ชาวสะมาเรียใจดี
คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน 2007
ศจ.สมเกียรติ กิตติพงศ์

ลูกา 10:25-37
พระเยซูทรงเล่าคำอุปมาที่มีชื่อเสียงเรื่องนี้ เพราะมีบาเรียนคนหนึ่งมาทูลถามพระองค์ “อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าจะต้องทำประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์” เขาต้องการจับผิดพระองค์ พระองค์ทรงถามเขากลับไปว่า ในพระบัญญัติมีว่าอย่างไร เขาทูลตอบพระองค์ว่า “จงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจสิ้นสุดกำลัง ความคิด และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงกระทำอย่างนั้นแล้วท่านจะได้ชีวิตนิรันดร์” รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เขารู้ดีว่าเขาทำไม่ได้ จึงพยายามจะแก้ตัว โดยถามพระองค์ว่า “ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า” ยิวรู้ดีว่าเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เขาที่สุดคือชาวสะมาเรีย และยิวรังเกียจ ดูถูกเหยียดหยามชาวสะมาเรีย “พระเยซูทรงเล่าคำอุปมานี้ให้เขาฟัง” พระองค์น่าจะเล่าว่า มีสะมาเรียคนหนึ่งเดินทางไปและถูกโจรปล้น แล้วยิวที่ผ่านมาไม่ช่วยเขา เขาคงคิดว่า “ชาวสะมาเรียที่บาดเจ็บสมควรถูกปล้น และไม่น่าช่วยเหลือ” แต่คำอุปมาของพระองค์ คือชาวยิวเดินทางจากเยรูซาเล็มไปเยรีโค และถูกปล้น

คนเจ็บคนนี้น่าจะหมายถึงเรา
เราถูกมารซาตานปล้น ริบเสื้อแห่งความชอบธรรม เปลือยกาย อยู่ในความน่าละอาย ถูกทุบตีให้บาดเจ็บ ป่วยไข้ ทอดทิ้งให้รอความตาย ว้าเหว่เปล่าเปลี่ยวไร้ที่พึ่ง ยอห์น 10:10 บอกว่า ศัตรูนั้นมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย ในสมัยมาร์ติน ลูเธอร์ เด็กคนหนึ่งเคยฆ่าตัวตาย และคนต่างโทษเด็กนั้น แต่มาร์ติน ลูเธอร์ รู้ว่านี้คือกิจการของมาร

ใครจะช่วยเรา ใครจะช่วยคนเจ็บ คนพวกแรกที่ผ่านมาคือ ปุโรหิตและเลวี นี่คือยิวที่ถือธรรมะอันดับหนึ่ง เห็นแล้วก็เมิน ไม่คิดช่วยเขา คนส่วนมากก็ทำอย่างนี้ นี่เป็นเหตุที่พระองค์ทรงยกตัวอย่างถึง คนสองคนที่ผ่านมา แต่เมื่อชาวสะมาเรีย ผ่านมาเห็นเขาก็มีใจเมตตาช่วยเขา พระเยซูทรงเมตตาคนเจ็บ ผู้ที่ถูกมารเบียดเบียน ทรงสงสารเรา การช่วยเหลือของพระองค์ เหมือนของประทานที่พระองค์ทรงมอบให้แก่คริสตจักร คริสตจักรต้องทำงานเป็นทีมเพื่อช่วยเหลือคนอื่นอย่างพระเยซู
มีใจเมตตา สำแดงเมตตา
พันบาดแผล รักษาโรค
เอาน้ำมันและเหล้าองุ่นเทใส่บาดแผล หนุนใจ
ให้เขาขี่สัตว์ของตน ปรนนิบัติ
พามาพักที่โรงแรม ต้อนรับแขก
รักษาพยาบาล อภิบาลศิษย์
ให้เงินเจ้าของโรงแรม บริจาค

พระเยซูทรงช่วยเราทุกอย่างเช่นนี้ และคริสตจักรควรทำเหมือนกัน พระองค์ตรัสถามว่าในสามคนนี้ใครคือเพื่อนบ้านของเขา ของตอบง่ายมาก คือชาวสะมาเรีย ชาวสะมาเรียน่าจะแก้แค้นยิว แต่เขาไม่คิดถึงเรื่องอื่น เห็นเขาก็สงสารเขา มีใจเมตตา พระเจ้ารักเราพระองค์ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง พระเยซูทรงวายพระชนม์เพื่อเรา ในขณะที่เรายังเป็นศัตรูกับพระองค์ด้วยซ้ำไป
มีท่าที 3 อย่างของเรื่องนี้
ท่าทีแรกคือ "ของของคุณ คือของของฉัน" นี่คือท่าทีของโจร ท่าทีของมาร ของคนขี้โกง
ท่าทีที่สอง “ของของฉันคือของของฉัน” นี่คือท่าทีปุโรหิตและเลวี ท่าทีของคนเห็นแก่ตัว
ท่าทีที่สาม "ของของฉันคือของของคุณ" นี่คือท่าทีของชาวสะมาเรีย นี่คือท่าทีของพระเจ้า
พระเยซูตรัสว่า “ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้นเถิด” ให้เรามีท่าทีเหมือนพระเยซูน่ะครับ
Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่
Visitor 1242

 อ่านบทความย้อนหลัง