ยกย่องเทิดทูนพระองค์  ด้วยความทะนงตัว  นิมโรดมุ่งสร้างอาณาจักรของตนเอง  ห้คนยกย่องตนเอง   

 

4. คนที่ถ่อมตน  ทำอะไรตามน้ำพระทัย

 

นิมโรด  สร้างหอบาเบล  ตามความคิดเห็นของตนเอง  พระเจ้ามีพระประสงค์ให้ ลูกหลานของโนฮาห์ กระจัดกระจายกันออกไป ในทิศต่าง  ๆ ในโลกกว้าง แต่ นิมโรดต้องการรวบรวมไว้ ณ ที่แห่งเดียวกัน  นิมโรดไม่สนใจในพระดำรัส  คนที่ถ่อมใจ  สนใจทำตามพระทัยพระเจ้า อยากเรียนรู้พระวจนะ  และปฏิบัติตาม “พระของพระองค์สำเร็จในสวรรค์อย่างไร ขอให้สำเร็จในแผ่นดินโลกเหมือนกัน“ พระเยซูมีพระมหาบัญชาให้สาวกออกไปประกาศ   สั่งสอนคนให้เป็นสาวก  การถ่อมจิตใจ  ต้องมุ่งทำตามน้ำพระทัย

 

5. คนที่ถ่อมใจ  ทำอะไรพึ่งพระเจ้า

 

“แล้ว​ต่าง​คน​ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า “มา​เถิด เรา​จง​ทำ​อิฐ เผา​ให้​สุก​แข็ง” เขา​จึง​มี​อิฐ​ใช้​ต่าง​หิน และ​มี​ยาง​มะ​ตอย​ใช้​ต่าง​ปูน​สอ​ เขา​ทั้ง​หลาย​จึง​ว่า “มา​เถิด เรา​จง​สร้าง​เมือง​ขึ้น​และ​ก่อ​หอ​ให้​ยอด​เทียม​ฟ้า..”  เป้าหมายก็เป็นของนิมโรด  วิธีการทำงานก็เป็นของนิมโรด  ฟรานซีส  เชฟเฟอร์  กล่าวว่า “งานของพระเจ้า  ต้องทำโดยวิธีของพระเจ้า” เวลาพระเจ้าต้องการให้คนรอดจากน้ำท่วมโลก พระเจ้าทรงบัญชาให้โนฮาห์ต่อนาวา  เวลานิมโรดหาวิธีหนีน้ำท่วม  นิมโรด 


                                        

 

ก่อหอสูงเทียมฟ้า เวลาพระเจ้าช่วยให้คนรอดจากการพิพากษา พระองค์บัญชาให้คนกลับใจใหม่ วางใจในการไถ่โทษโดยไม้กางเขน  เวลามนุษย์อยากรอดบาป  เราทำบุญล้างบาป  เราถือศีลกินเจ ตามวิธีการที่เรามโนเอาเอง การรับใช้พระเจ้าก็เช่นเดียวกัน  บ่อยครั้งเราทำงานของพระเจ้าโดยวิธีของเรา กำลังของเรา พระเยซูตรัสว่า “งานของพระเจ้า นั้นคือ  การที่ท่านวางใจในท่านที่พระองค์ทรงใช้มา” (ยอห์น 6:29) แน่นอน  เมื่อเราวางใจ  เราย่อมไม่กระวนกระวาย งุ่นง่าน  เพราะเราเป็นผู้ทำร่วมกับพระเจ้า

 

6. คนที่ถ่อมใจ ต้องให้พระเจ้าได้รับเกียรติ

 

      เมื่อพวกเขาสร้างหอบาเบล เป้าหมายของเขาคือ “มา​เถิด เรา​จง​สร้าง​เมือง​ขึ้น​และ​ก่อ​หอ​ให้​ยอด​เทียม​ฟ้า ให้​เรา​ทำ​ชื่อเสียง​ไว้ มิฉะนั้น​เรา​จะต้อง​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว​พื้น​แผ่นดิน” (ปฐก. 11:4)  หอบาเบล  สร้างให้สูงเทียมฟ้า เพื่อชื่อเสียงผู้สร้าง  เป็นการสร้างเย้ยฟ้าท้าดิน  ไม่ได้สร้างเพื่อพระเจ้าสักนิด เราสมควรมุ่งช่วยคน มุ่งให้พระเจ้าได้รับการยกย่อง จอห์น เฮ็นรี่  โจเวทท์ กล่าวว่า” เราไม่จำเป็นต้องเป็นดาว เพื่อส่องแสง เพราะดวงเทียน  ต่างหากที่ทำให้  หญิงคนหนึ่งค้นพบเหรียญที่หายไปของเธอ”  ให้เรามุ่งถวายพระเกียรติ ไม่ใช่ เพื่อชื่อเสียงในโลก  ผมจำกลอนสมัยเรียนได้

 

                 “พฤษภกาสร    อีกกุญชรอันปลดปลง

                โททนต์เสน่งคง   สำคัญหลายในกายมี

                นรชาติวางวาย    มลายสิ้นทั้งอินทรี

                 สถิตทั่วแต่ชั่วดี   ประดับไว้ในโลกา”

        ครับ อย่ามุ่งอยู่ที่ชื่อตนจะถูกจารึก   แต่มุ่งที่พระสิริพระเจ้า

 

7.    พระเจ้าต่อสู้ผู้หยิ่งจองหอง แต่ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ

 

      เป็นไปได้ที่มีคน อย่างเปเลค หรือ อับราม  ลูกหลานตระกูล เชม  ตักเตือนนิมโรด  แต่เขาไม่ฟัง หลายคนเชื่อว่า อับราม  เกิดทันนิมโรด  อับรามฟังพระเจ้า เมื่อพระเจ้าทรงบัญชาให้อับรามออกไปสร้างประเทศใหม่ท่านเชื่อฟัง และพระเจ้าประทานพระพรมากมายแก่ท่าน   


                    

 

  หอบาเบลที่สูงเสียดฟ้า พังพินาศและสร้างไม่สำเร็จ  เมื่อพระเจ้าทำให้พวกเขาไม่สามารถสื่อสารกัน พวกเขากลายเป็นคนต่างภาษา  เท่านั้น  งานก็ล้มลงทันที “มา​เถิด​เรา​จง​ลง​ไป ทำ​ให้​ภาษา​ของ​เขา​วุ่นวาย​ต่างกัน​ไป อย่า​ให้​เขา​พูด​เข้าใจ​กัน​ได้” พระ​เจ้า​จึง​ทรง​ทำ​ให้​เขา​กระจัด​กระจาย​จาก​ที่​นั่น​ไป​ทั่ว​พื้น​แผ่นดิน คน​เหล่า​นั้น​ก็​เลิก​สร้าง​เมือง​นั้น​  เหตุ​ฉะนี้​จึง​เรียก​เมือง​นั้น​ว่า​บา​เบล” (ปฐก. 11:7)

 

      เป็นบทเรียนให้เรารู้ว่า  เราต้องคำนึงถึงพระประสงค์  ถ่อมใจ  มุ่งเทิดเกียรติพระเจ้า  ต่างหาก เราจึงได้รับพระพร  และพระคุณจากพระองค์       



Visitor 593

 อ่านบทความย้อนหลัง