ท่านคือบุคคลสำคํญของพระเจ้า
คำเทศนาวันอาทิตย์ ที่ 2 กันยายน 2007
รอบที่ 3
วันคืนสู่เหย้า

ศจ. สมกียรติ กิตติพงศ์

1 โครินธ์ 1:4
ผมอยากนำคริสตจักรโครินธ์มาเป็นแบบอย่าง อาจารย์เปาโลไปประกาศ และนำให้มีการเปิดคริสตจักรหลายแห่ง แต่ไม่มีคริสตจักรใดมีปัญหามากเท่าคริสตจักร โครินธ์ มีทั้งการแตกก๊กกัน มีปัญหาเรื่องบางคนผิดประเวณี ปัญหาเรื่องการกินอาหารที่บูชารูปเคารพ เรื่องความเข้าใจผิดเรื่องการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซู เรื่องการใช้ของประทานผิดๆ แต่อาจารย์เปาโล บอกว่าท่านขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับท่านทั้งหลายเสมอ เพราะพระคุณที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน( 1 โครินธ์ 1:4 ) 4 บทของจดหมาย 1 โครินธ์ ท่านกล่าวถึงพี่น้องในคริสตจักร ด้วย 4 สิ่งสำคัญ
1.ท่านคือธรรมิกชน ( 1:2) ธรรมิกชนคือคนที่แยกออกมาจากโลก เพื่อพระเจ้า ท่านเป็นบุคคลพิเศษ เปาโลว่า คนที่มาหาพระเจ้าในพวกท่านมีน้อยคนเป็นที่โลกถือว่ามีปัญญา เขาว่าอ่อนแอ ต่ำต้อย แต่พระเจ้าปั้นเราจากฐานะต่ำต้อยมิใช่หรือ พระคัมภีร์พูดถึงผู้เชื่อว่าเป็นผู้รับพระคุณ นั่นคือ ท่านเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า พระเจ้ารักมนุษย์ในโลกนี้ทุกคน แต่พระเจ้าโปรดผู้เชื่อ ผู้เชื่อฟัง เรียกเขาว่า ธรรมิกชนครับ
 

2. ท่านคือผู้ที่รักพระเจ้า (2:9) พระธรรมข้อนี้บอกว่า สิ่งที่ตาไม่เห็นหูไม่ได้ยิน พระเจ้าทรงจัดเตรียมสำหรับผู้ที่รักพระเจ้า ความลับของพระเจ้าเปิดเผยให้คนที่รักพระองค์เท่านั้นทราบ ปราชญ์ของโลกศึกษาเรื่องพระเจ้าแค่มันสมอง แต่ผู้ที่รักพระเจ้า เข้าใจพระเจ้าอย่างผู้มีประสบการณ์ ทรงให้ท่านหยั่งรู้แม้เป็นความล้ำลึกของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้นพระเจ้าให้ท่านสามารถวิจัยสิ่งสารพัดได้ ไม่น่าเชื่อ ท่านคือคนที่ รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด โลกนี้พยายามคลำหาว่าอะไรคือวิถีทางการดำเนินชีวิต แต่เรารู้เพราะเราเชื่อพระคัมภีร์
ขอยกสักตัวอย่าง ตำราเขียนโดยนายแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ ว่าถ้าจะเลี้ยงลูกให้เขามีวินัยเวลาเขาโตขึ้น ก็อย่าให้เราตีลูก พยายามให้เหตุผลต่อรองกับลูก ถ้าตีเขาเขาจะดื้อไม้และดื้อด้าน แต่พระคัมภีร์กลับสอนเราว่า “คนที่สงวนไม้เรียวไว้ก็เกลียดบุตรของตน” ใครถูกครับ? นี่ผมยกมาแค่เรื่องเดียว เข้าใจผิดเรื่องนี้เรื่องเดียวนำไปสู่ปัญหาสังคมแค่ไหน ไม่มีใครประเมินได้ ท่านจะเชื่อใคร ขณะที่ปราชญ์สอนกัน ท่านผู้เป็นที่รักของพระองค์วิจัยสิ่งนี่ได้อย่างอัศจรรย์
3.ท่านคือพระวิหารของพระเจ้า (3:16)
ชีวิตของท่านบริสุทธิ์โดยพระโลหิตของพระเยซู ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ไม่ทรงรังเกียจเดียดฉันท์ท่านเลย ทันทีที่ท่านเชื่อ พระองค์ก็เสด็จมาประทับอยู่กับท่าน ทรงประทานพระวิญญาณให้สถิตอยู่ในท่าน เราต้องเดินตามพระ วิญญาณ ฟังพระสุรเสียงของพระองค์ ผมอ่านเสมอว่าพระเจ้าอยากให้นำคริสตจักรไปทางไหน เหมือนอาจารย์ ริค วอเรน ว่า นำคริสตจักร ต้องนำอย่างการโต้คลื่นไม้กระดาน ต้องดูทิศทางคลื่น คลื่นของพระวิญญาณครับ
4.ท่านคือผู้รับใช้ของพระคริสต์ ( 4:1 )
เป็นผู้อารักขาข้อล้ำลึก นั่นแปลว่าเราเป็นผู้เข้าใจกิตติคุณ ต้องดำเนินและสอนตามนั้น เราต้องรับผิดชอบ
นอกจากนั้น ข้อที่ (4:7) ยังกล่าวว่า เราต้องใช้สิ่งที่เรารับมา พระเจ้าให้ความสามารถพิเศษแก่เราแต่ละคนแตกต่างกัน เราต้องปรนนิบัติพระองค์ด้วยความสามารถ หรือของประทานที่พระองค์ประทานให้ บางคนเป็นผู้เลี้ยง บางคนเป็นครู บางคนเป็นผู้หนุนใจ บางคนพระเจ้าใช้ท่านให้รับใช้ด้วยการปรนนิบัติ พระองค์ใช้ท่านด้วยความสามารถใดท่านจงใช้ ให้เกิดประโยชน์กับแผ่นดินของพระองค์

คริสตจักรจะเพิ่มพูน พระราชกิจของพระองค์จะขยาย และท่านจะมั่นใจ พระเจ้าทรงเห็นว่าท่านสำคัญ เชื่อถือในตัวท่าน จงทำตัวให้สมกับความไว้วางใจที่พระองค์ทรงประทานให้แก่ท่าน


You can find omega replica watches for sale here, with low price and high quality.



Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่


Visitor 172

 อ่านบทความย้อนหลัง