บทเรียนจากเรื่องมานา

คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2009
คุณเชษฐ์ชัย นรเศรษฐ์ศรีสุข

(อพยพ 16:13-35)
ได้เทศนาไปแล้วในคราวก่อนซึ่งสรุปได้ 3 ประการด้วยกัน

(1)คือเราไม่ควรบ่น ตรงกันข้ามให้เราอธิษฐาน
คนอิสราเอล บ่นตำหนิพระเจ้า และผู้นำ (1-3,8)

(2)ต้องขยัน มีระเบียบ วินัย และรับผิดชอบ
คนอิสราเอลต้องตื่นเช้าไปเก็บมานาทุกวัน (4)

(3)ต้องอดทน,หนักเอาเบาสู้ และอยู่ในโอวาทของพระเจ้า (4)
พวกเขาต้องออกไปเก็บมานาทุกวัน พอกินเฉพาะวันหนึ่ง ๆ เพื่อลองใจว่า เราปฏิบัติตามโอวาทของพระองค์

วันนี้เราจะก้าวต่อไปจากคราวก่อน

(4)เราต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม (16)
คนยิวต้องเก็บมานา คนละ 1 โอเมอร์ คนยิวปลูกส้มในทะเลทราย ต้องเตรียมอุปกรณ์พร้อม นักเรียนจะไปเรียนต้องเตรียมอุปกรณ์ จะสมัครสอบต้องเตรียมหลักฐานให้พร้อม เป็นคริสเตียนต้องมีพระคัมภีร์ส่วนตัว การใช้รถต้องตรวจน้ำมันเครื่อง
(5)การมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กันไปมา
ทำให้อยู่เป็นสุข คนยิวเก็บมากก็ไม่เหลือ เก็บได้น้อยก็ไม่ขาด (17-18) (สดุดี 133:1-3) ต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราจะประสบความสำเร็จ (2 โครินธ์ 8:13-14) เป็นการให้กันไปกันมา ในยามที่พวกท่านมีบริบูรณ์ เช่น เวลานี้ ท่านก็ควรจะช่วยคนเหล่านี้ขัดสน

1)การให้ด้วยใจชื่นชมยินดี สำคัญกว่า จำนวน ในการให้ไม่สนใจมูลค่าที่จะให้
2)ให้ด้วยความพยายามตั้งใจ ตั้งแต่ออกจากบ้านเหมือนคริสตจักรที่เมืองโครินธ์ เมืองล้นเขาจะแบ่งให้
3)ให้แก่ผู้ขัดสน คราวที่เขามี เขาจะคิดถึงเรา
4)ให้สิ่งที่มาจากพระเจ้า เพื่อท่านจะสามารถให้แก่คนอื่นได้ เป็นการสพะท้อน แสดงออกถึงความรัก

(6)อย่าโลภ จนแสดงออกถึงการไม่เชื่อฟัง
อย่าให้เขาเก็บเหลือไว้จนรุ่งเช้า (19-26) อย่าให้เขาขัดขืนพระบัญญัติในการรักษาวันสุบาโต อย่าให้ความกระวนกระวายแยกเราจากพระเจ้า พระเยซูตรัสว่า อย่ากระวนกระวายว่าเราจะเอาอะไรกิน อะไรดื่ม (มัทธิว 6:25)

(7)เป้าหมายสุดท้ายคือแผ่นดินของพระเจ้า
พวกเขากินมานาจนถึงวันสุดท้าย (35)
Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่
Visitor 84

 อ่านบทความย้อนหลัง