คำเทศนาวันาอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน 2007
ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์
พระพรของการบริจาค

2 โครินธ์ 8:1-15 ; 9:5-15
คริสตจักรจัดวันนี้เป็นวันสงเคราะห์ครอบครัวยากจน
แท้จริง การมีใจเมตตาสงสารครอบครัวยากจน เริ่มมาแต่พระบิดา ในพระคริสตธรรมคัมภีร์เดิม พระเจ้าสอนให้ชาวยิวสงสารคนต่างด้าว
เมตตาคนยากจน ในหนังสือประวัตินางรูธ โบอัสสั่งให้คนใช้ของตน แกล้งทำข้าวที่เกี่ยวในทุ่งนาตก เพื่อให้คนจน เช่นนางรูธ เก็บข้าวที่ตก เพื่อยังชีพของเขา พระธรรมสุภาษิต 19:17 กล่าวว่า “บุคคลที่เอ็นดูคนยากจนก็ให้พระเจ้าทรงยืม และพระองค์จะทรงตอบแทนการกระทำของเขา”

มาถึงพระคัมภีร์ใหม่ พระเยซูสอนให้เราช่วยคนยากจน โดยเฉพาะผู้เชื่อที่ยากจน ไม่ใช่พระเยซูไม่สนพระทัยในคนยากจนที่ยังไม่เชื่อน่ะครับ แต่คนยากจนที่เป็นผู้เชื่อพระองค์ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในพระธรรมมัทธิวบทที่ 25:31-46 พระองค์ตรัสถึงการพิพากษาในวันสุดท้าย ว่าจะทรงแยกคนชอบธรรมออกจากคนอธรรม เหมือนแยกแกะออกจากแพะ และทรงประทานราชอาณาจักรให้ครอบครอง พระองค์ตรัสว่า “เพราะว่าเมื่อเราหิว ท่านทั้งหลายก็ได้จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ต้อนรับเราไว้ เราเปลือยกาย ท่านก็ได้ให้เสื่อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็ได้มาเยี่ยมเรา เวลานั้นผู้ชอบธรรมจะกราบทูลว่า
 

“พระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงหิว หรือทรงกระหายน้ำ และได้จัดมาถวายแด่พระองค์แต่เมื่อไร ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้า และได้ต้อนรับไว้ หรือเปลือยพระกาย และได้สวมฉลองพระองค์ให้แต่เมื่อไร ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ประชวรหรือต้องจำในพันธนาคาร และได้มาเฝ้าพระองค์นั้นแต่เมื่อไร แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสกับเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านได้กระทำแก่คนใดคนหนึ่งในพวกพี่น้องของเรานี้ ถึงแม้จะต่ำต้อยเพียงไร ก็เหมือนกระทำแก่เราด้วย”
พระเยซูทรงเอาพระองค์เองเข้ามาประกัน แสดงความเป็นเจ้าของคนยากจน
เรื่องนี้ คริสตจักรในสมัยพระคัมภีร์ใหม่ เข้าใจ รู้ ซาบซึ้ง อาจารย์เปาโล เคยกล่าวถึงการมุ่งหน้าทำการการประกาศ โดยท่านเองแยกกันทำระหว่าง อัครทูตทั้งหลายที่ทำงานกับชาวยิว ส่วนท่านจะมุ่งหน้าไปสู้คนต่างชาติ เมื่อตกลงกัน ท่านกล่าวถึงใจที่มีกับคนยากจนว่า “ท่านเหล่านั้นขอแต่เพียง ไม่ให้เราลืมนึกถึง คนจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้ากระตือรือร้นที่จะทำ”( กาลาเทีย 2:10)
เปาโลไปที่ไหน ท่านก็กระตุ้นให้ผู้เชื่อสงเคราะห์ที่นั่น ท่านกระตุ้นคริสตจักรที่กรุงโรม (โรม 15:24-29) ท่านกระตุ้นคริสตจักรในแคว้นกาลาเทีย ( 1 โครินธ์ 16:1-4) ท่านนำการมีใจบริจาคของคริสตจักรในแคว้นมาซิโดเนีย มากระตุ้นให้คริสตจักรในแคว้นอาคายะ บริจาค ดังข้อความที่เราได้อ่านข้างต้น
พี่น้องในแคว้นมาซิโดเนีย บริจาคเงินสงเคราะห์พี่น้องยากจนที่เยรูซาเล็ม สมัยนั้นที่เยรูซาเล็มเกิดการกันดารอาหารบ่อยครั้ง ท่านเล่าว่า ชาวมาซิโดเนียได้ถวายทรัพย์มิใช่เพราะเขามั่งคั่ง แต่พวกเขาถวายจากความยากจน ผู้บริจาคไม่จำเป็นต้องเป็นเศรษฐี เขาทำสุดความสามารถของเขา ด้วยความเต็มใจ พวกเขาตระหนักว่า พระเยซูทรงเป็นแบบอย่าง เพราะทั้งๆที่พระองค์มั่งคั่ง สุขสบายในสวรรค์ พระองค์เสด็จเข้ามาในโลกนี้ ยอมทุกข์ยาก บังเกิดในรางหญ้า ไม่มีที่พักสุขสบาย ทรงยืมเรือ ยืมลา ยืมห้องรับประทานอาหารกับเหล่าสาวก เพื่อช่วยให้เราที่ยากจนได้มั่งคั่ง

วันนี้เราได้รับพรเช่นเดียวกัน คริสตจักรของอาจารย์โช ยองกี ที่ เกาหลีเคยยากจน วันนี้สมาชิกของท่านมั่งคั่งขึ้น เมื่อบริจาค เราควรทำ
(1) เป็นทานลับ ไม่ใช่ทำเพื่อจะอวด (มัทธิว 6:1-4)
(2) ตั้งต้นทำจริงๆ (2 โครินธ์ 8: 10) ไม่ใช่มีแต่ความตั้งใจ
(3) ทำด้วยความเต็มใจ ด้วยใจศรัทธา ด้วยใจยินดี ( 2 โครินธ์ 8:11;9:5-7)
(4)ทำตามความสามารถ ตามที่มี ไม่ใช่ที่ไม่มี หรือไปยืมมาบริจาค อย่างนี้ไม่ถูก ( 2 โครินธ์ 8:12)
พระพรของการบริจาค อาจารย์เปาโลกล่าวไว้ 4 ประการด้วยกัน
(1)เพียงพอ “พระเจ้าจะทรงฤทธิ์อาจประทานของดีทุกอย่างเพียงพอสำหรับตัวเสมอ”(2 โครินธ์ 9:8) พระเจ้าจะไม่ให้ผู้ถวายขัดสน คนเรามีความต้องการ 3 ระดับ (1) ความจำเป็น (need) (2)ความต้องการ(want) (3) ความปรารถนา(desire) พระคัมภีร์สัญญาในที่นี้ว่า พระเจ้าจะให้เราเพียงพอ ตามความจำเป็น
(2)เพิ่มพูน “ทั้งจะมีสิ่งของบริบูรณ์ สำหรับงานที่ดีทุกอย่างด้วย” (2 โครินธ์ 9:8,11) พรนั้นไม่ใช่เพียงพอเท่านั้น แต่ทรงสัญญาว่าให้บริบูรณ์ นี่หมายถึงต้องต้องการ และมากถึงความปรารถนา (Surplus) คือมากจนเกินพอ ทำไมพระเจ้าให้เราเกินพอ ไม่ใช่เพื่อเราจะเพิ่มพูนให้ตัวเอง แต่ให้เราทำการดี ให้เราแจกจ่ายอย่างกว้างขวาง กาลิลีเป็นทะเลสาบที่อุดมสมบูรณ์ เพราะมีน้ำไหลมาจากภูเขา ไหลออกไปทางแม่น้ำจอร์แดน
ส่วนทะเลตาย แห้งแล้ง เพราะรับอย่างเดียว
(3) พึ่งพิง “เพราะว่าการรับใช้ในการปรนนิบัตินั้นมิใช่จะช่วยธรรมมิกชนที่ขัดสนเท่านั้น แต่ยังเป็นเหตุให้มีการขอบพระคุณพระเจ้าเป็นอันมากด้วย”( 2โครินธ์ 9:12-13) การบริจาคของท่าน เป็นให้คนที่ขัดสนได้รับการช่วยเหลือในยามยาก ท่านได้ช่วยเหลือเขาในยามที่เขาขัดสน เป็นการให้กันไปกันมา ( 2โครินธ์
8:14-15)
(4) พระพร “เขาจะวิงวอนขอพระพรให้แก่ท่านทั้งหลาย และอาลัยท่านเป็นอันมาก เพราะเหตุพระคุณของพระเจ้าซึ่งสถิตอยู่ในท่านอย่างเหลือล้น”( 2 โครินธ์ 9:14) คนมักอธิษฐานเผื่อคนที่ทำกับข้าวให้เรากิน คนมักอธิษฐานเผื่อคนถวาย พรที่พระเจ้าให้ พิเศษเสมอ ปลูกพืชผลก็ดก ขับรถก็ปลอดภัย สุขภาพก็ดี ทำการค้าก็รุ่ง
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

Wish you get top quality uk fake watches online.

Cheap and quality, uk aaa quality replica watches with best movements are suited for men and women.
Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่


Visitor 162

 อ่านบทความย้อนหลัง