|
|
พลังในปีใหม่
ศบ.
“จงให้ชนชาติทั้งหลายฟื้นกำลังของเขาเสียใหม่” (อิสยาห์ 41:1)
วันนี้เป็นอาทิตย์แรกของปี 2019 ผมอยากพูดเรื่องการเสริมเรี่ยวแรงใหม่
เมื่อพระเจ้าสร้างสรรพสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายในโลก พระองค์ทรงสร้างให้เจริญเติบโตขึ้น โดยมีการเสริมสร้างขึ้นใหม่เป็นระยะ ๆ พระเจ้าให้เราลุกขึ้นตอนเช้า ทานอาหารเพื่อเสริมกำลัง ทำงานโดยใช้เรี่ยวแรง ความคิด เหมือนคนมีไฟ พอตกเย็น เราหมดกำลัง ความง่วงเข้ามาเยือน เหมือนมือถือแบตหมด เราต้องหลับนอนพักผ่อน ในยามค่ำคืน ทรงให้ดวงตะวันลับขอบฟ้า นกกาเข้านอน เป็นการบอกให้พักผ่อน นอนหลับ เหมือนการชาร์ตแบตมือถือ เพื่อฟื้นฟูเอากำลังใหม่กลับคืนมา สรรพสัตว์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน นกกาตอนเย็นกลับรัง เช้ามาก็โผผินบินไปหาอาหารอย่างตื่นเต้น ต้นไม้ก็มีการผลัดใบ พระเจ้าให้โลกมีมีฤดูกาล บ้านเรามีหน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว ถ้าเป็นเมืองนอก ก็มีทั้งฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิ ทรงให้โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์รอบหนึ่งก็กินเวลา 365 วัน เราถึงได้มีวันส่งท้ายปีเก่า และวันขึ้นปีใหม่
ในชีวิตประจำวัน เรามีเวลาของความสดชื่นเปล่งปลั่ง และการอ่อนแรง เมื่อเราขึ้นปีใหม่ แน่นอน พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราได้รับการเสริมกำลังใหม่ คนยิวอยู่ในการถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย กลับมาอยู่บ้านตนเองก็ถูกปกครองโดยต่างชาติ พวกเขาอ่อนกำลัง มองไม่เห็นอนาคต ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน พระเจ้าตรัสในอิสยาห์ บทที่ 40:1 ว่า “จงเล้าโลม เล้าโลมชนชาติของเรา” ในอิสยาห์ 41:1 ก็ว่า “จงให้ชนชาติทั้งหลายฟื้นกำลังของเขาเสียใหม่”
เรี่ยวแรงกำลังที่พวกเขาได้รับมาจากพระเจ้า ในภาษาอังกฤษคำว่า “Enthusiasm”ซึ่งแปลว่า “กระตือรือร้น” มาจาก คำ En หรือ In แปลว่า “ใน” และคำ “Theos” แปลว่า “พระเจ้า” แปลรวมกันทั้งหมด “Enthusiasm” แปลว่า “อยู่ในพระเจ้า” หรือ “กระตือรือร้น” เรื่องนี้ฝรั่งฉลาด หรือเขารู้ดีว่า คนเรากระตือรือร้น ได้โดยการอยู่ในพระเจ้า เข้ามาพึ่งพระเจ้า หรือเริ่มมาจากพระเจ้า
แน่นอน อิสยาห์ หวังใจว่าพระเยซูจะเสด็จมาบังเกิด เป็นพระเอกขี่ม้าขาว มาช่วยพวกเขา เท่านั้นแหละ คนยิวก็มีพลังขึ้นทุกขุมขน เลือดสูบฉีดแรงขึ้น จิตใจผงาดขึ้น โรเบิร์ท ชูเลอร์ กล่าวว่า ความคิดลบ ความบาป การสิ้นหวัง ปัญหารุมเร้าที่คิดไม่ตก แก้ไม่ได้ พาให้คนเราอ่อนแรงยิ่งกว่าสิ่งใด ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ ในพระองค์ ไม่มีสิ่งใดยากเกินแก้ ในพระเจ้ามีทางออกได้เสมอ วันนั้น อิสยาห์ทำนายว่าพระเยซูจะเสด็จมา วันนี้พระองค์เสด็จมาแล้ว การเชื่อวางใจในพระองค์จะทำให้เรามีเรี่ยวแรงกำลังสำหรับปีใหม่ “จงฟื้นกำลังของเขาเสียใหม่” อิสยาห์บทที่ 40 กล่าวว่า พระเยซูจะเป็นพลังให้เราอย่างไร
(1) ฤทธิ์ของพระองค์ คือ พลัง
“ดูเถิด พระเจ้าเสด็จมาด้วยอานุภาพ และพระกรของพระองค์ครอบครองเพื่อพระองค์” (อิสยาห์ 40:10) ในปีที่ผ่านมา เราสัมผัสปัญหาเกินแก้เยอะแยะ ปัญหาหนี้สิน ปัญหาความเข้าใจผิด ปัญหาการว่างงาน ปัญหาสุขภาพ บ่อยครั้งมันหนักเกินกำลัง เราผ่านปัญหามาอย่างใจหายใจคว่ำ ถามว่าปีใหม่จะมีปัญหาอย่างนี้อีกไหม ไม่มีใครรับรอง คิดแค่นี้ ใจก็หดหู่ลงแล้ว แต่มีคำรับรองอย่างหนึ่งคือ ถ้าเราพึ่งพระเจ้าผู้ครอบครองเราอยู่ พระองค์ทรงฤทธิ์ครับ จะทรงสมารถแก้ไขปัญหาที่เกินกำลังให้เราได้ “เพราะสิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ พระเจ้าทรงกระทำได้”
(2) ความรักห่วงใยของพระองค์ คือ พลัง
“พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์ พระองค์จะทรงอุ้มไว้ที่พระทรวง และทรงค่อยๆ นำบรรดาที่มีลูกอ่อนไป” (อิสยาห์ 40:11)
ปีกลายภรรยาและผมนั่งทานข้าวเที่ยงกับคนใหม่ มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ยังเป็นสาว หน้าตาดี แต่งงานกับสามี ทำธุรกิจด้วยกัน เธอเล่าว่า งานกำลังรุ่งโรจน์ เธอมีเงินทองเท่าไรก็เทกระเป๋าลงไปในงานนั้น โดยที่เธอไม่เคยระแคะระคายมาก่อน วันหนึ่งเธอแทบช็อค เขาไปรักผู้หญิงอื่น ทั้งขนข้าวของไปหมด เธอหมดเรี่ยวแรงเหมือนคนไร้วิญญาณ เราสองคนฟังเธอน้ำตาซึม ผมคิดว่าปัญหาคล้ายกันคงจะเกิดกับผู้หญิงไทยอีกไม่น้อย แล้วเธอจะวางใจชายใดในอนาคตได้อีก คิดแค่นี้ก็หมดพลังแล้ว เราได้แต่ชี้ให้เธอเห็นว่า มีผู้ที่รักเธอจริง ห่วงใยเธอจริง ไม่เคยผันแปร คือ “พระเยซู” เราไม่ได้การันตีอนาคตครอบครัวให้เธอ แต่เราการันตีว่า พระเยซู พระผู้เลี้ยง พระผู้อุ้มคนทุกข์ไว้ที่พระทรวง ผู้อ่อนโยน ผู้รักเธอจริงจะดูแลเธอ ผมชวนเขาให้เข้ามาอยู่ในพระเจ้า เราฝากน้องเขากับพี่น้องในกลุ่ม น่าทึ่งมาก เขาสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่าลืมน่ะครับ ปีใหม่นี้ เราจะมีกำลังเสมอ ก็เพราะเรารู้แน่ว่า พระองค์รักเรา ห่วงเราไม่เสื่อมคลาย
(3) ความรู้ของพระองค์ คือพลัง (อสย 40:13-14)
“ผู้ใดได้ให้กำหนดแก่พระวิญญาณของพระเจ้า หรือเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ให้คำแนะนำแก่พระองค์ พระองค์ทรงปรึกษาผู้ใดเพื่อพระองค์จะทรงรู้แจ้ง และผู้ใดสอนทางแห่งความยุติธรรมให้พระองค์ และสอนความรู้แก่พระองค์ และสำแดงให้พระองค์เห็นทางแห่งความเข้าใจ”
“ความรู้ คือพลัง” คือภาษิตที่เราได้ยินเสมอ ซึ่งแปลว่า ความรู้มีพลังมากกว่าการใช้แรงกำลัง ในที่ประชุม ทุกคนต้องเงี่ยหูฟัง ผู้มีความรู้ ความรู้ทำให้เราทำงานประสบความสำเร็จ แต่วันนี้คนในโลกแสดงความรู้ผิด ๆ ถูก ๆ เยอะแยะทางเฟสบุ๊ค หรือ อินเทอร์เนท โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเสียด้วย แล้วการเข้าใจผิด ก็พาเราลงเหวได้ เราต้องการความเข้าใจถูกต้อง เราต้องการคนรู้จริง เราต้องกุนซือผู้มีปัญญา ผู้สามารถทำนายอนาคตให้เราได้ด้วย เรื่องนี้ผมรับรองได้ว่า พระเยซูทรงเป็นปัญญาจารย์ล้ำเลิศที่สุด พระวจนะของพระเจ้า การดำเนินชีวิตเป็นแบบ และพระดำรัสของพระเยซู เป็นดั่งโคมส่องทางเดิน เมื่อเรารู้จริง เราก็ก้าวเดินอย่างมั่นใจ อย่างมีพลัง และสดชื่น พระองค์มิได้เป็นผู้สอนเราด้วยพระปัญญาเท่านั้น ทรงเปิดเผยให้เรารู้อนาคตด้วย “คนที่มองเห็นอนาคต ทายอนาคตออก ชี้ให้เห็นผลที่จะเกิดในอนาคต ย่อมทำให้ทุกคนฟังเขา” ตอนที่โยเซฟไปติดคุกอยู่ที่อียิปต์ เขาเล่าและแก้ฝันให้ฟาโรห์ทราบว่า ประเทศจะอุดมสมบูรณ์ 7 ปี และต่อมาจะแห้งแล้งนาน 7 ปี ทั้งยังแนะกษัตริย์ฟาโรห์ด้วยว่า จะให้ทำการเกษตรอย่างไรให้อียิปต์รุ่งเรือง ฟาโรห์ทรงเห็นปัญญาอย่างนี้ถึงได้ตั้งโยเซฟ เป็นนายกรัฐมนตรี ความรู้คือพลัง สาวกของพระเยซูห้าวหาญอย่างสิงห์ได้ ก็เพราะเขารู้ว่าสิ่งพระองค์ตรัสไว้ ไม่ผิดพลาดสักสิ่งเดียว ปีใหม่นี้ ให้เราอยู่กับพระคัมภีร์ และรับพลังประจำวันน่ะครับ
(4) การเข้าเฝ้าพระองค์ คือ พลัง (อสย 40:29-31)
“พระองค์ประทานกำลังแก่คนอ่อนเปลี้ย และแก่ผู้ที่ไม่มีกำลัง พระองค์ทรงเพิ่มแรง แม้คนหนุ่มๆ จะอ่อนเปลี้ยและเหน็ดเหนื่อย และชายฉกรรจ์จะล้มลงทีเดียว แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระเจ้าจะเสริมเรี่ยวแรงใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย”
เมื่อเปโตรท้อถอย หมดเรี่ยวแรง เขาชวนเพื่อนสาวกไปจับปลา ตอนนั้นพระเยซูทรงประทับอยู่ที่ชายฝั่ง เปโตรจำพระองค์ไม่ได้ พระองค์ตรัสสั่งให้เขาหย่อนวนลงข้างเรือ เขาทำตาม ได้ปลาจำนวนมาก เปโตรจึงรู้ว่าเป็นพระเยซู หลังจากขึ้นฝั่ง เปโตรสนทนากับพระองค์ ไม่กี่ประโยค เปโตรกลับมีเรี่ยวแรงกำลังขึ้น เป็นคนละคนเชียว คนเข้าเฝ้าพระเยซูจะมีกำลังเหมือนนกอินทรี พระเยซูตรัสว่า พระองค์เป็นต้น เราเป็นแขนง แยกจากพระองค์แล้ว เราทำอะไรไม่ได้เลย กิ่งแยกจากต้น ก็เหี่ยวแห้งเท่านั้น แต่ถ้าติดกับต้น น้ำเลี้ยงจะไหลผ่านทางท่อน้ำและอาหาร สดชื่นมีชีวิตชีวาขึ้นแน่นอน ปกติ อเล็ก เอลลี กล่าวว่า “การมีพลัง เป็นโรคติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือลบ ดังนั้นผมจึงระมัดระวัง ว่าใครจะมาอยู่ใกล้ผม” เราอยู่ใกล้คนขี้บ่น ท้อแท้ มองโลกในแง่ร้าย ไม่ช้าไม่นาน เราจะเริ่มบ่น ท้อถอยและมองโลกในแง่ร้ายตามไปด้วย ตรงกันข้าม ถ้าเราอยู่ใกล้คนที่เข้มแข็ง กล้าหาญ มีพลัง มองโลกในแง่ดี เราจะกล้าหาญตามไปด้วย ใกล้ชิดพระเจ้าโดยการเข้าเฝ้าพระองค์รับรองได้ว่า อย่าลืมนะครับปีใหม่นี้ ไม่ว่าเจะเผชิญอะไร เรามีพระเยซูผู้ทรงฤทธิ์ ทรงรักเรา ทรงรอบรู้ และทรงสามารถให้เรารับพลังพิเศษจากพระองค์ แล้วเราจะมีพลังทั้งปี อาเมน
|
|
|
