ภูมิคุ้มกันตัวช่วยจากพระเจ้า

 

ศบ.

 

ไม่มีใครแข็งแกร่งได้ โดยไม่ต้องพบความทุกข์ยาก ยากอบชี้ให้เห็นว่า คนที่จะดีพร้อม ต้องผ่านความทุกข์ยาก ซึ่งพระเจ้ายอมให้เราผจญ ออกจากสวนเอเดน พระเจ้าทรงยินยอมให้อาดัม และอาวา ทุกข์ยากลำบาก เพื่อสร้างเขาขึ้นมาใหม่ “เจ้าจะต้องหากินด้วยความทุกข์ลำบาก จนตลอดชีวิต...เจ้าต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า จนเจ้ากลับไปเป็นดิน” (ปฐก 3:17-19) พระองค์ทรงปรารถนาให้เราเป็นนักสู้ ต่อสู้ในโลกที่ไม่สวยไม่งาม เพื่อปั้นเรา



1. กระนั้น โดยพระกรุณา ทรงประทานตัวช่วยให้เรา
วันนี้ ในช่วงโรคระบาด ไวรัสโควิด 19 กำลังขย่มโลกของเราหนักหน่วง เราพูดกันมากเรื่อง “ภูมิคุ้มกัน” ซึ่งผมเห็นว่า พระเจ้าทรงสร้างภูมิคุ้มกันธรรมชาติให้เรามากมาย

 

 

 

  แต่ละวัน  รอบตัวเรามีทั้งจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทั้งดี และไม่ดี  ส่วนมากเป็นจุลินทรีย์ที่ดีเป็นประโยชน์กับเรา  แต่ก็มีจุลินทรีย์ที่ไม่ดี  เป็นเชื้อโรค  ทำให้เราเจ็บป่วยได้   ที่น่าทึ่ง ก็คือ  มีเชื้อโรค บางอย่างอาศัยพักพิงอยู่ในปาก โพรงจมูก ลำคอ ลำไส้เล็กของเรา  แต่เราก็ยังสุขกายสบายดี   ยังยิ้มแย้มได้  ท่านทราบไหม เพราะอะไร? เพราะพระเจ้าทรงสร้างระบบภูมิคุ้มกัน (Immune system) ที่มีประสิทธิภาพ   เพื่อกำจัดเชื้อโรคนั้นออกไปไว้ให้เรา  

 

         2.  ผมทึ่งในระบบการป้องกันเชื้อโรค ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียม 

 

              ถ้าเชื้อโรค  คือ “ศัตรู”  ภูมิคุ้มกันที่ทรงประทานให้ ก็เปรียบดั่ง “ทหาร” หรือ “ยาม” พิทักษ์กายเรา  พระองค์ทรงจัดเตรียมให้เรา ตั้งแต่ก่อนเราจะรู้ตัวเองด้วยซ้ำ  “ทหาร” เหล่านี้รบเก่งเสียด้วย  พระเจ้าสร้างเราให้เป็นนักรบ เป็นผู้พิชิตศัตรู

 

        3.  ภูมิต้านทานของทารก

 

             พอทารกคลอดจากครรภ์มารดา  ลูกน้อยได้รับ ภูมิต้านทานเชื้อโรค (antibody) มาจากแม่ (เรียกว่า ภูมิต้านทานหยิบยืม ก็ได้) ช่วยต้านทานแบคทีเรีย และไวรัส ระยะหนึ่ง ประมาณ 2-3 เดือน เมื่อลูกทานน้ำนมแม่ (Breast milk)   2-3 วันหลังคลอด  ร่างกายแม่จะผลิต “น้ำนม

 

 

 

เหลือง” ที่เรียกว่า โคโลสตรุม (colostrum)  นอกจากมีอาหารอุดมแล้ว ยังมีสารช่วยต้านทานเชื้อโรคด้วย  ทำให้ทารกน้อยไม่เจ็บป่วยโดยง่าย  ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า  ผู้เชื่อใหม่ ควรได้รับการพิทักษ์คุ้มครองจากศัตรู  ในช่วงต้นจากพี่เลี้ยง อย่างมาก   

 

          4. ทหารเฝ้าดวงตา

 

              ถ้าผงเข้าตาเรา ผงนั้นมีเชื้อโรคด้วย ซึ่งเกิดกับเราบ่อย ๆ และเราหายดี โดยไม่ต้องไปหาหมอเลยได้อย่างไร ท่านทราบไหม พระเจ้าทรงสร้างให้ตาของเรา มีน้ำตา (tear) ออกมาหล่อเลี้ยงลูกตา ในน้ำตาของเรานั้นมี ยาฆ่าเชื้อ (Antiseptic) ชื่อว่า ไลโซไซม์ (Lysozyme) สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างทรงพลังยิ่ง โดยเราซึ่งเป็นเจ้าของลูกตา ไม่รู้เรื่องเลย พระเจ้าทรงวางทหารแกร่งไว้ในแนวรบ ที่ดวงตาเราอย่างมหัศจรรย์แท้  

 

           5.  น้ำมูก  (Mucous Fluid) 

 

           ในน้ำมูก ของเรา    มีสารเคมีฆ่าเชื้อโรค (Antiseptic) เวลามีสารระคายเคือง เข้าจมูก หรือเป็นหวัด เนื้อเยื่อจมูกจะหลั่งน้ำมูกออกมา 

 

 

 

 ทำให้เราจามบ่อย เพื่อขจัดสิ่งแปลกปลอมออกไป เหมือนการผลักไส ไล่ส่ง ถีบผู้บุกรุกออกจากบ้าน ยังไงยังงั้น

 

            6.  ศัตรูเข้าทางปาก

 

             ถ้าเชื้อโรคเข้ามาทางปาก มันจะถูกโจมตี โดย สารฆ่าเชื้อ (Antiseptic) ที่มีในน้ำลาย (Saliva) ไปในทันที ถือเป็นดาบหนึ่ง ถ้ามีเชื้อบางส่วนถูกกลืนลงไปในกะเพาะ ก็จะโดนน้ำย่อยที่เป็นกรด อันทรงพลัง รอดักฟันอยู่ เป็นดาบสอง และจะยังคงเหลือเชื้อน้อยมากที่รอดไปถึงลำไส้เล็ก ใครหนอฉลาดจริง สร้างระบบภูมิคุ้มกัน เป็นขั้นเป็นตอนเช่นนี้ให้เรา  

 

            7.  ผิวหนัง เกราะสวยงาม 

 

             คนเรามีผิวหนังปกป้องร่างกาย อันงดงามแท้ มองดูผู้หญิงสาวสวย ผู้ชายหนุ่มรูปหล่อ ท่านงามเพราะผิวพรรณยังไงล่ะ  ท่านรู้หรือไม่ว่า แต่ละวัน มีเชื้อโรคมากมายปะทะผิวหนังของท่าน   แต่มันไม่อาจบุกรุกเข้าไปในร่างกาย ถ้าท่านไม่มีบาดแผล ถูกไฟไหม้ หรือถูกน้ำร้อนลวก ทำให้ท่านสดชื่นอยู่ได้   เพราะพระเจ้าทรงสร้างให้ ต่อมไขมันที่ผิวหนัง มีกรด แลคติก(Lactic Acid) และกรดไขมัน (Fatty Acid) ช่วยยับยั้ง และทำลายเชื้อโรค  

 

             นักวิทยาศาสตร์เขาเคยทดลอง  เอาเชื้อแบคทีเรีย (Virulent dysentery Bacteria) หยดลงในจานแก้ว พบว่ามันมีชีวิตอยู่ได้นานหลายชั่วโมง ไม่ตายง่าย ๆ แต่เอาเชื้อแบคทีเรียอย่างเดียวกัน หยดเท่ากัน วางบนฝ่ามือที่สะอาดของเรา  ผลปรากฏว่า แบคทีเรียนั้น ตายไปในเวลาประมาณ 20 นาที  ครับ  เพราะมันเจอ พิษสงทหารหาญ  ที่พระเจ้าทรงวางไว้บนผิวหนัง เพื่อขจัดศัตรูเข้าให้  นี่ไม่ใช่ เหตุผลที่เราทำอะไรโดย ไม่ล้างมือฟอกสบู่   แต่ชี้ให้เราเห็นว่า  ผิวหนังของเรา มียาฆ่าเชื้ออยู่ในตัว  ที่ช่วยเราระดับหนึ่ง  อย่างน่าทึ่ง 

 

            8.  เม็ดเลือดขาว ทหารเอก

 

              เวลาเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย  เข้าสู่ร่างกายเราทาง แผลเปิด  เช่น เราถูกตะปูตำ หรือมีดบาด  พระเจ้าทรงสร้างระบบพิชิตเชื้อโรคนั้น อย่างอัศจรรย์ที่สุด  ร่างกายส่วนที่ฉีกขาดนั้น จะบวม (Inflame) โดยมี

 

        สารเคมีหลายชนิด หลั่งออกมาในร่างกายบริเวณนั้น สารเคมีนั้นจะแผ่กระจายซ่านกว้างออก จนไปถึงที่ที่มีเส้นเลือดที่ใกล้เคียงที่สุด  สารเคมีนั้น จะทำให้ผนังเส้นเลือดเปิดทางออก ทำให้น้ำเลือด (Plasma) ใส ๆ ไหลออกมา  โดยที่เม็ดเลือดแดงมิได้ออกมา  ในน้ำเลือดนั้น จะมีเม็ดเลือดขาว (Leucocytes)  และสารเคมีอีกหลายอย่าง  มา กลืนกิน แบคที่เรีย  

 

               เม็ดเลือดขาว  คือทหารหาญ ในเลือด ลักษณะของมัน คล้าย ๆ  ตัวอมีบา ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีเพียง 1 เซลล์ พระเจ้าทรงวางไว้พิชิต เชื้อโรค  มันจะเคลื่อนตัวไปในเลือด ทั่วร่างกาย เสมือน ทหารตรวจตราศัตรู    เชื้อโรคเข้ามาสู่ร่างกาย เปรียบดั่งศัตรู  ทะลุทะลวงเข้าบ้านเราแล้ว  มันพังรั้วบ้านเราเปิดแผลออกตรงไหน  ทหารหาญตรวจตราเหล่านี้จะกรูกันเข้าไป ต่อสู้ศัตรู ไล่ต้อน แบบเอาตัวเข้าแลก กลืนกินเชื้อโรค พลีชีพสู้ ไม่เพียงเท่านั้น  พระเจ้าทรงจัดทำระบบไว้ โพรงกระดูกของเราผลิตเม็ดเลือดขาวนับล้าน จะยกโขยงกันไปสู้เชื้อโรค ทันที   เหมือนทหารทั้งกองทัพยกมาปะทะศัตรู   คงจำได้  เวลาเราไม่สบาย  ติดเชื้อ  ไปโรงพยาบาล หมอตรวจเลือดเราพบว่า เม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว   เพื่อสยบศัตรู   เมื่องสงครามเลิก ถึงเวลานับศพ หนองที่แผลของเรา คือ ศพเม็ดเลือดขาวที่กลืนเชื้อโรค  รอรถปอ แต๊ก ตึ้ง มาขนศพ ไปขจัดออกจากร่างกายทาง

 

 

 

 

 

ต่อมน้ำเหลือง   ส่วนร่างกายของเรานั้น ปลอดภัยอย่างอัศจรรย์  ขอน้อมใจเทิดพระองค์  

 

             9.   ภูมิต้านทาน

 

              พระเจ้าทรงสร้างให้ เม็ดเลือดขาว ในเลือดของเรา มันสามารถจดจำ ติดป้าย หมายหัวศัตรูที่เคยเข้ามาบุกรุก (invading germs) และสร้างเซลล์ในลักษณะอย่างเดียวกับศัตรู  (build-in identification system) ขึ้นมา  เรียกว่า แอนตี้ บอดี้ (antibody) ไว้พิชิตเชื้อโรค  

 

             ถ้าเปรียบเม็ดเลือดขาวเป็น “กองทัพทหาร”     เซลล์“แอนตี้ บอดี้” ก็คือ “นาวิกโยธิน” พิเศษที่ถูกฝึกใหม่ ไว้เผชิญศัตรูหน้าเดิม    ครั้งหน้า ครับ คราวหน้า เมื่อเชื้อโรคชนิดเดิมเข้ามาบุกรุก เอ็งแหยมเข้ามา “นาวิกโยธิน” แอนตี้ บอดี้  ชุดนี้  ก็จะเข้าไปพิชิตมันอย่างชาญฉลาด  แอนตี้ บอดี้  นี้จะเป็นภูมิคุ้มกันเชื้อโรคชนิดนั้น  ไม่ให้มันเล่นงานเราได้อีกในครั้งต่อ ๆ มา  

 

             คนไทยเราว่า “หนามยอก ก็ให้เอาหนามบ่ง”   ถ้าเราเคย เป็น “อีสุกอีใส” ครั้งหนึ่ง  เราโดนหนามยอก  ร่างกาย ก็จะสร้าง “แอนตี้ บอดี้” หรือ “นาวิกโยธิน”พิเศษ สำหรับสู้ไวรัส อีสุกอีใส เป็นหนามไว้บ่ง  หาก เชื้อไวรัส อีสุกอีใสเข้ามาอีก  นาวิกโยธิน ที่ถูกฝึกขึ้นใหม่นี้  จะขจัดมันไป เงียบ ๆ ก่อนที่เรารู้ว่าเราติดเชื้อเสียด้วยซ้ำ  

 

               วันนี้  คนที่เคยติดโควิด 19 และหายดีแล้ว  ก็จะมีแอนตี้ บอดี้  หรือมี “นาวิกโยธิน” พิชิต ไวรัสโควิด 19 แบกปืน เดินตรวจตราในกระแสเลือด เป็นภูมิต้านทานในตัว  พระเจ้าประเสริฐแท้  

 

                ในชีวิตฝ่ายวิญญาณก็เช่นเดียวกัน  ความผิดพลาด ครั้งหนึ่งสมควร ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นที่จะไม่ผิดอีก  ก่อนเปโตรปฏิเสธพระเยซู พระองค์ตรัสกับเปโตรว่า “เราได้อธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อท่านจะไม่ขาด  เมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:32) 

 

              10. วัคซีน (Vaccines)

 

              “แอนตี้ บอดี้” หรือ นาวิกโยธิน นี้ ยังถูกสร้างขึ้นต้านเชื้อโรค  โดยการฉีดวัคซีน (Vaccination)  วัคซีนที่หลายบริษัทกำลังผลิต และฉีด

 

 



 

เข้าไปในร่างกาย จะเป็นดั่ง “เชื้อโรคหลอก ๆ” หรือ “เชื้อโรคปลอม ๆ”  แล้วแต่จะเรียก ก็ต้องขอบคุณบริษัททั้งหลายที่ช่วยกันวิจัย ผลิตวัคซีน ในขณะนี้  พอฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายเรา วัคซีน หรือ “เชื้อโรคปลอม” เหล่านี้  มันจะช่วยสอนร่างกายเราล่วงหน้า กระตุ้น ให้เราผลิต “แอนตี้ บอดี้” หรือ “นาวิกโยธิน” พิเศษ ชุดใหม่ขึ้นมาเตรียมพร้อมต่อต้านเชื้อโรค  ในขณะที่เรายังไม่เคยติดเชื้อเลย  นี่ไง ที่รัฐบาลกำลังเร่ง ระดม ติดดาบให้คนไทยวันนี้  

 

               ตั้งแต่เป็นเด็กมา เราเคยปลูกฝี เป็นวัคซีน ป้องกันฝีดาษ  เราเคยฉีดวัคซีน ป้องกัน คอตีบ ตับอักเสบ บาดทะยัก หัด หัดเยอรมัน คางทูม ไอกรน หวัดใหญ่  ครับ  มันเยอะจนจำชื่อได้ไม่หมด  เรามีภูมิต้านทานโรคอยู่ไม่น้อย ในตัว  เมื่อเราฉีดวัคซีน โควิด 19  เข้ามาสู่ร่างกาย  พระองค์ทรงช่วยให้ร่างกายเราสร้างแอนตี้ บอดี้ ขึ้นมาต้านโรคนี้อีกตัวหนึ่ง 

 

               กระบวนการสร้างภูมิต้านทานเช่นนี้ ในร่างกาย   ยิ่งใหญ่กว่าการผลิตวัคซีนหลายเท่านัก  เป็นฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า ไม่ใช่ฝีมือบริษัทใด หรือพ่อแม่คนไหนสร้างให้  แต่เป็นพระปัญญาของพระองค์ล้วน ๆ ครับ  ถึงตรงนี้ ผมคิดว่า  ไม่มีอะไรดีกว่าหยุดอ่านบทความนี้สักครู่  และยืนขึ้นโค้งคำนับ โมทนาพระคุณพระองค์  

 

 

 

11. งูทองเหลือง

 

                คนยิวเคยดื้อพระเจ้า  ในถิ่นทุรกันดารที่ที่มีงูแมวเซา  งูนั้นกัด พวกเขาตายกันเยอะ พวกเขามาสารภาพกับโมเสสว่า พวกเขาได้ทำบาป สำนึกว่าได้บ่นว่าทั้งพระเจ้าและโมเสส  ขอทูลให้พระเจ้าเอางูแมวเซาออกไปจากพวกเขา  โมเสสก็กราบทูลพระเจ้าเผื่อพวกเขา  แต่พระเจ้ามิได้ เอางูนั้นออกไป  พระองค์ใช้ให้โมเสสทำงูทองสัมฤทธิ์ตัวหนึ่งติดไว้ที่เสา  ใครที่ถูกงูกัด  ถ้าถ่อมใจลง มองดูงูนั้น ด้วยความเชื่อ เขาจะรอด (กันดารวิถี 21:4-9)  งูพันหลัก ยังเป็นสัญลักษณ์ของการแพทย์ในปัจจุบัน  นี่คือภาพ วิธีการนำความรอดของพระเจ้ามาให้  พระเยซูตรัสว่า “โมเสสได้ยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด  บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อทุกคนที่วางใจในพระองค์ จะได้ชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 3:15)  

 

              12 ไม้กางเขน

 

               พระเจ้ามิได้ไล่มารออกไปจากโลก พระองค์มิอาจยับยั้งการล่อลวง  มิอาจห้ามคนไม่ให้ทำบาป เช่น เดียวกับ งูแมวเซามิได้ถูกขจัด

 

ออกไปจากถิ่นทุรกันดาร  หรือ โควิด 19  ที่เริ่มมาแต่คนเรา  มิได้ถูกล้างไปจากโลก  แต่พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์ วายพระชนม์ที่ไม้กางเขน เหมือนงูทองสัมฤทธิ์บนเสา  เหมือนวัคซีนสู้กับพิษของโรค  เมื่อเรากลับใจใหม่ ถ่อมใจลง วางใจในการไถ่โทษของพระเยซูที่ไม้กางเขน  เราก็รอดได้  “เพื่อผู้ที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ  แต่มีชีวิตนิรันดร์”  (ยอห์น 3:16) เพราะรัก พระเยซูทรงสู้ทนทุกอย่าง  เพื่อจัดเตรียมไม้กางเขนจะเป็นหนทางรอด  พระองค์คือนักสู้เพื่อเราที่แท้จริง 

 

             13. ความรักของพระเยซู

 

                เมื่อเราเข้ามาเป็นผู้เชื่อ  เรามีศัตรู  พระองค์ไม่ได้เอาขจัดเอาศัตรูออกไปจากชีวิตของเรา  ผู้เชื่อทั้งหลายยังต้องมีอุปสรรคมากมายรอบตัว   มารยังคงพยายามชักนำเราให้หลงออกจากทาง  เรามีภาระกิจที่จะต้องทำให้สำเร็จ  บัดนี้ เรามิได้ต่อสู้กับการปัญหาโดยลำพัง  ด้วยกำลังของเราเอง  พระเยซูทรงประทับอยู่เคียงข้างเรา   ความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่   ไม่เคยขาดไปจากเรา  พระองค์ทรงเป็นยิ่งกว่าวัคซีน  ที่ช่วยสร้างพลังให้เราชนะอบายมุข  และมีชัยเหนือปัญหานานา  เปาโลกล่าวว่า  “เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ทรงรักเราทั้งหลาย” (โรม 8:37)  อีกตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” ( ฟิลิปปี 4:13)  เรามีพระวิญญาณเสริมกำลังแก่เรา

 

             อย่ายอมแพ้อะไรง่าย ๆ น่ะครับ ท่านคือนักสู้ ที่แข็งแกร่ง ตัวจริงของพระเจ้า

 

             อาเมน 

 

อ้างอิง

1.Brecher, Ruth and Edward; Repelling the Unseen Invaders, 1962, Reader’s Digest

 2.Wikipedia; the free encyclopedia; Immune system,

3.Immune System: National Geographic ภาษาไทย https://ngthai.com/science/33089/immune-system/

4.Long, Perrin H., M.D.; Infectious Disease; Family Medical Guide, Better Homes and Gardens,1978

5.Gerking, Shelby D., Biological Systems, 1969.

6.Campbell,Neil A.,Biology,The Benjamin/Cummings Publishing Company, Inc. 1987

7.Turner, C.E., Personal and Community health, The C.V. Mosby Company, 1959   


Visitor 119

 อ่านบทความย้อนหลัง