คำพยากรณ์ เป็นจริงได้อย่างไร

 

ศบ.


​ มีคำทำนาย เรื่องการประสูติของพระกุมาร ล่วงหน้านับพันปี ในเทศกาลคริสตมาสนี้ จะขอเล่าว่า คำทำนายในพระคัมภีร์ เรื่อง พระคริสต์มาบังเกิด บันทึกไว้ สำเร็จอย่างไรอย่างแม่นยำอย่างไร

1. พระคริสต์ จะประสูติจากครรภ์ของหญิงพรหมจารีย์
(อิสยาห์ 7:14) “เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานหมายสำคัญเอง ดูเถิด หญิงสาวคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่า อิมมานูเอล”
เป็นจริงอย่างไร


พระเจ้าทรงเลือก มารีย์ หญิงสาวพรหมจารี ในเมืองนาซาเร็ธ (ลูกา 1: 30-31) ​ทูตสวรรค์บอก​เธอ​ว่า “มารีย์​เอ๋ย อย่า​กลัว​เลย เพราะ​เธอ​เป็น​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​โปรด​ปราน​แล้ว​ ดู​เถิด เธอ​จะ​ตั้งครรภ์​และ​คลอด​บุตร​ชาย จง​ตั้ง​ชื่อ​บุตร​นั้น​ว่า​เยซู” มารีย์ประหลาด ทัดทานว่า “เป็นไปได้อย่างไร เพราะเธอยังมิได้ร่วมกับชายไม่” แต่ทูตสวรรค์ก็ว่า “เธอจะตั้งครรภ์โดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์” (ลูกา 1:34-35) ดูซิ สิ่งที่พระเจ้าทรงมุ่งหมาย พระองค์ก็ทรงกระทำให้สำเร็จตามนั้น


2. เธอจะคลอดบุตรเป็นชาย
(อิสยาห์ 7:14 ) “ ดูเถิด หญิงสาวคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง”
เป็นจริงอย่างไร (ลูกา 2:6-7) “เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่มารีย์​จะ​ประสูติ​บุตร​ นาง​จึง​ประสูติ​บุตร​ชาย​หัวปี เอา​ผ้าอ้อม​พัน​และ​วาง​ไว้​ใน​ราง​หญ้า เพราะ​ว่า​ไม่​มี​ที่​ว่าง​ให้​เขา​ใน​โรงแรม​”
เธอจะคลอดบุตร “ชาย” ในวิชาแพทย์ แม่จะคลอดลูกเป็นชายหรือหญิงนั้น มีความเป็นไปได้ ครึ่งต่อครึ่ง แม้จะมีสถิติจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ก็ไม่ต่างจากนี้มากนัก ครับ โดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ บุตรคนนี้ของเธอเป็นชายครับ

3. พระเยซูจะบังเกิดจาก เผ่ายูดาห์ ตระกูลของเจสซี จากวงศ์ของดาวิด
มาดูวงศ์ตระกูลของ พระเยซูบ้าง
ยาโคบ มีลูก 12 คน ในคำอวยพรพวกลูก ๆของตนนั้น ยาโคบทำนายว่า พระเยซูจะเกิดในตระกูลยูดาห์ “ธารพระกรจะไม่ขาดไปจากยูดาห์ ..จนกว่าชีโลห์จะมา และชนชาติทั้งหลายจะเชื่อฟังผู้นั้น” (ปฐมกาล 49:10) “จะมีหน่อแตกออกมาจากตอของเจสซี” (อิสยาห์ 11:1) แท้จริง เจสซี มีบุตร 8 คน แต่พระคัมภีร์ก็ทำนาย ระบุว่าพระองค์จะประสูติในวงศ์ของดาวิด (เยเรมีย์ 23:5)
เป็นจริงอย่างไร


ตอนนั้น มารีย์เป็นคู่หมั้น ของ โยเซฟ หนุ่มช่างไม้ เป็นคนดี โยเซฟ อยู่ในเชื้อวงศ์ของดาวิดครับ ดูได้จากลำดับพงศ์ที่มัทธิว บันทึก ว่าต้นวงศ์ของพระเยซู คือ ดาวิด (มัทธิว 1:6,16) “โอเบด​มี​บุตร​ชื่อ​เจสซี​ 6 เจ​สซี มี​บุตร​ชื่อ​ดาวิด​ผู้​เป็น​กษัตริย์ … 16 ยาโคบ​มี​บุตร​ชื่อ​โยเซฟ สามี​ของ​นาง​มารีย์ ​พระ​เยซู​ที่​เรียก​ว่า​พระ​คริสต์​ก็​ทรง​บังเกิด​มา​จาก​นาง​มารีย์​นี้”


หมอลูกา ก็บันทึกไว้เช่นเดียวกัน (ลูกา 3:23,31-32) “ 23 ฝ่าย​พระ​เยซู … ตาม​ความ​คาดหมาย​ของ​คน​ทั้ง​หลาย เข้าใจ​ว่า​เป็น​บุตร​โยเซฟ ซึ่ง​เป็น​บุตร​เฮ​ลี​...โยงไกลไปสู่อดีต 31- เป็น​บุตร​นาธัน ๆ เป็น​บุตร​ดาวิด​ 32 ดาวิด​เป็น​บุตร​เจสซี”


เป๊ะไหม ? แม้ พระเยซูจะเป็นบุตรนางมารีย์ที่ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอ โดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่ “ตามคาดหมายของคนทั้งหลาย” โยเซฟ ซึ่งเป็นคู่หมั้น ที่ยังไม่ได้อยู่กินกับนาง(มัทธิว 1:18) ถูกนับว่าเป็นพ่อของพระเยซู (ลูกา 4:22) โยเซฟ ท่านอยู่ในวงศ์ดาวิดครับ เปาโล ยืนยันเรื่องนี้ด้วย “ข่าว​ประเสริฐ​นั้น​เกี่ยวกับ​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์ คือ​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา ผู้​ทรง​บังเกิด​เป็น​มนุษย์​สืบ​เชื้อ​สาย​จาก​ดาวิด​” (โรม 1:3)


4. พระเยซูจะประสูติที่หมู่บ้านเบ็ธเลเฮม
มีคาห์ 5:2 “โอ เบธเลเฮม เอฟ​ราธาห์ แต่​เจ้าผู้​เป็น​หน่วย​เล็ก​ใน​บรรดา​ตระกูล​ของ​ยูดาห์ จาก​เจ้า​จะ​มี​ผู้​หนึ่ง​ออกมา​เพื่อ​เรา เป็น​ผู้​ที่​จะ​ปกครอง​ใน​อิสราเอล..” เป็นที่รู้กันท่ามกลางธรรมาจารย์ ว่าพระคริสต์จะบังเกิดที่เบธเลเฮ็ม เมื่อพวกนักปราชญ์มาถึงเยรูซาเล็ม ถามว่า “ผู้เป็นพระคริสต์จะบังเกิดแห่งใด” พวกธรรมาจารย์ ทูลกษัตริย์เฮโรดได้ทันทีว่า “พระคริสต์จะเกิดที่บ้านเบธเลเฮ็ม แคว้นจูเดีย” (มัทธิว 2:4-5)


แล้วคำทำนายก็สำเร็จ “ ​พระ​เยซู​ได้​ทรง​บังเกิด​ที่​บ้าน​เบธเลเฮม ​แคว้น​ยูเดีย” (มัทธิว2:1)​
ดูตามรูปการณ์แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดได้ง่าย เพราะ โยเซฟ และมารีย์ ทั้งสองอยู่ที่เมืองนาซาเร็ธ ห่างจากเบธเลเฮ็มไปทางเหนือประมาณ 160 กม. สมัยนั้น การเดินทางโดยใช้ลา กินเวลาประมาณ 3 วัน มารีย์ท้องแก่ ใกล้คลอดไม่มีเหตุจะต้องเดินทางลงมายังเบธเลเฮ็ม เพราะยิ่งสุ่มเสี่ยงกับการเจ็บครรภ์และคลอดระหว่างทาง


สมัยนั้นซีซาร์ ออกัสตัส ที่กรุงโรม ซึ่งปกครองอาณาจักรโรมันอยู่ พระเจ้าทรงดลใจ ซีซาร์ ให้ออกคำสั่งเรื่องการจดทะเบียนสำมะโนครัว ยังผลให้ผู้คนพากันไปยังบ้านเกิดของตนเพื่อจดทะเบียน โยเซฟ และมารีย์ อยู่ในวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด ชาวเบธเลเฮ็ม ทั้งสองจึงต้องเดินทางไปยังเบธเลเฮ็ม อย่าลืมน่ะ เวลาพระเจ้าทำการสิ่งใดเพื่อเรา บางครั้งพระองค์เริ่มมาแต่การดลใจผู้นำรัฐบาล หรือประเทศในภูมิภาคของทวีป หรือบางทีก็เริ่มมาแต่ เศรษฐกิจแย่ลงของโลกก็ย่อมได้

 


ทำไม พระเยซูประสูติในคอกวัวที่ต่ำต้อยเหลือเกิน
นึกภาพเอาก็แล้วกัน คนเผ่ายูดาห์ พงศ์พันธุ์เจสซี จำนวนมาก ที่อยู่ต่างถิ่น แห่กันไปจดทะเบียนที่นั่นพร้อมกัน ทำเอา โรงแรมทุกที่ในหมู่บ้านถูกจองไว้เต็มหมด เมื่อโยเซฟมารีย์ไปถึงที่นั่น จึงหาที่พักไม่ได้ เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งเห็นภาพ มารีย์ท้องแก่จวนคลอดเต็มที จึงเอื้อเฟื้อให้ใช้คอกสัตว์ เป็นที่พัก เธอถึงได้เอาผ้าอ้อมพันพระกุมารวางไว้ในรางหญ้า ที่เขาใช้ใส่อาหารสัตว์ อะไรมันจะลงตัวปานนั้น เชื่อหรือไม่ เวลาพระเจ้าทรงทำนาย และพระองค์ทรงนำพาก่อให้เกิดตามสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้ อะไร ๆ ที่ดี ๆ สำหรับเรา มันก็ช่างลงตัวไปหมด การประสูติในที่ต่ำต้อย เป็นพระทัยพระบิดา เพื่อให้เห็นว่าพระองค์พร้อมช่วยคนสามัญได้


5. จะมีพวกนักปราชญ์ มาถวายเครื่องบรรณาการ สดุดี 72:10 “ขอ​บรรดา​พระ​ราชา​แห่ง​เมือง​ทาร​ชิช​และ​ของ​เกาะ​ทั้ง​ปวง ถวาย​ราช​บรรณาการ ขอ​บรรดา​พระ​ราชา​แห่งเช​บา และ​เส​บานำ​ของ​กำนัล​มา”
เป็นจริงตามคำทำนาย “ภายหลัง​มี​พวก​โหราจารย์​จาก​ทิศ​ตะวันออก​มายัง​กรุง​เยรูซาเล็ม ถาม​ว่า​ “กุมาร​ผู้​ที่​บังเกิด​มา​เป็น​กษัตริย์​ของ​ชน​ชาติยิว​นั้น​อยู่​ที่​ไหน เรา​ได้​เห็น​ดาว​ของ​ท่าน​ปรากฏ​ขึ้น เรา​จึง​มา​หวัง​จะ​นมัสการ​ท่าน”


พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมธรรมชาติที่พระองค์ทรงสร้าง พระองค์สร้างดวงดาวบนท้องฟ้า พระองค์ทรงโปรดให้มีดาวดวงหนึ่ง ส่องแสงสว่างพิเศษ พวกนักปราชญ์ทางทิศตะวันออก เห็นดาวปรากฎก็อ่านออกว่า “มีพระผู้เป็นกษัตริย์ยิ่งใหญ่มาบังเกิดในโลก จากนั้น พวกเขาก็ออกเดินทางตามดาวดวงนี้มา เสาะหา จนพบพระกุมารที่เบธเลเฮ็ม จึงได้นำของขวัญมาถวายบรรณาการพระองค์ คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ (มัทธิว 2:11)


ดูซิ ตรงเป๊ะ ตามคำทำนายอีก โยเซฟ เป็นช่างไม้หาเช้ากินค่ำ เมื่อมารีย์คลอดพระกุมารแล้ว ก็คงต้องเช่าบ้านอยู่ที่เบธเลเฮ็ม เงินที่ติดกระเป๋ามาก็ต้องร่อยหรอลงทุกวัน ทั้งสองจะเอารายได้มาแต่ไหน โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปอียิปต์ นักปราญ์คือคนที่พระเจ้าส่งมาช่วยจุนเจืออย่างอัศจรรย์ อย่าลืมอีก เมื่อเราขัดสน หากเราดำเนินในน้ำพระทัย พระเจ้ามีวิธีของพระองค์ช่วยเราได้เสมอ
ทั้งหมดนี้เป็นบทเรียน


1. การเสด็จเข้ามาในโลกของพระเยซูคริสต์ เป็นแผนการอันทรงคุณของพระเจ้า เพื่อเรา


2. พระองค์ทรงดำริล่วงหน้า และเปิดเผยให้เราทราบตลอดมา


3. เพื่อให้เกิดขึ้นตามคำทำนาย พระองค์ทรงเลือกสรรวาระ และบุคคลที่เหมาะสมที่สุดเสมอ


4. หากพระเจ้าทรงเลือกให้เราทำแผนใดของพระองค์ เราต้องตอบสนอง เหมือนดังพระเจ้าเลือกมารีย์ และโยเซฟ และทั้งสองตอบสนองอย่างดี แผนนั้นจึงสำเร็จ บางครั้งพระเจ้าเลือกเรา ถ้าเราปฏิเสธ พระองค์ก็ต้องเปลี่ยนแผนไปใช้บุคคลอื่น ขณะที่คนในเยรูซาเล็มยุ่งขิงกับเรื่องของตน พระเจ้าอาจเลือกนักปราชญ์จากเมืองไกล เพื่อทำให้พระประสงค์สำเร็จก็ได้ คนใกล้อาจกินด่าง คนห่างอาจได้พร


5.เหตุการณ์ที่จะทรงให้เป็นไปตามแผนอันละเอียดอ่อนนี้ พระองค์ทรงควบคุม ให้เกิดขึ้นด้วยพระปัญญาล้ำเลิศ
เพื่อเพียงให้โยเซฟ พามารีย์มายังเบธเลเฮ็ม พระองค์สามารถทำงานในใจซีซาร์ที่กรุงโรม
6.เหตุการณ์ภายนอกที่ดูสุ่มเสี่ยง หมิ่นเหม่ กับความผิดพลาด พระเจ้าอาจให้เราเลือก เพื่อทำให้น้ำพระทัยสำเร็จสูงสุด การตัดสินนำภรรยาใกล้คลอดเดินทางไกลของโยเซฟ กลายเป็นการตัดสินใจที่ทำให้พระเจ้าได้รับเกียรติอันประเสริฐ



Visitor 547

 อ่านบทความย้อนหลัง