การทรงเรียกผู้เชื่อ

คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2008

Rev.Kelvin Stiener


2 โครินธ์ 5:17-21
เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น ทั้งสิ้นนี้เกิดมาจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกันกับพระองค์ทางพระเยซูคริสต์ และทรงโปรดประทานให้เรามีพันธกิจเรื่องการคืนดีกัน คือพระเจ้าทรงให้โลกนี้คืนดีกันกับพระองค์โดยพระคริสต์ มิได้ทรงถือโทษในการผิดของเขา และทรงมอบเรื่องการคืนดีกันนั้นให้เราประกาศ ฉะนั้นเราจึงเป็นทูตของพระคริสต์ โดยที่พระเจ้าทรงขอร้องท่านทั้งหลายทางเรา เราจึงขอร้องท่านในนามของพระคริสต์ให้คืนดีกันกับพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์
ผมเดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกในปี 1971 มีโอกาสได้ออกไปเป็นพยานพร้อมกับอ.จ.สมเกียรติ ในช่วงนั้นเราได้นำอาจารย์สมัยมารับเชื่อพระเยซู วันนี้อาจารย์สมัย เป็นศิษยาภิบาลที่คริสตจักรความหวังสุราษฎร์ธานี ท่านได้เปิดคริสตจักรลูกอีกมากมาย

2 โครินธ์ 5:17-21
1)ท่านรู้จักการทรงเรียกของท่านหรือไม่?
ทันทีที่เราเป็นคริสเตียนเราถูกเรียกให้เป็นผู้รับใช้พระเจ้า ไม่ใช่เฉพาะศิษยาภิบาล หรือผู้ปกครอง แต่เราทุกคนถูกเรียก
2)งานรับใช้คืออะไร? คือการทำพันธกิจในการคืนดี นำพระกิตติคุณไปสู่คนหลงหาย เราถูกเรียกจากพระเจ้า
สำหรับทุกคนเราถูกเรียกให้ทำพันธกิจนี้ เราไม่เพียงเป็นคนใหม่ที่รับความรอด แต่เรายังถูกเรียกให้ประกาศ พระเจ้าได้มอบความไว้วางใจให้เรา คาดหวังให้เราทำงานคืนดี ให้แก่เรา
3)เราถูกเรียกให้ทำอะไร
"เราเป็นเกลือแห่งแผ่นดินโลก" ในโลกมีเกลือนี้เท่านั้น ไม่มีเกลืออื่นๆอีก ในโลกมีท่านเท่านั้น
เราเป็นแสงสว่างแห่งโลก ในโลกมีท่านเท่านั้นที่เป็นความสว่าง ไม่มีสิ่งอิ่นใดอีก
เราอยู่ในแผนการของพระเจ้า พระองค์ทรงมีแผนการล้ำเลิศสำหรับเรา

ทรงเรียกให้เรารับขนมปังแห่งชีวิต
ทุกวันนี้ประชากรโลกมีประมาณ 6,000 ล้านคน มี 4,000 ล้านคนทียังไม่รู้จักพระเจ้า ในจำนวนนี้ มีคนที่เคยได้ยินได้ฟังบ้าง 2,000 ล้านคน แต่อีก 2,000 ล้านคนยังไม่เคยได้ยินพระกิตติคุณเลย

ทรงเรียกให้เราแจกจ่ายขนมปังแห่งชีวิต
จุดประสงค์ของคริสตจักร คือพบคนหลงหาย เอาขนมปังแห่งชีวิตไปมอบให้เขาเหล่านั้น
พระเจ้าทรงสนพระทัยในสิ่งเดียวเท่านั้น “ท่านได้มอบส่งผ่านขนมปังที่ท่านมีอยู่ไหม” (อย่ากินขนมปังคนเดียว)
ทุกวันนี้คริสเตียนกินขนมปัง 99%, และมีคริสเตียนเพียง 1% เท่านั้นที่ออกประกาศพระกิตติคุณ

เอเฟซัส 1: 17 อาจารย์เปาโลบอกว่า ท่านปรารถนาให้ท่านประกอบด้วยสติปัญญาเพื่อท่านจะทราบว่า ท่านถูกเรียกให้มีความหวังใจอย่างไร
สดุดี 2:8, "จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้เป็นมรดกของเจ้า ตลอดทั้งแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า"
โรม 10:14-15 แต่ผู้ที่ยังไม่เชื่อในพระองค์ จะทูลขอต่อพระองค์อย่างไรได้ และผู้ที่ยังไม่ได้ยินถึงพระองค์ จะเชื่อในพระองค์อย่างไรได้ และเมื่อไม่มีผู้ใดประกาศให้เขาฟัง เขาจะได้ยินถึงพระองค์อย่างไรได้ และถ้าไม่มีใครใช้เขาไป เขาจะไปประกาศอย่างไรได้ ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา ช่างงามจริงๆ หนอ แต่มิใช่ทุกคนได้เชื่อฟังข่าวประเสริฐนั้น เพราะอิสยาห์ได้กล่าวไว้ว่า พระองค์เจ้าข้า ใครเล่าได้เชื่อสิ่งที่เขาได้ยินจากเราทั้งหลาย ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์
ความรับผิดชอบ ต้องกินขนมปัง และถ่ายทอดขนมปังไปให้คนอื่นด้วย
วันนี้ เรากำลังวิ่งหาอะไร? เรากำลังหาอะไร?
สรุปการทรงเรียกผู้เชื่อ
ขอแนะนำท่านก่อนจบ
ฮาบากุก 2 จงบันทึกนิมิตของท่านสำหรับปี 2008 นี้ 8 ประการ เขียนสิ่งที่ท่านคิดว่าพระเจ้าทรงปรารถนาให้ท่านทำ
Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่
Visitor 496

 อ่านบทความย้อนหลัง