คุณนิภา มากสุริวงษ์

           ดิฉันชื่อ นิภา มากสุริวงษ์ อายุ 57 ปี ดิฉันเกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง ดิฉันเป็นคนเล็กในพี่น้อง 4 คน เอาแต่ใจตัวมาตั้งแต่เด็กเพราะเป็นคนสุดท้อง เมื่อแต่งงานสามีก็เอาอกเอาใจดิฉัน สามีดิฉันเป็นคนมีเงิน และมีชื่อเสียง ดิฉันใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยหรูหราในสังคมชั้นสูงหาความสุขให้ตัวเอง สามีดิฉันทำงานเก่ง มีลูกที่น่ารัก 2 คน ดิฉันมีพร้อมทุกอย่างทางด้านวัตถุ ตอนนั้นดิฉันเริ่มเล่นการพนัน ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ดิฉันเริ่มเล่นมากขึ้นจนสามีก็ทิ้ง และลูกทั้งสองก็พลัดพรากจากดิฉัน เงินที่มีอยู่ก็หมดไปเพราะการพนันและการเที่ยวเตร่ อนาคตดิฉันมืดสนิท ดิฉันตกอยู่ในสภาพคนที่ไร้ค่าต่อสังคมและครอบครัว วันหนึ่งดิฉันมีโอกาสมาโบสถ์ค่ะ ดิฉันได้เห็นความรักและใบหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุข ดิฉันประทับใจมาก ดิฉันไม่เคยพบความรักและความบริสุทธิ์ใจอย่างนี้จากที่ใด ดิฉันกลับมาอีก แล้วดิฉันก็รับพระเยซูเข้ามาไว้ในชีวิต 11 ปีแล้วที่ดิฉันดำเนินกับพระเจ้าความรักสันติสุขได้ครอบงำความทุกข์ทรมานไว้หมดสิ้น ชีวิตของดิฉันได้รับการเปลี่ยนแปลง เหล้า บุหรี่ การพนัน ดิฉันเลิกได้โดยเด็ดขาด ดิฉันได้รับชีวิตใหม่ ความหวังใหม่ มากกว่าที่เคยมีและเคยได้รับ พระเมตตาคุณของพระเจ้านั้นล้ำลึกเกินกว่าที่จะกล่าวค่ะ



คุณชะอิว เพ็งพารา

           บ้านเดิมเป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ดิฉันเป็นลูกคนเดียวในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่แยกทางกันตั้งแต่คุณแม่ยังไม่คลอดดิฉัน เมื่อดิฉันมีอายุได้ 3-4 ขวบ คุณแม่แต่งงานใหม่ และดิฉันพักอยู่กับคุณแม่และพ่อเลี้ยง ดิฉันขาดความรักและมีจิตใจขมขื่นต่อท่านทั้งสองอย่างมาก ยังจำได้ว่าครั้งหนึ่งพ่อเลี้ยงโกรธดิฉันมาก ท่านเฆี่ยนตีดิฉันอย่างรุนแรงทั้งคุณแม่ก็เห็นดีด้วย ดิฉันไม่พูดกับพ่อเลี้ยง และไม่ยอมรับว่าคุณแม่คือ แม่ ดิฉันกลายเป็นคนเก็บตัว, ไม่วางใจใครและย้ายออกไปพักกับคุณตาและคุณยายตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา หลายปีต่อมาดิฉันมาทำงานที่บริษัทส่งสินค้าออกไปต่างประเทศแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้รู้จักกับเพื่อนซึ่งเป็นคริสเตียนคนหนึ่ง เพื่อนคนนี้ได้เล่าเรื่องราวของพระเยซูให้ดิฉันฟัง และชักชวนดิฉันมาร่วมการประชุมคริสตจักรหลายครั้ง ดิฉันเริ่มรู้สึกมีความศรัทธาในพระเจ้า ดิฉันได้สังเกตุว่า เมื่ออธิษฐานก็ได้รับคำตอบและพระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงนิสัยหลายอย่างของดิฉัน ดิฉันเลิกซื้อหวย, มีความรักให้คนอื่น และกล้าเผชิญความจริงของชีวิตมากขึ้น วันหนึ่งพระเจ้าได้สำแดงให้ดิฉันมองเห็นความขมขื่นและการไม่ยอมยกโทษพ่อแม่ดิฉันได้กลับไปกราบขอโทษท่านซึ่งพระเจ้าได้นำให้ความรักและความสัมพันธ์ระหว่างดิฉันกับครอบครัวกลับคืนมา ทุกวันนี้ดิฉันมีความสุขและดีใจมากที่มาพบพระเยซู



คุณสุมาลี พรหมธาราวงศ์

           ดิฉันมด สุมาลี ดาราจำเป็นในรายการพิเศษนี้ ขออนุญาตแบ่งปันความรักของพระเจ้าด้วยคนนะค่ะ หวังใจว่าพี่น้องจะได้รับพระพรบ้างไม่มากก็น้อย ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามดเห็นถึงความเมตตาของพระเจ้าอย่างมากมายสำหรับคริสตจักรและโดยส่วนตัวมดเองด้วย ในระหว่างที่อยู่ไกลบ้านพระเจ้ามิได้อยู่ไกลจากมดเลยเช่นกัน และรู้สึกขอบคุณพระเจ้าอย่างมากที่มีโอกาสร่วมฉลองครบรอบ 31 ปี ก่อนกลับไปรับใช้พระเจ้าที่ประเทศอังกฤษในวันที่ 24 กันยายนนี้ ช่วงที่มดอยู่ทีอังกฤษ มดมีโอกาสได้เรียนรู้ถึงการไว้วางใจในพระเจ้าอย่างสุดโก่ง ซึ่งชี้ให้มดเห็นว่าแท้ที่จริงตลอดชีวิตของมดที่ผ่านมาไม่ได้อยู่โดยความสามารถของมดเลย แท้จริงทั้งหมดก็โดยพระเจ้า แต่ขณะที่เราดูเหมือนช่วยตัวเองได้นั้นเรามักเข้าใจว่านั่นโดยความสามารถของเราเอง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อมดมีโอกาสไปประเทศโดโซโว พระเจ้าได้ตรัสให้มดทำงานกับเด็ก ๆ และเพื่อนบ้าน ดังนั้นมดก็ถามพระเจ้าว่าจะทำอย่างไรดีของสติปัญญาด้วยเถิด มดเริ่มต้นจัดชมรมเด็ก โดยมีเด็กมาเข้าร่วม 42 คน มดสอนเพลงกลิ้งออกไป และพวกเขาก็สามารถร้องได้ไพเราะใกล้สำเนียงไทย อ้อที่โน่นเขาใช้ภาษาอาเบเนียน มีโอกาสเล่าเรื่องในพระคัมภีร์ เล่นกับเด็กๆ เป็นพยาน ซึ่งเมื่อต้นปี 1999 ที่โคโซโวเกิดสงครามและมดนั่งอยู่หน้าจอทีวีดูข่าวอยู่รู้สึกเศร้ามากและร้องไห้ และเริ่มอธิษฐานว่า พระเจ้ามดอยากไปโคโซโว อยากบอกพวกเขาว่า เขายังไม่สิ้นหวังเพราะพระเจ้าทรงรักพวกเขามากและมีแผนการที่ดีสำหรับพวกเขา หลังจากนั้นมดไปเรียนการเป็นสาวกของพระเยซู และทางโรงเรียนไม่ทราบว่าจะไปประกาศที่ไหน ดังนั้นพวกเรา 50 ชีวิตได้คุกเข่าลงถามพระเจ้าว่าจะให้ไปที่ไหน พระเจ้าได้สำแดงให้เราไปประเทศโคโซโวซึ่งเพิ่งผ่านพ้นสงครามการกดขี่ข่มเหงจากพวกเซิร์บเพราะนานาชาติได้ยื่นมือมาช่วย นั่นแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของมด มดมีโอกาสเป็นพยานเรื่องนี้แก่เด็กๆ และชาวบ้านด้วย ซึ่งพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใยที่พระเจ้าทรงมีต่อพวกเขาอย่างมากมาย ในชมรมเด็กของมดมีเด็กคนหนึ่งเกเรมาก ชอบใช้กำลังทำร้ายร่างกายคนอื่นๆ มดได้พูดดีๆ ชมความหล่อเหลาของเขาว่าเป็นลักษณะของคนดี เขาไม่ยอมรับคำชมของมด ดังนั้นมดจึงบอกเขาว่าเขาเป็นเด็กแย่มากกๆ ไม่น่ารัก (น่าเตะมากๆ) แต่พระเจ้าทรงรักเขามากถึงแม้เขาไม่น่ารักเลย เขาพยายามต่อต้านและต่อสู้มดตลอด แต่มดก็ย้ำกับเขาว่าถึงแม้เขาเป็นเด็กเกลียดมากแต่พระเจ้าทรงยังรักเขาอยู่ เขางงมากและก็ยิ้มออกมา มดชวนเด็กๆ อธิษฐานเผื่อเขา หลังจากนั้นเขากลับกลายเป็นเด็กดีและน่ารักด้วย ทุกวันหลังจากเหตุการณ์นั้น เขาจะเข้ามาหอมมดก่อนกลับบ้านเหมือนเด็กคนอื่นทุกคน มดอยากหนุนใจพี่น้องว่าแท้ที่จริงความรักของพระเจ้าต้องอดทนนานจริงๆ ชีวิตเราทุกคนมีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า ไม่มีใครด้วยค่า ถ้าเรากล้าลงทุนกับพระเจ้า อาจเป็นการถวายเวลาในการอธิษฐาน การถวายทรัพย์แม้เพียงสิบลดด้วยความสัตย์ซื่อ หรือถวายการรับใช้ตามตะลันต์ความสามารถที่เรามีอยู่ พระเจ้าผู้สัตย์ซื่อไม่เคยมองข้ามสิ่งที่เราถวายด้วยใจสัตย์ซื่อเช่นกัน

           ขอพี่น้องอธิษฐานเผื่อมดด้วยนะค่ะ และพี่น้องก็อยู่ในคำอธิษฐานของมดเช่นกัน



Visitor 77

 อ่านบทความย้อนหลัง