หมายสำคัญการเสด็จมา

 

 

 

 ศบ.

สิเมโอน  หนุนใจ มารีย์โยเซฟ

                   วันนี้  ผมอยากพูดเรื่อง สิเมโอน ผู้อวยพรพระกุมาร 

                 

 คริสตมาส ปีนี้ จบไปตั้งแต่เมื่อวาน เรามีความสุขมากในวันคริสตมาส  แต่วันนี้ คริสตมาสปีนี้ ก็ผ่านไปแล้ว  จากนี้ไปก็คงเก็บข้าวเก็บของ เก็บสิ่งที่นำมาตกแต่งในวันคริสตมาส  และเตรียมตัวต้อนรับปีใหม่ที่ดักหน้าเราเพียงไม่กี่วัน  สำหรับโยเซฟ  มารีย์ ก็คงย้ายจากคอกวัว ไปหาบ้านเช่าในเบธเลเฮ็ม  ดูแลพระกุมารเยซู ทีเพิ่งคลอด

               

  หมอลูกาเล่าว่า  ครบ 8 วัน ทั้งสองก็พาพระกุมาร ไปเข้าสุหนัต ที่พระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม   เบธเลเฮ็ม อยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มมาทางทิศใต้แค่ 9 กม   ทั้ง 2 ก็พาพระกุมารขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อถวายพระเจ้าตามบัญญัติของโมเสส   หมอลูกา เล่าว่าทั้งสองพบกับ คน 2 คน คือ สิเมโอน  และนางอันนา ซึ่งมิได้รู้จักกันมาก่อน  มิได้มีอะไรที่เกี่ยวพันกันเลย  ทั้งสอง สรรเสริญพระกุมาร  หนุนใจ โยเซฟ และนางมารีย์  พระคัมภีร์ได้บันทึกคุณสมบัติ ของสิเมโอนไว้พอสมควร  วันนี้ผมขอพูดเรื่องของท่านน่ะครับ

                 

   สิเมโอน กล่าวว่าอย่างไร

                 

 “ข้าแต่พระเจ้า  บัดนี้ พระองค์ทรงให้ทาสของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์  เพราะว่า ตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว  ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าบรรดาชนชาติทั้งหลาย  เป็นแสงสว่างแก่คนต่างชาติ  และเป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอล ชาติของพระองค์” (ลูกา 2:29-32) 

 

  ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังกล่าวแก่มารีย์ มารดาของพระกุมารว่า “ ทรงตั้งพระกุมารนี้ไว้เป็นเหตุให้หลายคนในอิสราเอลล้มลง  หรือยกตั้งขึ้น  และจะเป็นหมายสำคัญซึ่งคนปฏิเสธ  เพื่อความคิดของคนเป็นอันมากจะปรากฏแจ้ง ถึงหัวใจของท่านเอง ก็ยังถูกดาบแทงทะลุด้วย” (2:34-35)

                   

การกล่าว ถ้อยคำเหมาะเจาะหนุนใจ เตือนใจ ที่เป็นคุณ มีพลังมาก คำพูดที่ใช่ (right words) แก่บุคคลที่ใช่ (right person) ในเวลาที่ใช่ (right time)  เหมือนลูกธนูปักเข้าดวงใจ  

               

  เราเพิ่งผ่านวันคริสตมาส  มารีย์ โยเซฟ เพิ่งคลอดพระกุมารในคอกวัว  ถ้าจะคิดอะไรลบ ๆ  อย่างน่าท้อถอย ก็คิดไปได้ทั้งนั้น  “นี่หรือบุตรพระเจ้า  ทำไมเกิดอย่าทุลักทุเลอย่างนี้”  วันนี้ เมื่อทั้งสองพบ สิมเมโอน ทั้งสองได้รับคำหนุนใจ ที่ทำให้มั่นใจ และแช่มชื่น ทั้งเตรียมใจมารีย์ผู้ชุบเลี้ยงพระเยซู ให้มั่นใจจนถึงไม้กางเขนด้วย 

             

   เราคงอยากให้พระเจ้าใช้เรา  ให้หนุนใจคนอย่างสิเมโอนบ้าง  

               

 ผมอยากนำสิเมโอนมาเป็นบทเรียนครับ

 


 

              พระเจ้าทรงสามารถใช้ท่าน  

       

      พระเจ้าใช้ใครก็ได้  สิเมโอนมิได้เป็นปุโรหิตหรือเลวี ที่อยู่ในตำแหน่งอะไร  แต่พระเจ้าใช้ท่าน  บางคนคิดว่างานหนุนใจ เตือนสติคน อธิษฐานเผื่อคน ต้องเป็นงานของนักเทศน์  ของศาสนาจารย์  หรือคนที่มีวุฒิสูง  แน่นอน การเข้าสุหนัตของพระกุมารต้องทำโดยคนเลวี  แต่เลวี ก็เหมือนข้าราชการประจำ แต่ละวัน จะมีสามีภรรยาพาลูกมาเข้าสุหนัตไม่รู้กี่สิบราย  พวกเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าใครพิเศษ  คนที่มีสายตาแหลมคนเท่านั้นจึงจะรู้ได้  

 

สิเมโอนเป็นคนอยู่ในศีลธรรม 

       

     หมอลูกา บอกว่า สิเมโอนเป็น คนชอบธรรม  จุดอ่อนที่สุดที่ทำให้คนเราไม่กล้า หนุนใจ หรือเตือนสติใคร ก็เพราะตัวเราเองด่างพร้อย  ถ้าเราทำผิด ไม่อยู่ในศีลธรรม  มโนธรรมจะฟ้องร้องตัวเราเอง  โธมัส เคมพีส กล่าวว่า “คนเราพึงพอใจ และมีสันติสุข ที่สุดเวลาจิตสำนึกเราบริสุทธิ์”  

 

 

 


 

 

ยอห์น กล่าวว่า ถ้าใจเราไม่ฟ้องเรา เราก็มั่นใจที่จะทูลขออะไร ๆ จากพระเจ้า ( 1 ยอห์น 3:21-22) 

 

เขาเกรงกลัวพระเจ้า

             

            สิเมโอนเป็นคนยำเกรงพระเจ้า   คนยำเกรงพระเจ้า ดำเนินชีวิตดี ไม่ใช่ เฉพาะต่อหน้ามนุษย์  แต่เขารักษาชีวิตแม้อยู่ในที่ลับ แม้ไม่มีใครเห็น แม้เขาจะอยู่แต่ลำพัง อยู่ในที่ที่ปลอดสายตาคน เขาคำนึงว่าพระเจ้าทอดพระเนตรเขาอยู่  เขาหลีกความชั่ว เพราะยำเกรงพระเจ้า (สุภาษิต 16:6)  เวลาเราเป็นเช่นนี้  เราจะได้ยินพระเจ้าตรัสกับเรา ให้ปัญญาแก่เรา  สุภาษิต 1:7 กล่าวว่า “ความยำเกรงพระเจ้า เป็นบ่อเกิดของความรู้”  

 

สิเมโอนหวังใจในพระเจ้า

         

           สิเมโอน “คอยเวลา ซึ่งพวกอิสราเอล จะได้รับการบรรเทาทุกข์”  คนยิวตกเป็นทาสต่างชาติมาหลายปี เฮโรด ก็เป็นกษัตริย์หุ่นที่เห็นแก่ประโยชน์ของตน  เคฟาส ก็เป็นมหาปุโรหิตที่ ฉ้อราษฎร์บังหลวง ขูดรีดจากประชาชน ค้าของในพระวิหารเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง  ปีลาต  ข้าหลวงที่ซีซาร์ส่งมาปกครอง ก็มิได้รักคนยิวอะไร กดขี่พวกเขาเสียด้วยซ้ำ มองไปสู่อนาคต  คนทั่วไปหมดหวัง ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร  แต่สิเมโอนมองไปที่พระเจ้า ท่านอธิษฐาน  ท่านมองขึ้นไปบนฟ้า ยึดในพระสัญญาว่า วันหนึ่งพระผู้ไถ่จะมาบังเกิด อายุท่านก็มากขึ้นทุกที  แต่ความหวังในพระเจ้า ยังลุกโชนดั่งเปลวเพลิง  คนหนุนใจคน ต้องไม่ท้อ คนท้อหนุนใจใครไม่ได้   เขาต้องมีความเชื่อ ต้องคิดบวก  

 

การสนิทสนมกับพระวิญญาณ ทำให้ยินพระสุรเสียง 

       

         เขาฟังพระสุรเสียงของพระวิญญาณ  ท่านจึงรู้ว่าท่านจะสมหวัง  แต่ละวัน เขาใกล้ชิดพระพระเจ้า  เขาอธิษฐาน  ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์  กล่าวว่า “การใกล้ชิดพระเจ้า ทำให้เราได้ยินพระสุรเสียงจากพระเจ้าโดยตรง” ธรรมดา เราไม่รู้ว่า มีใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ ที่ต้องการคำหนุนใจ  พระวิญญาณต่างหากเป็นทราบ พระองค์จะทรงผู้ใช้เรา  สิเมโอน เดินมากับพระเจ้าทุกวัน  สนทนากับพระองค์ วันนั้น พระวิญญาณ  ทรงนำท่านไปยังพระวิหาร  ในเวลาที่โยเซฟ มารีย์พาพระกุมารไปเข้าสุหนัต  

 

 

 

 

ท่านได้พบพระองค์ในวันนั้น ชั่วโมงนั้น  ไม่ผิดพลาด วันนี้  มีคนต้องการการหนุนใจ ต้องการคำอธิษฐาน พระเจ้าทรงทราบ ถ้าเราเปิดใจพร้อมให้พระองค์ใช้  พระองค์จะทรงใช้เราทำการสำคัญนี้  

 มีใจสรรเสริญพระเจ้า

 

    คนเรียกถ้อยคำของสิเมโอนว่า “บทเพลงของสิเมโอน” บรรยายถึง พระเยซูจะประทานความรอด ความสว่างแก่ทั่วโลก  อิสราเอลจะได้เรีบเกียรติด้วย” เป็นคำกลอนไพเราะ  ไม่เพียงแต่ท่านเป็นนักกวี แต่ใจท่านยกย่องพระเจ้า คำสรรเสริญ โมทนาพระคุณ ตรงกันข้ามกับคำบ่น หรือคำดุด่า ผิดกันหน้ามือเป็นหลังมือ  คนสรรเสริญ ไม่บ่น  คนบ่นไม่สรรเสริญ   ยากอบบอกว่า “คำสรรเสริญ และคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน…น้ำจืดและน้ำกร่อยจะพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ” (ยากอบ 3:10-11)  สิเมโอน มีริมฝีปากสรรเสริญ เพราะท่านมีใจขอบพระคุณ สิเมโอนจากไปจากฉากไปเงียบ ๆ

   

    ท่านไม่ได้ทำงานนี้  เพื่อโฆษณาตัวเองให้โด่งดัง  ท่านไม่ได้พามารีย์ โยเซฟไปแนะนำมหาปุโรหิต หรือเล่าขานว่าท่านได้รับอะไรจากพระเจ้า  และไปพูดอะไรกับสามีภรรยาคู่นี้  ไม่ได้เอาไปลงเฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรมส์  (ว่าเข้านั่น)  ท่านทำสิ่งที่พระวิญญาณมอบหมาย เท่านั้น ท่านสุขใจแล้ว  ทุกคำเป็นคุณกับมารีย์ อย่างยิ่ง   ผู้ให้คำแนะนำ หนุนใจรู้ดีว่า สิ่งที่เขาพูดนั้น เป็นเรื่องเฉพาะ  เมื่อประสบความสำเร็จ บ่อยครั้ง คะแนนหรือเกียรติไปตกอยู่ที่คนอื่น แต่เขาไม่สนใจ เพราะเขาไม่ได้หนุนใจเพื่อหวังชื่อเสียง  เมื่อตอนที่โยชูวา รบศึกทำสงครามกับอามาเลข  โมเสสไปชูไม้เท้าบนภูเขา  มีเฮอร์และอาโรนช่วยโมเสส ชูไม้เท้าจนรบชนะ  ชนะแล้ว  เกียรติคงไปอยู่ที่โยชูวา นักรบ  แต่เฮอร์และอาโรนก็สุขใจแล้ว ที่สนับสนุนให้ชนะศึก 

         

         วันนี้  มีคนเป็นจำนวนมาก ต้องการความมั่นใจ  ต้องการกำลังใจ  พระเจ้าทรงประสงค์จะช่วยคนเหล่านี้ พระองค์มิได้ทำโดยพระองค์เอง  พระองค์ปรารถนาจะใช้ใครสักคน  ไปช่วยเขา อธิษฐานเผื่อเขา เล้าโลมใจเขา ให้เขากล้าหาญ เข้มแข็ง  มีความเชื่อ  ท่านพร้อมเป็นคนนั้นที่ให้พระจ้าใช้ไหม

       

         สุขสันต์วันคริสตมาส และปีใหม่ครับ   


Visitor 61

 อ่านบทความย้อนหลัง